เมืองเจียงหลิน อยู่ในช่วงฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ ทุกสิ่งอยู่ในสภาพที่รกร้าง
ในจัตุรัสขนาดใหญ่ มีผู้คนมากมาย หินศิลาดำชิ้นหนึ่งสูงถึงสองฟุตตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง บนหินศิลาดำ ถ้อยคำอันยิ่งใหญ่ของคำว่าวิชาบู๊ มันช่างน่าทึ่งเหลือเกิน
ในวันนี้ เป็นวันรับสมัครของสถาบันสอนวิชาบู๊แห่งประเทศอู่อัน เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีในเมืองเจียงหลินสามารถสมัครได้ทั้งหมด ตราบใดที่ผ่านการทดสอบ พวกเขาก็จะสามารถเข้าไปฝึกฝนในสถาบันสอนวิชาบู๊เป็นเวลาสามปี และกลายเป็นนักบู๊ที่ทุกคนชื่นชม
“คนต่อไป ลู่ฝาน”
ตามผู้ตรวจการ ด้วยเสียงตะโกน ชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดปีก้าวออกจากฝูงชน เขาร่างผอมเพรียว ใบหน้าหล่อเหลา สวมใส่ชุดนักบู๊สีขาว และที่หน้าอกของเขามีโลโก้ของตระกูลลู่แห่งเมืองเจียงหลิน
เดินอย่างช้าๆ ลู่ฝานเดินไปถึงข้างหน้าหินศิลาดำ และตั้งท่าทางของเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
อาจารย์ของสถาบันสอนวิชาบู๊ที่ยืนอยู่ข้างๆ พยักหน้าเล็กน้อย เขาชื่นชอบสายตาของลู่ฝานอย่างยิ่ง มันมีพลังมาก
ลู่ฝานชกต่อยที่หินศิลาดำที่อยู่ข้างหน้าเขา ทันใดนั้นหินศิลาดำก็สว่างขึ้นมา เผยให้เห็นบรรทัดข้อความ ทำให้ทุกคนในจัตุรัสมองเห็นได้ชัดเจน
“แดนฝึกร่างชั้นสาม ระดับต่ำ”
มีเสียงเยาะเย้ยดังขึ้นในจัตุรัส อาจารย์ในสถาบันสอนวิชาบู๊ที่รู้สึกเห็นชอบจากเดิมก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“แค่แดนฝึกร่างชั้นสามก็กล้าที่จะขึ้นมาอวดดี อยากจะให้ฉันขำตายงั้นเหรอ?”
“นี่เป็นลู่ฝานไอ้ขยะของตระกูลลู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว เขายังอยู่ในระดับแดนฝึกร่างชั้นสาม ช่างเป็นไอ้ขยะที่ไร้ประโยชน์จริงๆ!”
“เขาอายุเกือบสิบแปดแล้วไม่ใช่เหรอ และคาดว่าเขาคงไม่สามารถพัฒนาถึงระดับพลังปราณในชีวิตนี้ได้หรอก”
“ลงมาเถอะ อย่าขายหน้าอีกเลย หน้าของตระกูลลู่พวกนายถูกไอ้ขยะอย่างนายทำลายทิ้งหมดแล้ว”
…….
การเยาะเย้ยแต่ละเสียงผสมกับการหัวเราะเยาะ ลู่ฝานแอบกัดฟันของเขา และหมัดที่กำแน่นของเขานั้นเพราะใช้แรงเกินไป และทำให้เล็บของเขาทิ่มแทงเข้าไปในเนื้ออย่างลึกล้ำ ลู่ฝานหันศีรษะ มองไปทางที่พ่อเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ ชายผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็นพยัคฆ์พลังปราณแห่งตระกูลลู่นั้นสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
เสียงถอนหายใจราวกับดังก้องอยู่ในหูของลู่ฝาน เขากัดฟัน และลู่ฝานก็เดินลงมา
“คนต่อไป ลู่หมิง”
ผู้ตรวจการยังคงเรียกชื่อต่อไป และชายหนุ่มที่อายุราวๆ กับลู่ฝานก็เดินออกมา ชนกับลู่ฝานที่ไหล่พร้อมๆ กัน และเยาะเย้ยว่า “ไอ้ขยะ จะให้นายลองดูว่านักบู๊คืออะไร”
ลู่ฝานถูกเขาชนจนโซเซเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้โจมตี เขาก้าวออกไป โดยไม่พูดอะไร ลู่หมิงซึ่งเดินไปข้างหน้าหินศิลาดำออกหมัดชกต่อยด้วยความแรง และด้วยเสียงอู้อี้ หินศิลาดำก็ระเบิดออกเป็นแสง
“แดนฝึกร่างชั้นแปด ระดับสูง”
ทันใดนั้น ฝูงชนก็อุทานด้วยเสียงความประหลาดใจ และแม้แต่ผู้ตรวจการก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาในเวลานี้
ลู่ฝานหันศีรษะไปดูคำว่าแดนฝึกร่างชั้นแปดที่เปล่งประกายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้บนหินศิลาดำ ม่านตาของเขาหดตัว ฝูงชนโดยรอบเริ่มที่จะชื่นชมยินดี
“แดนฝึกร่างชั้นแปดเลยเซียว ลู่หมิงของตระกูลลู่นั้นทรงพลังจริงๆ ฉันว่าเขาจะเป็นหัวหน้าคนต่อไปของตระกูลลู่”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับน้องไอ้ขยะของเขา ลู่หมิงถึงเป็นคนที่ถูกคัดเลือกอย่างไม่ต้องสงสัย ดูการฝึกฝนวิชาบู๊ของเขาสิ!”
“ฉันว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานเขาก็จะสามารถพัฒนาจนไปมีพลังปราณได้ เมื่อถึงเวลานั้นเมืองเจียงหลินของเราก็จะมีนักบู๊เพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว”
“ลู่หมิงเป็นความภาคภูมิใจของเมืองเจียงหลินของเราเลยทีเดียว”
……
ลู่หมิงที่ได้ใจได้อ้าแขน เพื่อรับเสียงเชียร์จากฝูงชน อาจารย์ของสถาบันสอบวิชาบู๊ที่นั่งอยู่ข้างๆ ต่างก็ปรบมือเบาๆ และพวกเขาก็รับนักเรียนเพิ่มเข้ามาอีกคน อายุสิบแปดปี แดนฝึกร่างชั้นแปด ผลลัพธ์นี้มันก็พอจะผ่านเข้ารอบได้
หลังจากที่ลู่หมิงลงมา ผู้ตรวจการก็ได้อ่านชื่อบุคคลต่อไปอีกครั้ง
“คนต่อไป จางเยว่หาน”
สาวน้อยงามสง่าเดินออกมา สวมใส่ชุดกระโปรงยาว แต่นางกลับงดงามยิ่งนัก
ริมฝีปากสีแดงสดใส ดวงตาที่สวยงาม เอวเล็กดั่งกำมือ ผมดำเหมือนน้ำตก จางเยว่หานเดินไปที่หินศิลาดำ และใช้ฝ่ามือตบเข้าที่หินศิลาดำ
เสียงแตกสลายที่ชัดเจนก็ได้ดังขึ้นมา จากนั้นหินศิลาดำก็ส่องแสงประกายเจิดจ้าขึ้นมา
“แดนฝึกร่างชั้นเก้า ระดับสูง”
ทุกคนที่อยู่ในสถานที่ต่างหายใจเข้าลึกๆ เหล่าอาจารย์ของสถาบันสอบวิชาบู๊ก็ต่างพากันยืนขึ้นมาในเวลานี้ สายตาจ้องมองไปที่จางเยว่หานอย่างแน่นหนา และในที่สุดก็พบต้นกล้าที่ดี
หัวหน้าของตระกูลจางหัวเราะจนหุบปากไม่อยู่แล้ว และหัวหน้าตระกูลทั้งสองที่อยู่ข้างๆ เขาเริ่มจับมือเพื่อแสดงความยินดีกับหัวหน้าตระกูลจาง มีลูกสาวเช่นนี้หนึ่งคน ตระกูลก็จะเจริญรุ่งเรือง
“แดนฝึกร่างชั้นเก้าเลยทีเดียว จางเยว่หานช่างน่าทึ่งจริงๆ คุณคือเทพธิดาของฉัน”
“ปรากฏว่าผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในเมืองของเราคือจางเยว่หานนั่นเอง คราวนี้ตระกูลจางจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งแล้ว”
“จางเยว่หาน คุณคือไอดอลของผู้หญิงของเรา”
……