บทที่ 20 ค่อยๆสนุก
ฉินเทียนไม่คิดว่าซูหนานจะไร้ยางอายขนาดนี้
มีกลิ่นหอมฉุนๆโชยเข้ามาที่จมูก เขารีบถอยหลบไปยังด้านข้างอย่างไว
ซูหนานพึงพอใจมาก นัยน์ตาที่ดึงดูด พูดอย่างยั่วยวนว่า“ ทำไม พี่ก็กลัวเป็นด้วยเหรอ ? ”
“พี่อยากรู้ความจริงไม่ใช่เหรอ ? ตอนนี้ ถอดเสื้อผ้าของฉันสิ แล้วฉันจะบอกความจริงกับพี่ ”
“มาสิ”
วันนี้หากฉินเทียนกล้าแตะต้องเธอ ไม่เพียงตระกูลอู๋ที่จะไม่ปล่อยเขาไป ทุกคนบนโลกจะถ่มน้ำลายใส่เขา จนเขาต้องจมน้ำลายตายไปเลย !
นี่คือแผนการของซูหนาน
เมื่อเห็นฉินเทียนหน้านิ่งไม่พูดอะไร เธอก็ยิ่งจะหัวเราะร่าอย่างได้ใจ
“ก็นึกว่าเธอจะมีอะไรที่พัฒนาบ้าง ไม่คิดว่าผ่านไปห้าปี ก็ยังชั่วช้าเหมือนเดิม !”
“แกแอบอ้างชื่อของพญายม แล้วขีดเส้นตายให้ตระกูลซูสิบวันไม่ใช่เหรอ ?”
“ฟังให้ดีฉันก็จะขีดเส้นตายให้แกสิบวัน !”
“คุกเข่าแล้วขอขมาฉันตรงหน้า”
“ไม่อย่างนั้น ฉันจะหาคนที่แม้แต่พญายมยังต้องกลัว ถึงตอนนั้นจะทรมานแกให้ตายอย่างช้าๆ!”
คนที่เก่งกาจกว่าพญายม ? ฉินเทียนยิ้มเยาะ“ก็ดี งั้นสิบวันให้หลังมาเจอกัน”
“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!”ซูหนานสบถด่าออกไปคำหนึ่ง จากนั้นก็พาคนกลับอย่างหัวเสีย
ก่อนต่งฟางจะไป ยังกัดฟันกร่อนแล้วพูดกับฉินเทียน “รอก่อนเถอะ !”
“ฉันจะแจ้งไปยังศิษย์พี่ในสำนัก ถึงเวลาแกได้ตายอย่างไร้แผ่นดินกลบหน้าแน่!”
หลังจากที่พวกเขาไปแล้ว ฉินเทียนมองไปยังพุ่มไม้รกที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล พูดเสียงเข้ม “ดูพอหรือยัง ? ออกมาเถอะ ”
ตรงพุ่มไม้ มีเงาดำเจ็ดถึงแปดสายปรากฏ
คนนำส่วนสูง190เซนติเมตร กล้ามเนื้อมัดโต เต็มไปด้วยความน่ากลัว
เขาทำความเคารพฉินเทียน พูดอย่างเคร่งขรึม“แก๊งเขี้ยวมังกรหน่วยประจำการหลงเจียง หัวหน้าหน่วยเหลยเป้าครับ!”
“ในนามราชามังกรของเรา ถูกส่งมาที่นี่เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของคุณครับ!”
แก๊งเขี้ยวมังกร วัดวาอาราม ตลอดจนในแถบชนบท ไม่มีอะไรที่พวกเขาเข้าไปจัดการไม่ได้
และผู้นำของเขี้ยวมังกร เนี่ยชิงหลง ผู้คนต่างก็เรียกขานเขาว่าราชามังกร
และเป็นลูกน้องของฉินเทียนหนึ่งในสิบสองราชา
เหลยเป้าและคนอื่นๆ ไม่มีใครรู้สถานะที่แท้จริงของฉินเทียน
แต่ว่า ผู้ที่สามารถทำให้ราชามังกรของพวกเขาเคารพนับถือได้ขนาดนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอเช่นกัน
การกระทำแบบนี้ของเนี่ยชิงหลง ตัวฉินเทียนเองไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเท่าไร
มองไปยังเหลยเป้า รวมถึงสมาชิกแก๊งเขี้ยวมังกรที่อยู่ด้านหลังของเขา เขาก็พยักหน้าเห็นชอบ
“ที่หลงเจียง มีอะไรที่แก๊งเขี้ยวมังกรของพวกนายทำไม่ได้ไหม?”
เหลยเป้าพูดเสียงเข้ม “ไม่มีครับ!”
“คุณฉินต้องการจะจัดการผู้หญิงคนเมื่อครู่เหรอครับ ? เธอเป็นคนตระกูลอู๋ เพียงคำพูดเดียวของคุณ ผมจะสั่งคนไปค้นบ้านและยึดทรัพย์ตระกูลอู๋ทันทีครับ !”
ฉินเทียนหัวเราะ
คิดถึงคำพูดที่จองหองของซูหนานที่ทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนไป เขาพูดว่า “เหลยเป้า ฉันของสั่งนายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วางแผนทำลายล้างตระกูลซูในสิบวัน”
“จำเอาไว้ ต้องค่อยๆเฉือนเนื้อออกทีละนิด ฉันอยากให้พวกเขาได้ลิ้มรส ว่าอะไรคือความสิ้นหวัง”
“รับคำสั่งครับ!”เหลยเป้าทำความเคารพ โบกมือ พาลูกน้องหายวับไปในความมืด
ฉินเทียนยิ้มเยาะ“อยากจะค่อยๆสนุกกันไม่ใช่เหรอ ? งั้นฉันก็จะค่อยๆเล่นสนุกไปด้วยแล้วกัน ”
ซูหนานกลับมาถึงที่ตระกูลซู
เธอจงใจต่อว่าฉินเทียนจนไม่มีชิ้นดี บอกว่าเจอเข้ากับตัวเอง ก็ร้องห่มร้องไห้ขี้มูกโป่งร้องขอชีวิต
ตระกูลซูต่างก็พากันคิดว่าฉินเทียนเป็นเพียงแค่หมาตกน้ำ ไม่มีใครเก็บเรื่องเขามาใส่ใจอีก
สิบวันหลังจากนี้ ก็จะมีโอกาสได้เจอราชาเทพแล้ว ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะพลอยได้อาศัยบารมี ตระกูลซูจะได้พบกับความรุ่งโรจน์อย่างที่สุด
พวกเขาดำดิ่งอยู่ในความมุ่งหวังและปรารถนาอันยิ่งใหญ่
ครึกครื้นรื่นเริง บรรยากาศสนุกสนานราวกับเฉลิมฉลองปีใหม่
มึนเมามีความสุข หลังจากที่ความบันเทิงสิ้นสุด ซูเหวินปินก็พาเพื่อนพ้องที่รุ่นราวคราวเดียวกัน ไปสนุกกันต่อที่ผับประจำ
วันรุ่งขึ้น ข่าวที่น่าตกใจ ก็ทำลายความสงบของตระกูลซู
ซูเหวินปินกับพวกรวมห้าคน หลังจากที่ดื่มกันจนเมามาย เพราะหญิงสาวคนหนึ่ง ไปทำร้ายชายหนุ่มคนหนึ่งเข้า
หลังจากนั้น ทั้งห้าคน เพราะทะเลาะวิวาท ถูกตำรวจจับตัวไปคุมขังเอาไว้
ซูเหวินเฉิงยิ้มและกล่าวว่า“ เรื่องเล็กน้อย ไม่มีอะไรให้น่าพูดถึง ”
“ฉันถามผู้จัดการที่ร้านมาแล้ว เจ้าเด็กที่ถูกทำร้าย เป็นแค่เด็กนักศึกษาที่ยากจนข้นแค้นคนหนึ่ง ”
“ฉันเดาว่าเหวินปินและพวกคงไปถูกตาต้องใจแฟนสาวของไอ้เจ้าเด็กคนนั้นเข้า ……”
“ฉันจะโทรไปหาเมี่ยวจวู๋ ให้เขาปล่อยตัวคนออกมา อย่างมากก็จ่ายค่าเสียหายเล็กๆน้อยๆให้ไป”
เขากดโทรออก “ฮัลโหล เมี่ยวจวู๋……ของขวัญเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ส่งไปได้รับแล้วใช่ไหม?”
เมี่ยวจวู๋พูดเสียงต่ำ“คุณชายซู ก่อนหน้านั้นที่รับของกำนัลนายมา ฉันจะให้คนส่งคืนกลับไปในสภาพเดิมนะ ”
“ส่วนเรื่องตระกูลซูของนาย ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำอะไรไม่ได้”
“เห็นแก่ที่เป็นเพื่อนกันมานานหลายปี ฉันขอแนะนำนายให้คิดไตร่ตรองให้ดี ตระกูลซูของนายไปล่วงเกินบุคคลสำคัญคนไหนเข้าหรือเปล่า”
พูดจบ เขาก็กดวางสายไปทันที
ซูเหวินเฉิงกดโทรไปหาอีกครั้ง ก็โทรติดต่อไม่ได้แล้ว
ถูกบล็อกเหรอ?
สีหน้าของซูเหวินเฉิงเปลี่ยนในทันที ทุกคนต่างก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก กระวนกระวายและสงสัย
“หรือว่า นักศึกษาที่ยากจนคนนั้นเบื้องหลังยังมีอะไรที่มากกว่านั้นงั้นเหรอ ? ทุกคนไม่ต้องกังวลไป ฉันจะไปตรวจสอบอย่างละเอียดเดี๋ยวนี้ ”
ในตอนที่ซูเหวินเฉิงกำลังหัวหมุนโดยไม่รู้ว่าควรทำยังไง เพื่อเอาตัวคนออกมาจากคุก
วันที่สาม ก็มีระเบิดเกิดขึ้นอีกลูก !
บริษัทที่เขาแย่งมันมาจากหยางยู่หลัน แล้วเปลี่ยนชื่อ ก็ถูกตรวจสอบและอายัด
เหตุผลคือ สงสัยว่ามีการติดสินบนก้อนโต ละเมิดกฎข้อบังคับการแข่งขันทางธุรกิจ
เงินทั้งหมดถูกอายัด
ตัวซูเหวินเฉิงเอง เนื่องจากมีปัญหามากมาย รอหาหลักฐานเพื่อดำเนินการ จึงถูกสั่งห้ามออกนอกพื้นที่
สองเรื่องติดต่อกัน ก็ทำเอาลูกหลานตระกูลซู แทบจะย่อยยับไม่มีชิ้นดี
ซูเป่ยซานเริ่มที่จะร้อนรน
วันที่สี่
ครั้งนี้บุคคลต้นเรื่อง เสาหลักสำคัญรุ่นที่สอง ซูยู่คุน
โลกออนไลน์เขตหลงเจียง จู่ๆก็มีภาพถ่ายจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นมา
ซูยู่คุนที่อายุกว่าครึ่งร้อย กลับแอบไปส่งเสียเลี้ยงดูหญิงสาวคนรักที่อายุแค่ยี่สิบต้นๆ!
รูปภาพที่น่าเกลียดมากมายถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์
ที่น่าขำยิ่งกว่าคือ มีมือดีไปตรวจพบว่า หญิงสาวที่อ้างตัวว่าเป็นนักศึกษาที่ใสซื่อบริสุทธิ์ กลับเป็นผู้หญิงที่ทำงานในไนต์คลับ
ตระกูลซูกลายเป็นตัวตลก
หวางเหมยภรรยาของซูยู่คุน ร้องห่มร้องไห้โวยวายขู่จะฆ่าตัวตาย มีปากเสียงจนถึงขั้นจะขอหย่า
ซูเป่ยซานอับอายขายหน้าอย่างมาก โมโหจนแทบจะหยุดหายใจ
วันที่ห้า
คนรุ่นเดียวกันกับซูยู่คุน ชื่อซูยู่เต๋อทายาทรุ่นที่สองของตระกูล เพราะมีข้อพิพาทเกี่ยวกับการเปิดกาสิโน ถูกรถชนตายที่ริมถนนกลางดึก
วันที่หก
ศูนย์การแพทย์แผนจีนหลายแห่งที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลซู สมุนไพรที่ใช้แอบตัดและลดคุณภาพวัสดุที่จำเป็น มาย้อมแมวขาย ถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพบ
อายัดเพื่อทำการตรวจสอบทั้งหมด!
วันที่เจ็ด……
วันที่แปด……
วันที่เก้า……
เมื่อความหายนะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งตระกูลซู ถูกปิดล้อมจากทุกด้าน
โชคชะตา บังคับให้พวกเขาต้องเข้าสู่ทางตัน
“บัญชาพญายมเป็นของจริง……พญายมต้องการจะลงโทษตระกูลซู!”
“ฉินเทียน……ฉินเทียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับพญายมแน่!”
และแล้วซูเป่ยซานก็ตระหนักรู้ถึงบางอย่าง
แต่ทว่า เขาไม่มีทางจะก้มหัวให้กับฉินเทียนที่เป็นรุ่นลูกรุ่นหลานเขาอย่างแน่นอน
“พรุ่งนี้ฉันจะไปพบราชาเทพ ขอให้ผู้อาวุโสอย่างเขาช่วยปกป้องคุ้มครอง !”
“ขอแค่ราชาเทพยื่นมือช่วยเหลือ พญายมก็ทำอะไรเราไม่ได้ !”
“ฉินเทียน แกรอวันตายของแกได้เลย !”
คนตระกูลซูต่างแตกสลาย ตอนนี้ พวกเขาฝากความหวังเดียวที่มี ไว้กับ“ราชาเทพ”คนเดียวแล้วเท่านั้น
นั่นคือฟางเส้นสุดท้ายของพวกเขา
และแล้ว พิธีเปิดสาขาสมาคมการแพทย์ที่หลงเจียง ก็ได้เริ่มต้นขึ้น