เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 567
เวลาผ่านไปแค่ไม่นานนัก ท่านผู้เฝ้าเมืองที่สูงส่ง ยังต้องนอบน้อมเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
คุณท่านลู่รู้สึกสบายตั้งแต่หัวจรดเท้า สบายจนวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง สบายมาก
รถม้า 20 คันเต็มๆ ล้วนเป็นคนของตระกูลลู่ทั้งหมด ยังไม่ได้พาคนที่ไม่ใช่สายเลือดโดยตรงไป เพราะจะทิ้งธุรกิจในเมืองเจียงหลินไม่ได้
ยังมีคนในตระกูลบางส่วนที่ไม่ได้ตามไปด้วย เช่น สองพ่อลูกลู่เฟิงกับลู่หมิง ตัดสินใจอยู่ที่เมืองเจียงหลิน
ลู่หมิงพูดว่า “ว่าด้วยการขยายอาณาเขต นำพาตระกูลสู่ความรุ่งเรือง ผมเทียบลู่ฝานไม่ได้ แต่ผมมีกำลังที่จะปกป้องทรัพย์สินพื้นฐานของตระกูล”
หานเฟิงพูดตรงกว่าหน่อย
“พวกเราไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ สู้ใช้ชีวิตอย่างสงบที่บ้านเกิดดีกว่า อย่าลืมกลับมาหากันบ่อยๆ!”
ลู่เฮ่าหรานกับลู่หาวไม่ได้บังคับสองพ่อลูก
อันที่จริงตระกูลต้องการคนดูแลทรัพย์สิน ในเมื่อพวกเขายอมอยู่ที่นี่ ก็แล้วแต่ความปรารถนาของพวกเขา คนที่อยู่กับพวกเขายังมีท่านสวิน เมื่อท่านสวินได้รับยา ก็พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ท่านสวินไม่ยอมออกไปไหนไกล แค่อยากอยู่อย่างสงบที่บ้านเกิด
ด้วยเหตุนี้ลู่เฮ่าหรานกับลู่หาวจึงไม่พูดอะไรอีก
ออกจากเมืองเจียงหลิน เดินทางไปบนถนน
คูเมืองและกำแพงเมืองค่อยๆ ห่างออกไปจากสายตา ลู่เฮ่าหรานเห็นกลุ่มคนโบกมืออยู่บนกำแพงเมืองอย่างเลือนราง
ลู่เฮ่าหรานนับดูทีละคน
“ตาเฒ่าเลวตระกูลจาง ไอ้เลวตระกูลหนิว ครอบครัวตาแก่ตงแห่งภาคใต้ อ้อ ทางนั้นยังมีครอบครัวของยัยแก่ทั้งครอบครัว เฮ้อ ต่อไปคงเจอกันยากแล้ว”
ลู่หาวที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างร่าเริงว่า “คุณท่านเศร้าไปทำไม นี่เราจะไปยังเมืองใหญ่ ต่อไปเมืองเล็กๆ แบบนี้คงเข้าตาคุณท่านไม่ได้แล้ว”
ลู่เฮ่าหรานพูดว่า “เพราะอยู่มานานไง ยังไงก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ นายได้ยินที่โจวเจิ้นโส่วพูดหรือเปล่า เขาจะตั้งหอบรรพบุรุษให้ลู่ฝานด้วย”
ลู่หาวหัวเราะออกมา “ดีมาก เขาไม่ขาดทุนแน่ที่สร้างหอบรรพบุรุษ”
ลู่เฮ่าหรานพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ต่อไปลู่ฝานของตระกูลเราจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วใต้หล้า”
……
ในเมืองตงหวาตอนนี้
ลู่ฝานที่พักอยู่ในสวนหอมปาฟาง เพิ่งสิ้นสุดการเก็บตัวมาสองสามวัน
จากความเร็วการฟื้นฟูของเขา อันที่จริงไม่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บกี่วัน แต่แค่การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เขารับรู้อะไรได้มากมาย ลู่ฝานต้องใช้โอกาสตอนที่ความรู้สึกนี้ยังไม่หายไป สัมผัสมันด้วยตัวเองอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะวิธีใช้พลังปราณ อีกทั้งกระบวนท่ายอดกระบี่หวนคืน ที่เขาใช้อย่างไม่รู้ตัว
หลังผ่านการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาหลายวัน ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองจับต้นชนปลายได้แล้ว เรื่องหลายเรื่องไม่ต้องกลัวทำไม่ได้ แต่แค่กลัวว่าคาดไม่ถึง
ปราณชี่ของเขามีศักยภาพมาก ลู่ฝานรู้สึกว่าถ้าเขาเชี่ยวชาญวิธีผลักดันพลัง การต่อสู้ข้ามระดับ ก็ง่ายเหมือนกินข้าวดื่มน้ำ
ถึงกระทั่งที่เขารู้สึกว่ามันจะกลายเป็นวิถีบู๊ของเขา เป็นวิถีบู๊ที่เป็นของเขาอย่างแท้จริง
ลู่ฝานยิ้มมุมปาก เปิดประตูห้องอย่างอารมณ์ดี
เมื่อเพ่งมองดู สิ่งที่ปรากฏในสายตา คือของที่กองเหมือนภูเขาอยู่ในลานบ้าน
“ศิษย์น้องลู่ฝานตื่นแล้วเหรอ ฮ่าๆ นายรีบมาดูสิ รวยอีกแล้ว”
ลู่ฝานหันไปมองตามเสียง จึงเห็นศิษย์พี่หานเฟิงที่ยืนอยู่อีกด้าน
ไม่ต้องคิดลู่ฝานก็รู้ว่าของพวกนี้ ต้องเป็นของขวัญที่พวกคนรวยในเมืองตงหวาส่งมาแน่นอน
ลู่ฝานมองลวกๆ แล้วพูดว่า “ศิษย์พี่หานเฟิงช่วยผมนับดูละกัน พี่เอาไปครึ่งนึง”
หานเฟิงพูดว่า “หึหึ ศิษย์น้องลู่ฝานรวยจริงๆ ศิษย์พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ”