เสียงร้องโอดครวญดังขึ้น ลู่ฝานดึงสติและสมาธิ แต่ขณะที่เขากำลังดึงสติและสมาธิ ความเจ็บปวดเหมือนฉีกขาด แผ่ซ่านในตัวเขา
ลู่ฝานถอยหลังไปสองสามก้าว ฝืนกลืนเลือดที่อยู่ในลำคอตัวเองลงไป
แย่แล้ว หัวใจแห่งความมืดมีความสามารถชิงจิตวิญญาณ ทำให้วิญญาณเน่าเปื่อย!
ลู่ฝานดึงหลิงเหยากับหานเฟิงกลับมา รวมไปถึงเจ้าดำให้ถอยไปด้านหลัง
ศิษย์พี่หานเฟิงกับหลิงเหยาโดนลู่ฝานขัดจังหวะการดู ร่างกายของหลิงเหยากับหานเฟิงสั่นอย่างแรง หลังจากนั้นมีเลือดออกจากมุมปากทั้งสองคน
ลู่ฝานรีบเอายาป้อนให้ทั้งสองคน หลิงเหยาหลบอยู่ด้านหลังลู่ฝาน ไม่กล้ามองมากกว่านี้
ศิษย์พี่หานเฟิงแววตาวูบไหว “เป็นของที่น่ากลัวมาก ให้ตายเถอะ นี่เป็นสมบัติล้ำค่าของผู้ฝึกฝนชั่วร้ายสินะ”
ขณะกำลังพูด คนในหอแดนสวรรค์กระอักเลือดออกมาไม่หยุด หนักกว่านั้นมีคนล้มลงไปกับพื้นด้วย
ขณะนั้น ผู้ชายที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูทำตัวมีประโยชน์ รีบเข้ามาเอาตัวพวกเขาออกไป
คนที่สามารถอดทนได้ มีเพียงพวกที่มีวิทยายุทธสูงส่ง
สุ่ยเชียนโหรวก็มีเลือดไหลตรงมุมปาก เธอกัดฟันพูดว่า “เป็นของของผู้ฝึกฝนชั่วร้ายจริงๆ ควรฆ่า ควรทำลาย ควรกำจัดทิ้ง!”
ตอนนี้ผู้ฝึกชี่จ้าวกวง คุณฟู่กุ้ย ไม่มีความคิดจะเสนอราคาแล้ว
พวกเขาดูออกว่าพวกเขาไม่สามารถครอบครองสิ่งนี้ได้
พลเอกฉือหลงพยายามละสายตาออกมา หลังจากนั้นกัดฟันพูดว่า “รีบไปจัดกำลังทหาร ให้กองทหารขึ้นมาบนเขา จะเกิดเรื่องแล้ว”
มีหรือที่พลเอกเฟิงกับพลเอกสองคนที่เหลือจะไม่เข้าใจ พวกเขารีบเดินออกไปทันที
ใบหน้าของเซียนอวี่ซานซีดเล็กน้อย แต่ในแววตากลับเป็นประกาย
“การประมูลหัวใจแห่งความมืด ในโลกนี้คงมีแค่หอแดนสวรรค์ที่เขตตงหวาเท่านั้น มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ต่อไปเขาอวี่ฮั่วของฉัน ต้องรุ่งเรืองยิ่งใหญ่แน่นอน”
เซียนอวี่ซานพูดพึมพำ เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าในแววตาของตัวเอง เต็มไปด้วยประกายสีแดงก่ำ นี่คืออาการเข้าสู่มาร
หัวใจแห่งความมืดยังเต้นอยู่ แต่ไม่มีใครกล้าจ้องมันแล้ว
จู่ๆ สุ่ยเชียนโหรวพูดเสียงดังว่า “ม้วนวิชาระดับฟ้าหนึ่งม้วน สิ่งนี้เป็นของฉัน!”
ไม่มีใครแย่งชิงหรือพูดอะไร ตอนนี้ไม่มีใครกล้าแย่งชิงสักนิด
ขณะนั้นมีเสียงหัวเราะดังขึ้น
“ฮ่าๆ แค่ม้วนวิชาระดับฟ้ากระจอกๆ คิดจะชิงหัวใจแห่งความมืดไป ลูกตระกูลสุ่ย นับวันยิ่งหูตาคับแคบ”
เมื่อพูดเช่นนี้ ฉางเจี๋ยหน้าผีเหาะขึ้นไปตามเสียง เขาเหาะไปทางหัวใจแห่งความมืด
“คุณผู้ชายท่านนี้จะละเมิดข้อปฏิบัติหรือไง”
จู่ๆ เซียนอวี่ซานโมโหขึ้นมา ตอนนี้ทั้งหอแดนสวรรค์มีอักษยันต์สว่างขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าในอาคารแห่งนี้มีค่ายกล
แต่ฉางเจี๋ยหน้าผีไม่ตระหนกสักนิด ยังคงเหาะไปข้างหน้า ราวกับเดินอยู่บนเมฆ
“ข้อปฏิบัติเหรอ ขอโทษด้วย ฉันเกิดมาก็ไม่รู้ว่าอะไรคือข้อปฏิบัติ พ่อแม่ฉันจะพูดเรื่องข้อปฏิบัติกับฉัน ฉันฆ่าพวกเขาไปหมดแล้ว อาจารย์จะสอนข้อปฏิบัติกับฉัน ฉันก็ฆ่าพวกเขาหมดแล้ว ท่องไปทั่วใต้หล้า คนนับไม่ถ้วนอยากพูดข้อปฏิบัติกับฉัน พวกเขาล้วนตายไปหมดแล้ว หลังจากนั้นฉันเพิ่งรู้ว่าบนโลกนี้มีข้อปฏิบัติเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือพละกำลังคือสิ่งแท้จริง พละกำลังคือข้อปฏิบัติ”
เมื่อพูดเช่นนี้ ฉางเจี๋ยหน้าผีเดินมาข้างหน้าหัวใจแห่งความมืด อีกทั้งยังยื่นมือเข้าไปหาหัวใจแห่งความมืด
เสื้อผ้าที่ตลกของเขากับการแต่งหน้าตลกๆ ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นความประหลาด
หลังจากนั้นผู้ชายสองคนกับผู้หญิงหนึ่งคนด้านหลังเขา ยิ้มอย่างร้ายกาจ
เซียนอวี่ซานเห็นว่าผิดปกติ จึงรีบใช้ค่ายกล ม่านแสงหนึ่งกั้นฉางเจี๋ยหน้าผีกับหัวใจแห่งความมืดเอาไว้
ต่อมาเซียนอวี่ซานสะบัดมือ จะดึงหัวใจแห่งความมืดกลับมา
เดิมทีนี่เป็นเรื่องง่ายมาก เหมือนกับเขาเอายาวิเศษวางไว้ในมือลู่ฝาน แต่เกิดเรื่องประหลาดขึ้นแล้ว หัวใจแห่งความมืดค้างอยู่กลางอากาศ ไม่ขยับไปไหน อีกทั้งมีออร่าสีดำแผ่ซ่านอยู่ด้านบน
“เป็นของจริง”
ฉางเจี๋ยหน้าผียิ้มออกมา รอยยิ้มของเขาเหมือนผี ทำให้รู้สึกหวาดกลัว
ตอนนี้เซียนอวี่ซานปล่อยพลังชี่ออกมา เวลานี้เขารู้สึกผิดปกติ พูดออกมาเสียงดัง “นายเป็นใครกันแน่ ถ้าอยากรนหาที่ตาย กลัวว่านายจะมาผิดที่แล้ว”
ฉางเจี๋ยหน้าผียิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้มาผิดที่ และไม่ได้หาของผิดชิ้น ฉันต้องการมัน ฉันมาซื้อมัน แต่การเสนอราคาของฉัน แค่ไม่มีเงินเท่านั้น”
เมื่อพูดเช่นนี้ ฉางเจี๋ยหน้าผีหัวเราะออกมาเสียงดัง หลังจากนั้นตัวเขาระเบิด
ถูกต้อง ระเบิด แต่ท่ามกลางการระเบิด มีออร่าสีดำอันน่ากลัวปล่อยออกมาด้วย ดวงตาสีแดงก่ำสว่างขึ้นในออร่าสีดำ พร้อมด้วยเสียงพูดดังชัดเจน
“สำหรับชื่อของฉัน นายเรียกฉันว่าอู๋ฉาง”