คนบางตา นักเรียนคณะอื่นก็รีบเดินลงเขา ตามพวกเฉียวเซวียนไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเงาของพวกเฉียวเซวียนหายลับไปจากสายตา จู่ๆ กลุ่มนักเรียนพากันล้อมเข้ามา
“ศิษย์พี่ลู่ฝาน เซ็นชื่อให้หน่อย!”
“ศิษย์พี่ลู่ฝานเขียนอะไรก็ได้ให้ผมสักตัวหนึ่ง”
“ศิษย์พี่ลู่ฝานเก่งเกินไปแล้ว สลักอักษรบนตัวผมสักตัว นี่เป็นเกียรติสูงสุดของผม”
……
เสียงตะโกนดังขึ้น ทำเอาลู่ฝานปวดหัวไปหมด
คนพวกนี้เป็นกันเองเกินไปหน่อยนะ
“นักเรียนคณะหนึ่งเดียว เชิญพวกเขาลงเขา เราจะซ่อมลานประลองบู๊”
เสียงหานเฟิงดังขึ้น นักเรียนคณะหนึ่งเดียวส่งเสียงตอบรับเสียงดังทันที รีบเดินเข้ามาดันนักเรียนคณะอื่นออกไป
ลู่ฝานใช้โอกาสนี้ถอยกลับมา ขณะนั้นลู่ฝานเห็นหลิงเหยาเดินเข้ามา
หลิงเหยาเดินเข้ามา เธอหยิกหน้าและแขนของลู่ฝานทันที “ไม่เป็นไรจริงๆ ด้วย ดีมากเลย ลู่ฝาน หนึ่งปีนี้นายสบายดีใช่ไหม”
ในแววตาของหลิงเหยาพร่ามัวเล็กน้อย เห็นแล้วน่าเอ็นดู
ลู่ฝานจิตใจวูบไหวเล็กน้อย ดึงหลิงเหยามาโอบไว้
“วางใจเถอะ ฉันสบายดี”
หลิงเหยาตอบรับเบาๆ
ขณะนั้นเงาใครบางคน เด้งตัวขึ้นมา
“อะไรกัน ลู่ฝานนายวิ่งเร็วขนาดนั้น ฉันตามไม่ทันแล้ว”
เสียงดังตามมาตรฐานของฮ่วนเย่ว์ดังขึ้น
ทันใดนั้น ฮ่วนเย่ว์เห็นลู่ฝานกอดหลิงเหยาเอาไว้แน่น
ฝีเท้าชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าฮ่วนเย่ว์กระตุกนิดหน่อย
ลู่ฝานหันมามองฮ่วนเย่ว์แล้วพูดว่า “เธอมาช้า เรื่องสนุกจบไปแล้ว”
สีหน้าฮ่วนเย่ว์ดูไม่เป็นธรรมชาติ หลังจากมองไปรอบๆ เธอเบะปากพูดว่า “เรื่องสนุกอะไร ก็แค่กลุ่มคนมาประลองไม่ใช่เหรอ”
ยังไม่ทันพูดจบ ฮ่วนเย่ว์เห็นฉู่สิงนั่งเอนอยู่อีกด้าน อีกทั้งยังมีศิษย์พี่ใหญ่ที่มีเลือดบนตัว
ทันใดนั้น ฮ่วนเย่ว์รู้แล้วว่าไม่ธรรมดาขนาดนั้น
ชะงักไปครู่หนึ่ง ฮ่วนเย่ว์ถามว่า “อย่าบอกนะว่าคณะหนึ่งเดียวของเราแพ้”
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ แล้วพูดพึมพำว่า “พวกเรางั้นเหรอ”
ทันใดนั้น ลู่ฝานเพิ่งนึกออก ฮ่วนเย่ว์เข้าคณะหนึ่งเดียว หลังจากการต่อสู้จัดอันดับคณะครั้งที่แล้ว
หานเฟิงเดินเข้ามาพูดว่า “เป็นไปได้ยังไง ศิษย์น้องลู่ฝานรีบกลับมาขนาดนี้จะแพ้เหรอ ฮ่าๆ ศิษย์น้องลู่ฝาน ปีนี้นายไปลำบากในคุกใต้ดิน หรือไปเก็บตัวฝึกฝนกันแน่ ท่านผอ.ให้สิทธิพิเศษกับนายเหรอ”
หานเฟิงทำหน้าทำตา ตบไหล่ลู่ฝานอย่างแรง
ลู่ฝานปล่อยหลิงเหยาที่กอดอยู่ หัวเราะแล้วพูดว่า “ถือว่ามีก็ได้ เจ้าดำล่ะ มันอยู่ไหน”
อาจารย์เต้ากวงพูดเสียงก้องว่า “เจ้าดำยังทำอาหารอยู่ในห้อง สู้ก็สู้เสร็จแล้ว ควรกินข้าวได้แล้ว วันนี้จัดงานเลี้ยงใหญ่!”
นักเรียนทุกคนส่งเสียงเฮขึ้นมาทันที หลังจากนั้นมีกระแสจิตของอาจารย์เต้ากวง ส่งมาข้างหูลู่ฝาน
“ลู่ฝานนายจ่ายนะ เงินเดือนของผู้ตรวจการแบบนายสูงกว่าเราเยอะ”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ
……
ตอนกลางคืน เต็มไปด้วยความสุขมากมาย
บนเขาอวิ๋น เต็มไปด้วยเสียงเพลงเคล้าเสียงหัวเราะดัง
งานฉลองที่ยิ่งใหญ่ โต๊ะวางเรียงรายยาวจนเกือบไปถึงตีนเขา
สำหรับนักเรียนคณะหนึ่งเดียว นี่คือวันแห่งเกียรติยศ นี่คือวันแห่งความฮึกเหิม นี่คือวันแห่งความภาคภูมิใจ
ลู่ฝานกลายเป็นเจ้าของงานเลี้ยงโดยไม่ต้องสงสัย เพราะเขาพลิกสถานการณ์ เมื่อเขาปรากฏตัว ก็ซัดจนทำให้การท้าสู้ของคณะอื่นล่าถอยไป
วันนี้ลู่ฝานทำให้ทั้งสถาบันสอนวิชาบู๊รู้ว่าอะไรคืออันดับหนึ่งของสถาบัน
“ศิษย์พี่ลู่ฝาน!”
“สวัสดีครับศิษย์พี่ลู่ฝาน!”
นักเรียนคณะหนึ่งเดียวทุกคนที่เจอลู่ฝาน ล้วนทำความเคารพลู่ฝานอย่างนอบน้อม