บทที่ 279
ในโถงหลัก อาจารย์อู๋โฉวกับอาจารย์อี้ชิงยืนขึ้น
ครูคนหนึ่งนำเอกสารมา ทุกคนเซ็นอย่างรวดเร็ว เมื่อจัดการเอกสารเสร็จ การแข่งขันจึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
พริบตาเดียว โต๊ะเก้าอี้เลื่อนไปด้านหลัง นักเรียนคณะสงบใจก็ลุกขึ้นอย่างรู้งาน พากันยืนตรงมุมสี่มุมในโถงใหญ่ เหลือพื้นที่ตรงกลางไว้เป็นที่แข่งขัน
“เชิญ!”
“เชิญ!”
เก้าอี้หวายสามตัวผุดขึ้นมาจากใต้ดิน อยู่ด้านล่างใกล้กับกระจกจำภาพบานที่อยู่เหนือสุด
อาจารย์ทั้งสามท่านนั่งลง ครูพูดว่า “การแข่งขันจัดอันดับคณะ ระหว่างคณะหนึ่งเดียวกับคณะสงบใจ เริ่มได้”
เมื่อพูดจบ หลินเสี่ยวอวิ๋นคณะสงบใจเดินออกมาคนแรก
“ฉู่เทียน นายออกมา”
หลินเสี่ยวอวิ๋นชี้หน้าศิษย์พี่รองฉู่เทียน แล้วพูดเสียงดัง
ลู่ฝานอึ้งไป ฟังจากน้ำเสียงของผู้หญิงคนนี้ เหมือนมีความสัมพันธ์อะไรกับศิษย์พี่ฉู่เทียน ขนาดเจ้าดำยังหันไปมองศิษย์พี่ฉู่เทียน
ศิษย์พี่หานเฟิงหัวเราะ พูดข้างหูลู่ฝานว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ตกใจใช่ไหม ฉันบอกอะไรให้รู้นิดหน่อยไหม”
ลู่ฝานพูดว่า “อย่าบอกนะว่าศิษย์พี่ฉู่เทียนกับหลินเสี่ยวอวิ๋นมี……”
หานเฟิงยักคิ้วหลิ่วตาแล้วพูดว่า “ไม่ใช่แค่มี นายก็รู้ คณะหนึ่งเดียวของเราอยู่ที่เก้าทุกปี ทุกครั้งที่ต่อสู้ คณะที่เจอเป็นคณะแรกคือคณะสงบใจ อันที่จริงฉันสู้ได้ไม่เลวนะ แต่ทุกครั้งที่ถึงตาศิษย์พี่ฉู่เทียน เขาจะแพ้ให้กับหลินเสี่ยวอวิ๋น เหตุการณ์แท้จริงเป็นไง นายรู้ดี”
ศิษย์พี่ฉู่สิงยื่นหน้าเข้ามา “ฉันจะบอกพวกนายให้นะ หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ฉู่เทียนบอกว่าจะขึ้นเขาไปเก็บตัว อันที่จริงไปหาหลินเสี่ยวอวิ๋น”
ลู่ฝานกับหานเฟิงอ้าปากค้าง ศิษย์พี่ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ตบหลังฉู่เทียน “ฉู่เทียน เขาเรียกนายน่ะ ยังไม่รีบไปอีก!”
สีหน้าฉู่เทียนไม่เคยกระอักกระอ่วนแบบนี้มาก่อน เขาเดินออกไปช้าๆ
ครูพูดออกมาพอดีว่า “รอบแรก ฉู่เทียนคณะหนึ่งเดียวสู้กับหลินเสี่ยวอวิ๋นคณะสงบใจ เริ่มสู้ได้”
หลินเสี่ยวอวิ๋นสะบัดมือ กระบี่เมฆาห้าสีปรากฏขึ้นในมือ เธอมองฉู่เทียนแล้วพูดว่า “ฉู่เทียน ถ้าวันนี้นายยังทำอย่างขอไปทีอีก อย่าหาว่าฉันลงมืออย่างไร้เยื่อใย”
“โอ๊ะ……”
หานเฟิงส่งเสียงออกมา ฉู่สิงที่อยู่ข้างๆ ปิดปากเขาไว้
ฉู่เทียนมองหลินเสี่ยวอวิ๋น ด้วยสีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
ลู่ฝานพูดด้านล่างว่า “เฮ้อ ดูเหมือนรอบแรกคงไม่สวยแล้ว”
อาจารย์อู๋โฉวเห็นดังนั้น จึงยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนนักเรียนคณะสงบใจ โดนคนคณะหนึ่งเดียวเอาไปอีกคนแล้ว”
อี้ชิงพูดว่า “ศิษย์คณะหนึ่งเดียว ล้วนห้าวหาญ หน้าตาก็ได้ พละกำลังก็ได้ อยู่กับคนคณะหนึ่งเดียว ไม่ผิดแน่นอน”
“เหรอ”
อาจารย์อู๋โฉวหันมามองอี้ชิง มองพุงของอี้ชิงไปมา
อี้ชิงพยายามแขม่วพุง แต่ดูเหมือนยังไม่ได้แขม่ว
ในที่ประลอง หลินเสี่ยวอวิ๋นจ้องฉู่เทียนแล้วพูดว่า “เอาดาบออกมาสิ”
ฉู่เทียนยืนนิ่งที่เดิม หลินเสี่ยวอวิ๋นจ้องเขม็ง ถือกระบี่พุ่งเข้ามา
พลานุภาพพลุ่งพล่าน ทันใดนั้น หลินเสี่ยวอวิ๋นใช้พละกำลังปราณในขั้นสูงสุดออกมาทันที ผลการฝึกตนระดับนี้ ไม่ต่างจากก่อนที่ลู่ฝานจะให้ยากับฉู่เทียน
กระบี่พุ่งไปที่หน้าอกของฉู่เทียน
นักเรียนหญิงจำนวนไม่น้อย ต่างส่งเสียงตกใจออกมา ทำไมตอนนี้ฉู่เทียนไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
วินาทีต่อมา กระบี่ของหลินเสี่ยวอวิ๋นปักลงบนตัวฉู่เทียน
เลือดหยดหนึ่งไหลลงมาตามตัวกระบี่