บทที่ 276
แววตาลู่ฝานวูบไหวเล็กน้อย เงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ท่านผอ. บนตัวผมมีความพิเศษเล็กน้อย จึงรู้วิชาของผู้ฝึกชี่เล็กน้อย”
ท่านผอ.พยักหน้านิ่งๆ “อืม อายุแบบนาย มีความสำเร็จขนาดนี้ มีความพิเศษ เป็นเรื่องปกติมาก แต่ฉันต้องเตือนนายไว้ ทุกสิ่งที่ฝึกสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นวิชาบู๊หรือฝึกชี่ ไม่มีใครที่ไม่มีความพิเศษ ตอนนี้ฉันไม่ได้เปิดโปงนาย แต่หวังว่าต่อไปนายจะรอบคอบ หลอกลวงต้องหลอกให้แนบเนียน”
ท่านผอ.พูดถึงตรงนี้ แล้วหัวเราะเบาๆ ออกมา
ลู่ฝานเห็นรอยยิ้มของท่านผอ. ก็เข้าใจทันที
“ที่แท้ท่านผอ.รู้ทุกอย่างแล้ว”
ท่านผอ.หัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่ได้รู้ทั้งหมดหรอก อย่างเช่น สถานการณ์ในจวนอากาศธาตุของนาย ฉันไม่รู้จริงๆ แต่เมื่อนายออกจากจวนอากาศธาตุ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น จะปิดบังเทียนฉี่ได้ยังไง ในเมื่อปิดบังเทียนฉี่ไม่ได้ ก็ปิดบังฉันไม่ได้เหมือนกัน ตอนเอี๋ยนชิงออกจากจวนอากาศธาตุ ฉันเห็นอย่างชัดเจน หม้อสือฟางโดนพวกเฟิงหลิงขุดขึ้นมายังไง ฉันก็เห็นอย่างชัดเจน ต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร แม้ไม่รู้ทั้งหมด แต่ก็พอรู้อยู่บ้าง แค่ไม่พูดเท่านั้น จ้าวซวี่อะไรนั่นคิดว่าฉันเลอะเลือนจริงๆ หรือไง”
ลู่ฝานพูดว่า “แล้วทำไมท่านผอ.ยัง……”
ท่านผอ.ยิ้มแล้วมองลู่ฝาน “เพราะฉันอยากเห็นการแสดงออกของนาย”
ลู่ฝานกลืนคำที่จะพูดลงไป ส่ายหน้าแล้วยิ้มแหย
ท่านผอ.พูดว่า “แต่การแสดงออกของนาย ทำให้ฉันตกใจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นราศีหรือความสุขุม ความไม่กลัวอันตราย ไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวเกินจนดูต้อยต่ำ เห็นบุคลิกของผู้กล้าอายุน้อย นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงพานายมาที่นี่ นายคิดว่าในสถาบันสอนวิชาบู๊ ศิษย์ทุกคนจะมาลองเขตวิถีที่นี่ได้เหรอ”
ลู่ฝานประสานมือคำนับ “ขอบพระคุณท่านผอ.มากครับ”
ท่านผอ.โบกมือไปมาเบาๆ “ตอนนี้ไม่พูดเรื่องพวกนี้ก่อน สุดท้ายจะถามนายอีกว่าอุดมคติของนายคืออะไร”
ลู่ฝานตอบโดยไม่ต้องคิดว่า “ผมจะเป็นผู้แข็งแกร่ง”
ท่านผอ.ยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้แข็งแกร่งแบบไหน”
ลู่ฝานพูดว่า “ผู้แข็งแกร่งที่แข็งแกร่งกว่าทุกคน แค่ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมจะแข็งแกร่งให้ได้”
ท่านผอ.ยกยิ้มมุมปาก จากนั้นหัวเราะออกมา
“น่าสนใจๆ ฉันรอวันที่นายมาเมืองหลวงแล้วล่ะ เอาล่ะ ลู่ฝาน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นายเข้าออกที่นี่ได้ตามใจชอบ การต่อสู้จัดอันดับของสถาบัน ฉันแนะนำว่านายอย่าเสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ รีบฝึกฝนคือสิ่งสำคัญ สองสามวันต่อจากนี้ นายใช้สิ่งที่ทำความเข้าใจ 2-3 วันนี้ให้ดี อย่าลงมือแบบประมาทอีก”
พูดจบ ตัวของท่านผอ.กลายเป็นลำแสง หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลังผ่านไปหนึ่งวัน ที่คณะสงบใจ
แม่น้ำภูเขาอันงดงามไร้ที่ติ นี่คือการประเมินที่ลู่ฝานพูดในใจ เมื่อมาถึงคณะสงบใจ
ไม่ว่าจะเป็นเขาหยู่เฟิงที่ตั้งของคณะสงบใจ หรือสิ่งก่อสร้างอันประณีตงดงามในคณะสงบใจ เหมาะสมกับการประเมินนี้มาก
“ศิษย์น้องลู่ฝาน นายว่าเสื้อตัวนี้ของฉันเป็นไง ยับหรือเปล่า ผิดรูปไหม ที่สำคัญคือเท่ไหม”
ศิษย์พี่หานเฟิงเชิดหน้าขึ้น อกผายไหล่ผึ่ง พยายามทำท่าดุดันออกมา
แต่น่าเสียดายความดุดันของเขาทำได้เพียงโอหัง ไม่สามารถแสดงออกมาได้
ลู่ฝานมองแล้วพูดราบเรียบ “อืม ดีมากครับ เท่สุดๆ ไปเลย!”
“ฮ่าๆ ฉันบอกแล้ว แค่คนหน้าตาดี สิ่งอื่นเป็นแค่สิ่งที่จับต้องไม่ได้ เสื้อผ้าแค่ทำให้ฉันดูเท่ขึ้นเท่านั้น โอ๊ย ศิษย์พี่ฉู่สิง อย่าเอามือที่เข้าห้องน้ำแล้วไม่ล้างมาโดนผม”
ฉู่สิงถลึงตาใส่หานเฟิง “อย่าพูดไร้สาระ ฉันเข้าห้องน้ำไม่ล้างมือตอนไหน ศิษย์น้องหานเฟิง ถ้านายทำให้ฉันมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อหน้าพวกศิษย์น้องหญิงคณะสงบใจ กลับไปฉันจะทำให้นายรู้ว่าควรเคารพศิษย์พี่อย่างไร”
ทั้งสองมองหน้ากัน ศิษย์พี่ฉู่เทียนกับศิษย์พี่ใหญ่จัดเสื้อผ้า พากันมองหานเฟิงกับฉู่สิงอย่างดูหมิ่น
วันนี้ทั้งคณะหนึ่งเดียว รวมอาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์เต้ากวงในนั้นด้วย ล้วนเปลี่ยนชุดใหม่ดูดี
มองชุดคลุมบู๊ใหม่เอี่ยม แล้วมองผมที่หานเฟิงเอาน้ำลายปาดจนเรียบแปล้ แววเหมือนสุนัขเลีย วันนี้เจ้าดำยังตามมาด้วย บนตัวมีชุดที่ทำมาจากกางเกงบ็อกเซอร์ของศิษย์พี่ใหญ่ เจ้าดำที่ตัวใหญ่ประมาณสิงโต ดึงเสื้อบนตัวไม่หยุด เหมือนการสวมชุดนี้ เป็นการหยามเกียรติของสัตว์อสูรอย่างมัน
เดิมทีลู่ฝานคิดว่าการแข่งกับคณะสงบใจวันนี้ พวกศิษย์พี่จะให้เขามาคนเดียวอีก
คิดไม่ถึงว่าพวกศิษย์พี่ กระตือรือร้นกว่าเขามาก เตรียมตัวไว้นาน เมื่อลู่ฝานกลับมา วันต่อมาจึงมาที่คณะสงบใจ