เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 503
ลู่ฝานขมวดคิ้ว มองแสงบนหินอย่างงุนงง
นักเรียนที่ผ่านไปก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำไมพอถึงตาเขา ถึงเกิดสิ่งประหลาด
คนด้านหลังจ้องภาพตรงหน้า
เหอาซิงแสยะยิ้ม
“ที่แท้เป็นแค่คนอ่อนแอไม่ได้เรื่อง”
เซี่ยวเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ก็มองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ เธอเอามือปิดปากเบาๆ
“นี่คือไม่ผ่านเหรอ”
ลู่ฝานถามขึ้น
หญิงชราด้านหน้าลู่ฝานมองแสงบนหินสีทอง มีประกายประหลาดอยู่ในแววตา
“เปล่า นายผ่านแล้ว เข้าไปสิ”
ลู่ฝานสงสัย แต่ก็เดินเข้าไปด้านใน แค่ผ่านก็ดีแล้ว
เหอาซิงที่อยู่ด้านหลังพูดอย่างตกใจว่า “เกิดอะไรขึ้น หินทองทดสอบมีปฏิกิริยาแท้ๆ ทำไมถึงให้เขาเข้าไปได้”
คนจำนวนไม่น้อย เห็นด้วยกับคำพูดของเขา
โดยเฉพาะพวกหม่าจิ่น ตะโกนเสียงดังมาก
“จะโกงก็อย่าทำแบบนี้ ทำไมถึงให้เขาผ่าน พวกเราไม่ยอม”
ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ข้างๆ แผดเสียงออกมาว่า “น่ารำคาญ พวกนายจะรู้อะไร ลู่ฝานใช่ไหม นายเข้าไปก่อน วางใจเถอะ นายผ่านแล้วจริงๆ”
ลู่ฝานพยักหน้าแล้วเดินเข้าไป
พวกเหอาซิงยังคงคัดค้าน แต่หญิงชราไม่สนใจพวกเขาสักนิด
แต่เพียงประโยคเดียว กลับทำให้พวกเขาเงียบสนิท
“ใครโวยวายอีก ก็ไม่ต้องสอบประเมินแล้ว กลับบ้านไปซะ”
ทุกคนเงียบลงทันที
เมื่อเข้ามาในตำหนัก ตำหนักสูงเสียดฟ้า ไม่มีตรงไหนดูพิเศษ โถงใหญ่กว้างขวางว่างเปล่า ด้านในไม่มีอะไรเลย
ลู่ฝานหามุมยืนเงียบๆ รอด่านต่อไป
ตามที่เขาอ่านจากข้อมูลเมื่อคืน ต่อไปจะเป็นหัวข้อหลัก
ไม่นาน การคัดกรองขั้นแรกด้านนอกเสร็จสิ้นลงแล้ว
คนที่สมควรไปก็ไปแล้ว คนที่เหลือพากันเข้ามาในโถงใหญ่
ตอนนี้เซี่ยวเอ๋อร์ไม่กล้ายืนข้างลู่ฝานแล้ว
ลู่ฝานมองเธอย่างราบเรียบแล้วพูดว่า “นายยืนห่างผมขนาดนั้น ถึงเวลาผมปกป้องนายไม่ได้นะ”
เซี่ยวเอ๋อร์ขมวดคิ้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันสงสัยมากว่านายจะปกป้องฉันได้ไหม”
ลู่ฝานไม่พูดอะไรมาก เห็นได้ชัดว่าเซี่ยวเอ๋อร์โดนสิ่งที่เกิดขึ้นบนหินสีทอง ทำให้มึนงงและสงสัยไปแล้ว
เธอเข้าใจว่าพละกำลังของลู่ฝานไม่เพียงพอ จึงทำให้หินทองทดสอบมีปฏิกิริยาแบบนั้น
คนจำนวนไม่น้อยในที่นี้ก็เข้าใจเช่นนี้เหมือนกัน ขนาดหม่าจิ่นที่โดนหานเฟิงซัด ยังเข้าใจว่าลู่ฝานเป็นคนไม่เอาไหนเหมือนกัน
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ตอนนี้ผู้อาวุโสกับหญิงชราที่อยู่หน้าประตู กำลังหัวเราะกันอยู่
“สามารถทำให้หินทองทดสอบเคลื่อนไหวได้ วันนี้มีเด็กความสามารถไม่เลวมาอีกคนหนึ่งแล้ว”
“ใช่ อย่างน้อยวันนี้ก็มีคนที่ผ่านผู้ตรวจการชั้นล่างได้หนึ่งคนแล้ว ไปกันเถอะ ฉันอยากเห็นการแสดงออกต่อไปของเขาแล้ว ลู่ฝานใช่ไหม ฉันต้องจำชื่อนี้เอาไว้แล้ว”
……
ไม่นานผู้อาวุโสเดินเข้ามาภายในโถงใหญ่
ผู้อาวุโสเอาสองมือไพล่หลัง ตอนเดินเข้ามา เกิดเสียงดังในโถงใหญ่ ประตูปิดลง
“ต่อไปจะคัดเลือกสิบคนแรก เพื่อเข้าร่วมการทดสอบต่อไป ทุกคนต่อสู้กันที่นี่ มีเพียงสิบคนที่สามารถยืนอยู่ได้ คนที่ไม่อยากตาย สามารถยอมแพ้ตอนนี้ได้”
ผู้อาวุโสพูดจบก็สะบัดมือ ค่ายกลสว่างวาบขึ้นมาจากพื้น
ค่ายกลนี้มีชื่อว่าค่ายกลเจ็ดดาวจำแลง ถ้ามีคนยอมแพ้ สามารถนำคนออกมาจากโถงใหญ่ได้ทันที
ตัวของผู้อาวุโสหายไปในค่ายกลเป็นคนแรก
ทุกคนยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ลงมือทันที
ลู่ฝานมองตรงจุดที่ผู้อาวุโสหายตัวไป แววตาเป็นประกาย