เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า – บทที่ 139

บทที่ 139

ลู่ฝานเดินออกมาช้าๆ หันหลังเดินไปที่หน้าประตูห้องตัวเองก่อน

หลินฉีมองการกระทำที่เชื่องช้าของลู่ฝาน หัวเราะพรืด แล้วพูดว่า “นายต้องกลับไปนอนสักรอบสินะ วางใจเถอะ ฉันรอได้”

ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “ไม่วุ่นวายแบบนั้นหรอก แค่หยิบอาวุธเท่านั้น”

ลู่ฝานยื่นมือไปหยิบกระบี่หนักและทื่อ ที่วางข้างประตูขึ้นมา

จับกระบี่ไว้ในมือ ลู่ฝานรู้สึกว่ากระบี่หนักไร้คมนี้เบาลงไปเยอะ เหมือนหินผนึกกำลังบนด้ามกระบี่ ควบคุมเขาน้อยลง

ลู่ฝานค่อยๆ เดินกลับมา พูดอย่างราบเรียบว่า “เริ่มได้แล้ว”

แววตาหลินฉีเย็นชาลงทันที ปลดปล่อยพลังปราณของตัวเอง ออกมาอย่างรวดเร็ว

ลำแสงขนาดประมาณริบบิ้น วนเวียนอยู่รอบตัวหลินฉี พลังปราณอันแข็งแกร่ง พัดจนดินทรายใต้เท้า ปลิวขึ้นมา เผยให้เห็นพื้นสะอาด

สะบัดมือขวา ดาบยาวที่ก่อตัวจากพลังปราณ ปรากฏขึ้นในมือ ดาบยาวสีขาว มีแสงกะพริบ

“พลังปราณกลายเป็นอาวุธ แดนปราณนอกเหรอ”

หานเฟิงพูดอย่างตกใจอยู่ข้างๆ หลังจากศิษย์พี่ใหญ่ มองดูอย่างละเอียด จึงพูดว่า “พลังปราณกลายเป็นตัวดาบ แต่ไม่มีด้ามดาบ ลวดลายปราณ แค่กำลังจะเหยียบประตูธรณีสู่แดนปราณนอก ยังไม่เรียกว่าแดนปราณนอก”

หานเฟิงส่งเสียงตอบรับ ยิ้มแล้วพูดว่า “ผมว่าแล้ว พรสวรรค์ของหลินฉี ก็แค่นั้น ศิษย์พี่ฉู่เทียนไม่ได้ก้าวหน้าอะไรมาก เขาก็คงไม่สามารถก้าวหน้าสู่แดนปราณนอกได้เร็วขนาดนั้นเหมือนกัน”

ฉู่เทียนปรายตามองหานเฟิง แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องหานเฟิง ต่อไปเวลานายเปรียบเทียบ ช่วยเอาตัวเองไปเทียบกับเขา ไม่งั้นฉันจะหาโอกาสให้นาย เทียบกับนักบู๊แดนปราณนอกของคณะอื่น”

หานเฟิงหัวเราะ เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “วันนี้อากาศดีสุดๆ เลย”

ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ พลังปราณของหลินฉี ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ก็ดี ให้เขาได้ฝึกฝีมือ

ลู่ฝานปล่อยปราณชี่ของตัวเองออกมา เป็นปราณชี่ที่เหมือนกับเปลวไฟเหมือนเดิม

แต่ข้างในปราณชี่ มีความเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนเล็กน้อย ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ส่องลงมา เหมือนมีวงแหวนเจ็ดสีสะท้อนออกมา

การเปลี่ยนแปลงทีละนิดทำให้คนมองเห็นได้ยาก อาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์เต้ากวงที่อยู่ใกล้สุด ยังไม่เห็นว่าปราณชี่ของลู่ฝานผิดปกติไป

หลินฉีเห็นว่าผลการฝึกตนของลู่ฝาน แค่แดนปราณในชั้น4 จึงแสยะยิ้มมุมปากอย่างไม่สบอารมณ์

แค่แดนปราณในชั้น4 พูดตรงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะจางเยว่หาน หลินฉีคงขี้เกียจจะท้าสู้ด้วย

ใครใช้ให้เขาอยากเอาชนะใจหญิงงามกันล่ะ

“นายลงมือเถอะ เดี๋ยวจะหาว่าฉันรังแกนาย”

หลินฉีพูดเสียงก้อง

สีหน้าดูมีความเย่อหยิ่ง หลินฉีเชิดหน้าขึ้น เหมือนก้มลงมองมดอย่างลู่ฝาน

จางเยว่หานสีหน้าตื่นเต้น เธอรอวันนี้มานานแล้ว วันนี้เธอจะได้เห็นหลินฉีเอาชนะและทำร้ายลู่ฝาน ถึงกระทั่งที่ทำให้ตาย เธอถึงจะพอใจ เธอถึงจะหายแค้น

ลู่ฝานได้ยินคำพูดของหลินฉี รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า

ให้เขาลงมือก่อนงั้นเหรอ ได้สิ งั้นเขาไม่เกรงใจแล้วละกัน

ลู่ฝานแอบเคลื่อนไหวปราณชี่ของตัวเอง ใช้พลังปราณส่วนหนึ่ง แปรเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณ

ในหัวของเขานึกถึงวิธีการใช้พลังวิญญาณของเซียนบู๊หนึ่งเดียว พลังวิญญาณสีใสปรากฏบนฝ่ามือเขา จากนั้นปกคลุมบนตัวกระบี่

ลู่ฝานเดินเข้ามาช้าๆ เมื่อห่างจากหลินฉีประมาณสิบก้าว จึงสะบัดกระบี่เบาๆ

ดูเหมือนเป็นกระบี่ไร้เรี่ยวแรง แต่กลับมีการเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาดกลางอากาศ พลังวิญญาณบนตัวกระบี่ของลู่ฝานหายไปทันที หานเฟิง ฉู่สิง จางเยว่หานและคนอื่นรู้สึกสติวูบไหวเพราะสิ่งนี้ เหมือนมีอะไรหนักๆ มากระแทกหัว

ต่อมา หลินฉีเบิกตาโตเหมือนเห็นผี ตัวขยับไม่ได้ อยากหลบก็หลบไม่ได้

พลังปราณที่ไหลเวียนบนตัวแตกสลายไปทันที เสื้อผ้าส่วนบนของหลินฉี ก็ขาดด้วยเช่นกัน

พรวด หลินฉีกระอักเลือด และกระแทกลงกับพื้น จนทำให้พื้นแยกออกเป็นรอยร้าวลึกลงไป ตัวเขาเกือบจมลงไปในดิน

ลู่ฝานตกใจมาก พลังวิญญาณแข็งแกร่งถึงขนาดนี้เลยเหรอ

เป็นไปไม่ได้ ปราณชี่ของเขายังไม่น่ากลัวขนาดนี้ ทำไมพลานุภาพการโจมตีของพลังวิญญาณถึงแข็งแกร่งเพียงนี้

ต้องรู้ว่าปราณชี่ส่วนเดียวของเขา สามารถกลายเป็นพลังวิญญาณสิบส่วน ดูจากการเปรียบเทียบนี้ ปราณชี่ของเขาต้องแข็งแกร่งกว่าพลังวิญญาณสิถึงจะถูก!

ลู่ฝานขมวดคิ้ว ปราณชี่ไหลเวียนอยู่ในตัว

จากการไหลเวียนของปราณชี่ พลังฟ้าดินรอบๆ พุ่งเข้ามาในตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง เพื่อเติมเต็มพลังของเขา

ไม่นาน ปราณชี่ที่เขาสูญเสียไปถูกเติมเต็มกลับมาอย่างรวดเร็ว ลู่ฝานแอบคิดในใจ ความเร็วในการฟื้นฟูไม่เลวจริงๆ

ต่อไปต้องลองดูปราณชี่ของเขา ว่าจะมีประสิทธิภาพอย่างไร

หานเฟิงและคนอื่นอ้าปากค้าง กระบี่เดียว แค่กระบี่เดียวเท่านั้น หลินฉีที่เกือบจะเข้าสู่แดนปราณนอกโดนโจมตีจนกระเด็นออกไป เสื้อผ้าบนตัวไม่เหลือแล้ว

ฉู่สิง ฉู่เทียน และศิษย์พี่ใหญ่เบิกตาโต จางเยว่หานที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หลางเจี้ยนและคนอื่น เหมือนกับเห็นผี

โดยเฉพาะจางเยว่หาน หน้าซีดเผือดทันที ตัวสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้

อาจารย์อี้ชิง อาจารย์เต้ากวงยังดีหน่อย แต่ทั้งสองเริ่มหนังตากระตุก

พลังที่ลู่ฝานเพิ่งใช้ออกมา เป็นพลังวิญญาณจริงๆ พลังวิญญาณที่สมบูรณ์ พลังวิญญาณที่สามารถใช้เป็นปราณได้

“สวรรค์มีตา!”

อาจารย์อี้ชิงสูดหายใจลึก แล้วพูดออกมา

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

Status: Ongoing

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า แปลไทย นักยุทธ์ พลังเหนือฟ้า ฝึกฝนชี่เซียน เหนือความมุ่งหวัง ทางฝาน ครูฝึกชี่ที่โลกยุทธ์ ด้านนึงหยินหยาง ด้านนึงเอกภพ แผ่นดินใต้หล้า เพียงแค่เราผู้จอมเทวดา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท