เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 512
ภูเขารายล้อม น้ำใสต้นไม้เขียวขจี เห็นได้ชัดว่าไม่ได้อยู่ในเมือง
ในลานคฤหาสน์มีดอกไม้เพียงชนิดเดียว นั่นคือดอกทิวลิป ออกดอกบานสะพรั่ง ไม่รู้ว่าทำไมฤดูนี้ ถึงมีวิวแบบนี้ด้วย
ผู้อาวุโสปัดฝุ่นบนตัว ราวกับว่าถูกค่ายกลส่งมา มันเปื้อนฝุ่นอย่างไรอย่างนั้น
“เข้าไปสิ ด่านที่สามอยู่ข้างใน ไม่ต้องกังวลเกินไป ด่านที่สามไม่ใช่การต่อสู้ แต่จะพูดว่ายากก็ยาก พวกคุณเข้าไปเถอะ คนที่ไม่เข้าเกณฑ์คนอื่นๆ ถูกส่งออกไปแล้ว ฉันจะรอพวกคุณด้านนอก”
ผู้อาวุโสเอาสองมือไพล่หลัง มองลู่ฝานกับเซี่ยวเอ๋อร์ด้วยรอยยิ้ม
เงยหน้ามองไปข้างหน้า ด้านในมีห้องหนึ่งห้อง ประตูเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง
ลู่ฝานกับเซี่ยวเอ๋อร์มองหน้ากัน ทั้งสองเดินเข้าไป ตอนที่ผลักประตู มีแสงสีทองจากห้อง ส่องลงมาบนตัวทั้งสองคน
ทันใดนั้น ลู่ฝานรู้สึกถึงปราณยิ่งใหญ่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขา แม้ไม่มีท่าทีจะโจมตีใดๆ แต่ระดับความแข็งแกร่งของพลังนี้ ทำให้คนตกใจเป็นอย่างมาก ต้องเป็นพลังของนักบู๊ที่อยู่เหนือแดนปราณฟ้าอย่างแน่นอน พลังแค่นี้ กลับกดดันปราณชี่ในตัวลู่ฝาน จนไม่สามารถขยับได้
ด้านหน้า ผู้อาวุโสเครายาวนั่งอยู่บนเบาะทรงกลม ด้านหลังมีป้ายวิญญาณเรียงเป็นแถว
เดิมที่มีป้ายวิญญาณวางอยู่เต็มห้อง มีป้ายวิญญาณบางส่วนปล่อยแสงบางๆ ออกมา บางส่วนมืดมนไร้แสง ผุพังไปตามกาลเวลา
ผู้อาวุโสเครายาวลืมตาขึ้น เคราด้านหน้าที่ยาวจนถึงพื้น ปกปิดเสื้อเขาไว้
ผู้อาวุโสเป็นคนพิการ ไม่มีแขนไม่มีขา แต่ในตามีประกายที่น่าตกใจ
ทันใดนั้น ลู่ฝานกับเซี่ยวเอ๋อร์รู้สึกว่าปราณยิ่งใหญ่ในร่างกายหายไป
ผู้อาวุโสพยักหน้าพูดว่า “ครั้งนี้มีแค่สองคน ดูเหมือนด่านที่พวกนายเจอคงยาก บอกฉันมาสิว่าพวกนายเจอด่านไหน”
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “เขาดาบทะเลเพลิง!”
“อะไรนะ”
ผู้อาวุโสตกใจเล็กน้อย
“เป็นเขาดาบทะเลเพลิงเหรอ อืม ด่านระดับนี้ พวกนายสองคนยังผ่านมาได้ ดูมีฝีมืออยู่นะ ในเมื่อเข้ามาถึงขั้นนี้ได้ ผ่านปราณยิ่งใหญ่มาได้ ก็ไม่ใช่คนที่ฝึกฝนชั่วร้าย เข้ามาสิ มานั่งข้างหน้าฉัน”
ลู่ฝานกับเซี่ยวเอ๋อร์ตอบรับเบาๆ ทั้งสองนั่งด้านหน้าผู้อาวุโส
ผู้อาวุโสมองเซี่ยวเอ๋อร์ก่อน จากนั้นยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ลูกสาวตระกูลอี้ว์ ครั้งก่อนตอนฉันไปตระกูลเธอ ได้พูดกับเธอแล้ว ตำแหน่งนี้เธอจะได้หรือไม่ก็เหมือนกัน ไม่คุ้มค่าที่ลำบากแบบนี้”
ลู่ฝานมองเซี่ยวเอ๋อร์อย่างตกใจ เธอเคยเจอผู้อาวุโสที่อยู่ข้างหน้า
ตอนนี้เซี่ยวเอ๋อร์ปล่อยพลังปราณออกมาเบาๆ พลังเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วห้อง
มีเกล็ดน้ำแข็งรวมตัวบนมือเธอ เซี่ยวเอ๋อร์พูดว่า “ปู่ฉานซิน คุณปู่เคยพูดแล้ว แค่ฉันผ่านด่านที่สอง อีกทั้งยังฝึกวิชาเมฆเย็นได้ คุณปู่จะรับฉันเป็นศิษย์ คุณปู่ไม่ได้คิดจะกลับคำใช่ไหม”
ฉานซินพูดว่า “ถูกต้องที่ฉันพูดแบบนี้ ช่างเถอะ ในเมื่อเธอมาแล้ว ฉันจะรับเธอเป็นศิษย์ นี่คือป้ายคำสั่งผู้ตรวจการชั้นล่างของเธอ เก็บมันไว้ หยดเลือดสดเอาไว้ด้านบน”
ฉานซินเพิ่งพูดจบ ด้านหน้ามีป้ายคำสั่งที่รวมตัวจากพลังฟ้าดิน
พลังชี่มหาศาล ลู่ฝานเห็นแล้วตกใจ ผู้อาวุโสด้านหน้าคือผู้ฝึกชี่
นั่นหมายความว่า อันที่จริงเซี่ยวเอ๋อร์ก็เป็นผู้ฝึกชี่ด้วย
เป็นไปตามคาด เซี่ยวเอ๋อร์รับป้ายคำสั่งมา เกล็ดน้ำแข็งบนตัวหายไป พลังของห้าธาตุทะลักออกมา
ถ้าไม่ใช่พลังชี่ของผู้ฝึกชี่จะเป็นอะไรอีก เศษน้ำแข็งบาดนิ้ว เลือดหยดลงด้านบน ทันใดนั้น ป้ายคำสั่งมีแสงสว่างออกมา หนึ่งแยกเป็นสอง
ชิ้นหนึ่งร่วงลงในมือเซี่ยวเอ๋อร์ ส่วนอีกชิ้นหนึ่งลอยเข้าไปในป้ายตำแหน่งในห้อง
ฉานซินพยักหน้าพูด “โอเค อีกสองสามวันค่อยมาหาฉันอีก”
พูดจบ ตัวของเซี่ยวเอ๋อร์ดูเลือนราง จากนั้นก็หายไป
“วิชาเคลื่อนย้าย!”
ลู่ฝานกลืนน้ำลาย อย่างน้อยอีกฝ่ายต้องเป็นเซียนบำเพ็ญชี่
ฉานซินมองลู่ฝานอีกครั้ง แล้วพูดว่า “นายล่ะเจ้าหนุ่ม จะเป็นศิษย์ฉันเหมือนกันไหม”