ในเวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่งในวัง
ไท่จื่อก็ได้รับสารลับ ไท่จื่อที่กำลังเพลิดเพลินอย่างมีความสุขกับสาวงามเผ่าเหนือมนุษย์ ตอนเขาเห็นสารลับ หน้าถึงกับเปลี่ยนสี หลังจากนั้นตบสาวงามเผ่าเงือกลงไปในน้ำ เดินออกจากสวนหลังบ้านที่มีวิวอันเรียบง่ายงดงาม
“ไปเรียกพวกจางกวังมาที่นี่”
ไท่จื่อเดินเท้าเปล่าเข้ามาในห้องหนังสือ
ไม่นานผู้ชายกลุ่มหนึ่งมาถึงห้องหนังสือ
เก้าอี้ลายมังกร ไม้จันทน์หอมมากมาย หนังมังกรปูพื้น วัตถุโบราณหายากนับไม่ถ้วน นี่คือห้องหนังสือของไท่จื่อ
แม้ชื่อว่าห้องหนังสือ แต่มีหนังสือน้อยมาก อาวุธเยอะกว่าหนังสือเสียอีก
“ไท่จื่อ……”
มีเสียงดังมาจากข้างนอก ยังไม่ทันพูดจบ
ไท่จื่อฉินอวิ่นพูดอย่างหงุดหงิด “เข้ามา เข้ามา!”
ทั้งแปดคนส่งเสียงตอบรับแล้วเข้ามา ยืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดานข้างหน้าไท่จื่อ
แปดคนนี้เป็นนักบู๊คนสนิทของไท่จื่อฉินอวิ่น
ล้วนเป็นนักบู๊ที่มีความสามารถ ซึ่งเขารวบรวมมาเอง ล้วนมีชื่อเสียงในรายชื่อประเทศ คนเรียกกันว่าแปดผู้โดดเด่น!
คนที่เป็นหัวหน้าในบรรดาคนพวกนี้คือจางกวัง ใบหน้าเย็นชา ตาสีฟ้า มีเกล็ดมังกรโดยกำเนิด
เขาเป็นนักบู๊มนุษย์เผ่ามังกร แต่ไม่ใช่มนุษย์เผ่ามังกรโดยตรง แม้มีเกล็ดมังกร แต่ไม่มีเขามังกร มนุษย์เผ่ามังกรประเภทนี้ไม่ได้รับการยอมรับในมนุษย์เผ่ามังกรที่แท้จริง
แต่ไม่ต้องสงสัยเลย จางกวังสืบทอดจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์เผ่ามังกรมาทั้งหมด
ร่างกายทนทาน เข้าสู่แดนรวดเร็ว วิทยายุทธแข็งแกร่ง เย็นชาไร้ความรู้สึก
ฉินอวิ่นตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ แล้วพูดว่า “ฉันโกรธมาก คิดไม่ถึงเลยว่าลู่ฝานจะหลบเข้าไปในเจดีย์ยา!”
คำพูดของฉินอวิ่น ทำให้หกคนในบรรดาแปดคนข้างหน้าจับต้นชนปลายไม่ถูก ถึงขั้นที่พวกเขาไม่รู้ว่าลู่ฝานเป็นใคร
แต่จูจวิ้นผู้ตรวจการแปดรู้เป็นอย่างดี จางกวังก็พอรู้บ้าง เพราะจูจวิ้นมาคุยกับเขาแล้ว
จูจวิ้นเดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วพูดว่า “ไท่จื่อ เจดีย์ยาแล้วยังไงครับ เขาไปหลบที่ไหน เราก็จัดการเขาได้”
ฉินอวิ่นถลึงตาใส่จูจวิ้นแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นที่อื่น ฉันก็พูดแบบนี้ได้ แต่มีเพียงเจดีย์ยา เจดีย์ยาสารเลวนั่น ที่ฉันไม่สามารถแตะต้องได้เด็ดขาด นั่นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้ฝึกชี่ ใครกล้าเล่นพิเรนทร์กับที่นั่น เท่ากับเป็นศัตรูกับผู้ฝึกชี่ทั้งหมด ฉันไม่ใช่พ่อ ยังไม่สามารถกดขี่พวกกลั่นยานั่นได้”
จูจวิ้นถอยกลับมา ขมวดคิ้วแน่น จู่ๆ ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
คนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้ฝึกชี่หมายถึงอะไร
ฉินอวิ่นเดินไปเดินมาอย่างโมโห เดินช้าๆ แล้วพูดว่า “เดิมทีกะจะให้ลู่ฝานตายอย่างไม่รู้สาเหตุ ถึงขนาดที่หาศพไม่เจอ แต่ดูเหมือนตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว แค่เขาอยู่ในเจดีย์ยา ไม่ว่าจะเป็นการลอบโจมตี การฆ่าฟัน แผนการร้ายอะไรก็ใช้ไม่ได้ทั้งนั้น ดูเหมือนตอนนี้คงเหลือแค่การสู้ซึ่งหน้าเท่านั้น”
ทันใดนั้น ในบรรดาแปดผู้โดดเด่น ชายที่อ้วนที่สุดเดินออกมาพูดว่า “ไท่จื่อ ผมยินดีไปนัดสู้กับเขา รับรองว่าจะซัดเขาจนเละ ในสามกระบวนท่าครับ”
ฉินอวิ่นมองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า “สวี่ฉู ฉันรู้พละกำลังของนาย แต่เรื่องนี้ไม่ได้จัดการง่ายขนาดนั้นแล้ว”
พูดพลาง ฉินอวิ่นมองจางกวังแล้วพูดว่า “จางกวัง นายคิดว่ายังไง”
จางกวังพูดอย่างสุขุม “ไท่จื่อคำนึงถึงชื่อเสียง ถ้าพวกเรานัดสู้ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ คนจะดูออกว่าไท่จื่อมีจุดประสงค์เล่นงานลู่ฝาน ถ้ามีคนใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้จะเกิดปัญหาครับ”
ฉินอวิ่นพูดว่า “จางกวังพูดถูก ฉันกลัวเรื่องนี้ โดยเฉพาะถ้ามีคนแจ้งเรื่องนี้กับพ่อ นั่นจะซวย เพราะพ่อเลือกให้เด็กคนนี้มาเมืองหลวงตอนฤดูใบไม้ผลิ”