เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 955
“กระบี่พิฆาตสวรรค์! ”
เมื่อเห็นท่วงท่าของเทียนตู้ เทียนหยาจื่อก็ทราบได้ว่าเทียนตู้จะใช้ทักษะวิชาบู๊อะไร
นี่คือวิชาสุดยอดประจำตระกูลเทียน ดูเหมือนว่าเทียนตู้จะโมโหจริง ๆ แล้ว แม้แต่ทักษะวิชาบู๊ที่ได้ร่ำเรียนมาจากสถาบันบู๊องอาจก็ไม่อยากจะใช้อีก โดยเริ่มที่จะใช้ทักษะวิชาบู๊ประจำตระกูลที่ร่ำเรียนฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กจนโตเลย!
ทุกคนต่างพากันกลั้นลมหายใจ พร้อมกับจับจ้องมองไปที่กระบี่ในมือของเทียนตู้
ชั้นของหมอกควันก็ปะทุขึ้นอย่างหนาแน่น แม้แต่ตัวตนของเทียนตู้เองก็กลายเป็นภาพลวงตาไปแล้ว
ลู่ฝานยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ โดยที่ไม่เคลื่อนไหวอะไรแม้แต่น้อย
เงาร่างของเทียนตู้พลันหายสูญไป ลู่ฝานก็เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า จิตใจพลันเกิดความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีขึ้น
จากนั้น ทุกคนก็พบว่าฝนตกลงมาแล้ว!
บนก้อนหินยักษ์ ก็เกิดเสียงดังเปาะแปะขึ้น ฝนกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากท้องฟ้า
ก้อนหินยักษ์ถูกปกคลุมอยู่ท่ามกลางฝนกระบี่ อย่างเหมาะเจาะ
และทันใดนั้น ก้อนหินยักษ์ก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นผุยผง!
เกราะเกล็ดมังกรในร่างของลู่ฝานปรากฏขึ้น ร่างกายถูกปกคลุมอยู่ภายใต้เกราะสีเงินที่สวยงาม
รอยประทับสีขาวปรากฏขึ้นบนเกราะเกล็ดมังกรอย่างไม่หยุด แต่ละลำแสงกระบี่ ล้วนมีพลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
ตูมมม!
พื้นดินปรากฏเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ขึ้น!
ลู่ฝานก็ตกไปอยู่ที่ใจกลางของหลุมลึกนั้น ผู้ตรวจการแปดที่กำลังชมอยู่ด้านนอกบริเวณก็พลันมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย กระบวนท่านี้ ทรงพลังไม่เบาเลย!
ฝนกระบี่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่เวลานี้ลู่ฝานกลับเงยหน้าขึ้นมองไปบนฟ้า
แล้วยื่นมือออกมาคว้า โดยที่ทุกคนรู้สึกได้ว่ามีสายลมพัดผ่านร่างกายไป จากนั้นลำแสงกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วน ก็รวมตัวพุ่งตรงเข้าใส่ลู่ฝาน
“เขากำลังรนหาที่ตายอยู่ใช่ไหม? ”
เว่ยซูจิ้งตะโกนพูดเสียงดัง
ทุกคนต่างก็มีความคิดเดียวกันกับเว่ยซูจิ้ง เวลานี้คงจะหลบหลีกไม่ทันแล้ว และยังจะรวบรวมลำแสงกระบี่เข้าด้วยกันอีก นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายแล้วจะเป็นอะไรล่ะ
แต่หลังจากนั้น ลู่ฝานก็ยื่นมือออกมาสะบัด ลำแสงกระบี่เหล่านั้นก็ถูกลู่ฝานโบกสะบัดอย่างรุนแรงจนลงไปกองอยู่บนพื้น
ท่ามกลางลำแสงกระบี่ เงาร่างของเทียนตู้ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ลู่ฝานไม่แม้แต่มอง ก็ชกหมัดตรงที่ทรงพลัง พุ่งใส่ใบหน้าของเทียนตู้ทันที
หมัดตรงนี้ พุ่งตรงเข้าใส่อย่างจัง
ตรงอย่างเหมาะเจาะ ราวกับนักบู๊กำลังฝึกฝนอยู่เบื้องหน้าหินฝึกซ้อมวิชาอย่างไรอย่างนั้น!
ลำแสงกระบี่ค่อย ๆ สลายหายไป เทียนตู้กระอักเลือดและล้มลงไปกองที่พื้น เวลานี้กระบี่ยาวในมือก็ตกหล่นอยู่ที่ข้างกาย
ลู่ฝานมองไปที่เขาอย่างเฉยชา พร้อมกับเอามือไขว้หลัง
ราวกับว่าอาจารย์กำลังอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ ในสถานที่แห่งนี้เงียบกริบกันไปหมด โดยทุกคนต่างก็คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้
พลังความสามารถของทั้งสองฝ่าย ช่างแตกต่างห่างกันไกลลิบลับ และจัดการกับฝ่ายตรงข้างลงได้อย่างสิ้นเชิง
ทำไม ลู่ฝานคนนี้ ถึงได้แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนี้ แม้แต่เทียนตู้แห่งสถาบันบู๊องอาจก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
เทียนตู้ค่อย ๆ คลานตัวไป หยิบกระบี่ของตนเองขึ้นมา
“นายแข็งแกร่งมากจริง ๆ! ”
เทียนตู้กัดฟัน พูดขึ้น
ลู่ฝานพูดว่า: “แสดงพลังความสามารถที่แท้จริงของนายออกมาเถอะ นายไม่ได้ด้อยความสามารถแบบนี้หรอก”
คำพูดของลู่ฝาน ทำให้ผู้ชมในที่แห่งนี้เริ่มที่จะสนทนาซุบซิบกันขึ้น
ต่อสู้กันหนักขนาดนี้แล้วยังจะไม่ใช่พลังความสามารถที่แท้จริงของทั้งสองคนอีกเหรอ?
เทียนตู้พลันนำกระบี่ในมือปักลงไปบนพื้น และพูดว่า: “เดิมทีไม่คิดที่จะใช้หรอก แต่ดูเหมือนจะปกปิดเอาไว้ไม่ได้แล้ว! ”
ขณะที่พูด เทียนตู้ก็ใช้พลังฝ่ามือทำลายกระบี่ของตนเองลง หลงเหลือแต่ด้ามกระบี่ แต่ทันใดนั้น ที่ด้ามกระบี่ ก็ปรากฏลำแสงสีเหลืองออกมา เทียนตู้ยกด้ามกระบี่ขึ้น ชี้ไปยังลู่ฝานและพูดว่า: “กระบี่ดินคม เชิญรับมือได้เลย! ”
ลู่ฝานยิ้มเล็กน้อย แล้วร่างกายก็เกิดเปลวไฟลุกโชนขึ้น
พลังสีแดงและสีเหลืองลอยวนเวียนอยู่กลางอากาศ เทียนตู้ขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า: “นายยังไม่คิดที่จะใช้กระบี่อีกเหรอ? ”
ลู่ฝานพูดขึ้นว่า: “ไม่จำเป็น ฉันใช้แค่หมัดก็พอแล้ว! ”