เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1050
ลู่ฝานบีบยันต์หยกไว้ในมือ มองถิงยวนกับอาจารย์เหลยออกไป
มองด้านหลังของทั้งสองคน จู่ๆ เขาเกิดความสงสัยในตัวอาจารย์ของตัวเองเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขาอยากไปหาอาจารย์หวูเฉิน เพื่อถามให้แน่ชัด
เทียนหยาจื่อก็เกิดความสงสัยในตัวลู่ฝานเหมือนกัน เขาเรียบเรียงคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพูดกับลู่ฝานว่า “ลู่ฝาน บอกฉันได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันรู้จักเจ้าเหลยกับถิงยวนมานานแล้ว พวกเขาเป็นอาจารย์ของสถาบันบู๊องอาจ โดยปกติจะหยิ่งจองหองจนไม่ยอมทักทายนักบู๊คนอื่นเลย ทำไมถึงนอบน้อมกับนายขนาดนี้ อีกทั้งจิ่วเซียวอะไรนั่นด้วย หมายความว่ายังไงกันแน่ นายมีความเป็นมาอะไรกับสาขาสายฟ้าเหรอ”
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ผมไม่มีแน่นอนครับ ถ้าจะมีก็คงเป็นอาจารย์ผม ผมไม่รู้ครับ ตอนนี้ผมก็สงสัยมาก แต่ดูเหมือนอาจารย์ผมมีบุญคุณใหญ่หลวงต่อพวกเขา ถึงขนาดที่พวกเขาเจอผม ยังต้องทำความเคารพ ท่านผอ. สองคนนี้เชื่อได้ไหม”
เทียนหยาจื่อพูดอย่างมั่นใจว่า “ได้ แม้ปกติสองคนนี้จะเย่อหยิ่งจองหอง แต่ก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์ สาขาสายฟ้าก็เป็นสาขาใหญ่ที่มีชื่อเสียงมานาน ยังไม่ถึงกับทำเรื่องที่น่ารังเกียจ”
ลู่ฝานพูดว่า “งั้นก็ดีครับ หลังจากผมจัดการเรื่องที่เมืองหลวงเรียบร้อย ผมจะไปที่สาขาสายฟ้าของพวกเขา”
เทียนหยาจื่อพยักหน้าพูดว่า “ได้ แต่ทำอะไรต้องระวัง ถ้าเป็นไปได้ ทางที่ดีนายไปถามอาจารย์นายให้ชัดเจนก่อนดีกว่า!”
เมื่อได้ยิน ลู่ฝานถอนหายใจยาวออกมา
เขาก็อยากไปหาอาจารย์ของตัวเองเหมือนกัน แต่หาเจอง่ายขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะ
แม้อาจารย์พูดไว้ว่าตัวเองมาเมืองหลวงแล้ว แต่เมืองหลวงใหญ่ขนาดนี้ จะหาใครสักคน มันยากมากเลยนะ
ตอนนี้ลู่ฝานทำได้เพียงฝากความหวังกับคนอื่น ถ้าชื่อเสียงของตัวเองโด่งดังกว่านี้อีกหน่อย ไม่แน่ตอนเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี อาจารย์อาจชมอยู่ด้านล่างเวทีก็ได้
เก็บยันต์หยกที่ถิงยวนให้เขา ลู่ฝานกับเทียนหยาจื่อจะนั่งดื่มเหล้ากันต่อ
แต่ขณะนั้น มีเงาใครคนหนึ่งปรากฏออกมา เป็นเทียนเหวินหยู่ที่พาลู่ฝานกับสิบสามเข้ามา
“ผู้อาวุโสเทียนหยาจื่อ คุณชายลู่ฝาน องค์ชายรองส่งคนมาเชิญคุณชายลู่ไปคุยครับ”
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “มาแล้ว มาเร็วจริงๆ! เดิมทีผมคิดว่าจะต้องรอสักสองสามวันเสียอีก”
เทียนหยาจื่อพูดว่า “ลู่ฝาน อย่าลืมที่ฉันพูดกับนาย ทำเรื่องให้ใหญ่สักหน่อย อย่าเป็นสุนัขรับใช้ขององค์ชายรองเด็ดขาด”
“ศิษย์จะจำไว้ครับ!”
ลู่ฝานทำความเคารพเทียนหยาจื่อเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเดินออกไปข้างนอก
สิบสามรีบเดินตามไป แต่ขณะนั้นเอง จู่ๆ เทียนหยาจื่อดึงสิบสามเอาไว้
ขยับปากเบาๆ สิบสามได้ยินเทียนหยาจื่อส่งกระแสจิตมาข้างหูเขา “นายยอมสละชีวิตเพื่อลู่ฝานไหม”
สีหน้าสิบสามวูบไหวเล็กน้อย มองด้านหลังลู่ฝานแล้วพยักหน้าช้าๆ
เสียงของเทียนหยาจื่อดังมาอีก “งั้นก็ดี วันนี้นายต้องช่วยลู่ฝานต้านทานทุกอย่าง เมื่อถึงเวลาจำเป็น ให้ช่วยลู่ฝานออกมา”
เมื่อพูดจบ สิบสามรู้สึกว่าตรงเอวของตัวเองมีอะไรบางอย่าง เมื่อใช้นิ้วสัมผัส เหมือนเป็นหินก้อนเล็กๆ ด้านบนมีแสงอักษรยันต์สลัว
สิบสามไม่มองสักนิด ในใจเขารู้อยู่แล้ว รีบเดินตามลู่ฝานไปทันที
เทียนหยาจื่อมองสิบสาม แล้วมองลู่ฝาน เขาหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “จะเลื่อนตำแหน่งอย่างสบาย หรือจะถูกขังอยู่ในคุก ขึ้นอยู่กับวันนี้แล้ว ลู่ฝานนะลู่ฝาน นายอย่าเลือกผิดเด็ดขาด!” ……
เดินออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลเทียนอย่างรวดเร็ว รถม้าคันหนึ่งรออยู่ที่หน้าประตูนานแล้ว