เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1091
เมืองชั้นในหรือเรียกอีกอย่างว่าวัง คือประมุขแห่งประเทศ
พลับพลายก กำแพงสีแดงพร้อมรั้วสูง หอสังเกตการณ์กระจายล้อมเป็นวง
ประตูยิ่งใหญ่ทรงพลังสูงเสียดฟ้า
มังกรทองฮึกเหิม ลอยอยู่ในพลับพลา
ลำแสงสว่างไสวเป็นแถบ ทางเดินในวังล้วนเป็นลายเมฆ
หอเอนข้างตำหนักมีสัตว์อสูรยืนอยู่หกตัว เปิดปิดรับการคุ้มครองจากฟ้าดิน
กระเบื้องเคลือบ เสาจากแร่ล้ำค่า สิ่งที่ปรากฏในสายตาเป็นอันดับแรกคือตัวอักษรขนาดใหญ่คำว่าอู่อานที่อยู่บนพื้น
ตัวอักษรคำว่าอู่ แข็งแกร่งองอาจ ราวกับมีดฟันขวานสับ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ตัวอักษรคำว่าอานดูเรียบง่าย ราวกับกระบี่สายลมกวาดไปเบาๆ แฝงด้วยฟ้าดิน
ตัวอักษรทั้งสองตัวเป็นหยินหยาง ปราณหนึ่งไหลเวียนอยู่บนพื้น
ขอแค่เป็นคนที่เคยเรียนเกี่ยวกับค่ายกล หรือเป็นคนที่รู้จักค่ายกล จะดูออกเลยว่านี่คือค่ายกลสองขั้วแบบดั้งเดิม หรือเรียกอีกอย่างว่าค่ายกลไท่จี๋
แม้ค่ายกลเรียบง่าย แต่กลับแข็งแกร่งจนน่ากลัว
มีคำกล่าวไว้ว่า ค่ายกลมืดอ่อนแอกว่าพลัง ค่ายกลสว่างแข็งแกร่งกว่าพลานุภาพ!
นี่คือค่ายกลใหญ่ค่ายกลแรกในวัง และเป็นค่ายกลสว่างอย่างสมบูรณ์แบบ
ทุกคนที่เข้ามา ล้วนรู้สึกถึงค่ายกลนี้ได้ สัมผัสกับความแข็งแกร่งที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตเหมือนจักรวาลของค่ายกลนี้ อีกทั้งยังต่อเนื่องเหมือนสายน้ำที่ไหลไม่หยุด
ลู่ฝานนั่งอยู่ในรถม้า ยังรู้สึกได้ถึงพลังน่ากลัวที่มีอยู่ทุกที่รอบตัว
หลู่เฉิงเซี่ยงมองท่าทางตึงเครียดของลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม จากนั้นพูดว่า “สัมผัสได้แล้วเหรอ ค่ายกลของวัง ก่อตัวขึ้นจากพลังฟ้าดินทั้งประเทศอู่อาน รู้จักอุโมงค์ข้ามมิติไหม”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “รู้จัก ตอนมาก็ลอยมาในอุโมงค์ข้ามมิติครับ”
หลู่เฉิงเซี่ยงลูบเคราแล้วพูดว่า “นี่คือปลายทางของอุโมงค์ข้ามมิติทั้งหมด พลังฟ้าดินทั้งหมดรวมตัวกันที่นี่ ก่อตัวเป็นค่ายกลการเคลื่อนไหวของชี่ที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่ หลังจากนั้นดูดและแปรเปลี่ยนพลังฟ้าดินโดยค่ายกล ส่วนหนึ่งใช้หมด อีกส่วนขับออกไป ส่วนหนึ่งกลายเป็นชี่ที่เคลื่อนไหวในอาณาจักร คนที่อยู่ในค่ายกล จะได้รับการควบคุมของค่ายกล ในเวลาเดียวกันก็อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของเตี้ยนเซี่ย แค่เตี้ยนเซี่ยเกิดความคิดในใจ เขาสามารถฆ่าทุกคนที่อยู่ในวังได้ ถ้าแผ่ขยายค่ายกลออกไป เขาสามารถฆ่าทุกคนในเมืองหลวงได้”
ลู่ฝานพูดว่า “ใช้พละกำลังของประเทศกดดันไว้ ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งระดับอริยปราชญ์ ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
หลู่เฉิงเซี่ยงหัวเราะแล้วพูดว่า “ใช่ ดังนั้นอย่าคิดเป็นศัตรูกับอาณาจักร ถึงนายกลายเป็นผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน ก็อย่าคิดเป็นศัตรูกับประเทศ นั่นเป็นเรื่องที่โง่เขลามาก!”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ มองออกไปนอกหน้าต่างรถม้า
ในสายตาของเขา เขาสามารถเห็นพลังฟ้าดินที่รุนแรงจนน่ากลัวบริเวณรอบตัว
พลังฟ้าดินพวกนี้ เหมือนจะมีสติของตน เหมือนพลังฟ้าดินแต่ละสายมีจิต ถึงขนาดที่พวกมันสามารถควบคุมคนได้ด้วยตัวเอง ราวกับว่าวิทยายุทธยิ่งสูง ก็จะยิ่งโดนพวกมันควบคุมหนักขึ้น เมื่อลู่ฝานมองออกไป เขาเห็นรถม้าสองสามคัน โดนพลังฟ้าดินปกคลุมจนสว่างแสบตาเหมือนพระอาทิตย์สว่างจ้า
รถม้าเคลื่อนตัวไปข้างหน้าไม่รู้นานเท่าไร จู่ๆ ลู่ฝานเห็นรถม้าขึ้นไปบนสะพานเมฆ
สะพานมีห้าแห่ง กว้างขวางเป็นอย่างมาก มีแสงห้าสีสว่างขึ้น ทอง เขียว ฟ้า แดง เหลือง สอดคล้องกับธาตุทั้งห้า ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน
ด้านล่างสะพานมีทะเลเมฆ ในทะเลมีปลาห้าสีว่ายไปมา
ลู่ฝานมองอย่างชัดเจน นี่มันใช่ปลาเป็นๆ ที่ไหนกันล่ะ เป็นรูปร่างที่แปรเปลี่ยนออกมาจากพลังฟ้าดินที่มีจิตชัดๆ
แต่ในทะเลเมฆ เหมือนมีพลังอะไรควบคุมให้พวกมัน เป็นได้แค่ปลาตัวเล็กขยับไปมา อย่าดูถูกปลาตัวเล็กห้าสีเหล่านี้ พลังที่แฝงอยู่ในแต่ละตัว มากกว่าปราณชี่ของลู่ฝานไม่น้อยเลย ไม่ว่าตัวไหนระเบิดพลังออกมา แย่ที่สุดก็สามารถระเบิดยอดฝีมือแดนปราณดินจนตายได้ ถ้าปลาพวกนี้กรูเข้ามาพร้อมกัน คนที่อยู่ในนี้คงหนีไม่พ้น
ยังดีที่ลู่ฝานกังวลเกินไป อย่างมากปลาพวกนี้ก็ทำได้แค่กระโดดออกมาจากทะเลเมฆ และมองทุกคนแวบหนึ่ง