การโจมตีครั้งยิ่งใหญ่อย่างกะทันหัน ทำให้ซูซูรับไม่ได้ เธอตามออกไป
ด้านนอก มีฝนตก
“ฉันไม่ได้ทำผิด ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย?”
“คุณปู่ อธิบายให้ชัดเจนสิ!”
“มีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันออกจากตระกูล?ฉันไม่เห็นด้วย!”เธอตบประตูรถของซูเป่ยซาน
ใบหน้าซูเป่ยซานดูเยือกเย็น ในที่สุดเขาก็รู้สึกถึงความเป็นหัวหน้าครอบครัวอีกครั้ง
นี่ ก็คือจุดจบของการทรยศเขา
และ นี่ก็แค่เพิ่งเริ่มต้น
เดี๋ยวจะประชุมการลงทุนแล้ว ถึงตอนนั้นซูเหวินเฉิงได้ที่หนึ่ง ได้เงินลงทุนมหาศาล ฟื้นฟูตระกูลซูอีกครั้ง
ถึงตอนนั้น เขาจะดูซูซูคุกเข่าขอร้องเขา
เข่จะทำให้ทั้งหลงเจียง คลานอยู่ใต้เท้าของเขา
“ออกรถ”เขาออกคำสั่งอย่างไร้เยื่อใย
“อย่าไป……”
“หยุดรถ!”
ซูซูตามไป เธอล้มลงที่พื้น ได้แค่นั่งอยู่กลางโคลน มองรถเบนซ์ขับออกไปท่ามกลางสายฝนอย่างสิ้นหวัง
ในที่สุดอารมณ์ที่สะสมมานานหลายปีก็ระเบิดออก เธอร้องไห้ออกมา
แยกไม่ออกว่าเป็นฝนหรือน้ำตา ที่ตกลงมาจากทั่วใบหน้าอันสวยงามของเธอ
“ฉินเทียน คุณยังไม่รับไปอุ้มเธอกลับมาอีก เธอเป็นภรรยาคุณนะ!”หน้าโรงงาน ซูเป่ยฉีพูดอย่างกังวล
น่าแปลกใจมาก ครั้งนี้ ฉินเทียนไม่ได้ปรากฏตัวด้านข้างของซูซู เพื่อกันฝนให้เธอ
เขามองดูร่างที่โดดเดี่ยวท่ามกลางสายฝน ก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่ว่า ไม่เคลื่อนไหวใดๆ
“ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แล้ว ความเพ้อฝันบางอย่าง ถึงเวลาโยนมันทิ้งแล้ว”
“แม้ว่ามันจะโหดร้าย แต่ว่า นี่เป็นเส้นทางเติบโตของเธอ ที่หลีกเลี่ยงอุปสรรคนี้ไม่ได้”
“นอกจากเธอจะยืนขึ้นมาเอง มิฉะนั้น พวกเราก็ช่วยเธอไม่ได้”
เสียงของเขา ฟังดูไร้ความปรานี
ซูเป่ยฉี และหัวหน้าคนสำคัญๆ ของบริษัทหลายคน ต่างล้อมประตูไว้ ทุกคนต่างกังวลมาก
เวลาเดินไปเงียบๆ
ฝนตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
ซูซูกลายเป็นลูกหมาตกน้ำไปแล้ว ร่างที่อยู่ท่ามกลางสายฝน มองดูแล้วเหมือนทำอะไรไม่ถูกและน่าสงสารมาก
สุดท้าย แม้แต่ฉินเทียนก็ทนไม่ไหว ต่างอยากจะพุ่งเข้าไป ในที่สุดเขาก็เห็นว่า ซูซูค่อยๆ ยืนขึ้นมา
“เยี่ยมมาก!”ฉินเทียนกำหมัดแน่น ตะโกนอย่างตื่นเต้นในใจ
“ซูซู สู้ๆ นะ!”
“โรงงานและพนักงาน ต่างต้องการคุณ!”
“พวกเราจะอยู่กับคุณเสมอ!”ซูเป่ยฉีตะโกนเสียงดัง
“ประธานซูสู้ๆ!”
“พวกเราจะอยู่กับคุณเสมอ!”
“ประธานซูได้โปรดพาเราไปสู่ความรุ่งโรจน์ด้วย!”คนสำคัญพวกนั้น เบ้าตาร้อนชื้น เริ่มตะโกนขึ้นมา
ซูซูมองดูฉากนี้ เธอเช็ดเม็ดฝนและน้ำตาบนใบหน้า เดินกลับมา ทีละก้าว อย่างเด็ดเดี่ยว
แม้ว่าใบหน้าสวยงามนั้นจะขาวซีดราวกับกระดาษ จนทำให้คนปวดใจ แต่ว่า ในดวงตาสวยงามคู่นั้น กลับมีความเด็ดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
มองไปแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงแกร่งที่เป็นตัวเอกเล็กน้อย
“ทุกคนกลับไปทำงานเถอะค่ะ”
“ฉันซูซูขอสาบานว่า จะนำพาบริษัทให้เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติได้ โดยไม่ต้องใช้เวลานาน。”
“ถึงตอนนั้น ผลลัพธ์ทั้งหมด ก็จะแบ่งปันกับทุกคน!”
“โอเคเลย!”
“ประธานซูสู้ๆ!”
“ประธานซูสุดยอดที่สุด!”พนักงานต่างส่งเสียงเชียร์
ซูซูมองฉินเทียน พูดเสียงเบาว่า:“ขอบคุณนะ”
“คุณปู่รอง พวกเราไปห้องปฏิบัติการกันเถอะ ถ้าไม่ทำสูตรและสินค้าตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบออกมาได้ ฉันจะไม่ออกไปจากที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว!”
เธอเดินก้าวยาวเข้าไปด้านใน
ฉินเทียนยิ้มอย่างพึงพอใจ
พอมองแผ่นหลังของซูซู เขาก็รู้ว่า อีกไม่นาน หญิงสาวและผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับทั้งโลก กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
จากนั้น ซูซูและซูเป่ยฉี ก็อยู่ในห้องปฏิบัติการ ทำการวิจัยจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนไม่ได้กิน
อยากทำสูตรให้เสร็จสมบูรณ์ ง่ายที่ไหนกัน ถึงแม้ฉินเทียนจะชี้ทิศทางให้ แต่ว่า พอดำเนินการขึ้นมาอย่างละเอียด มันยากมาก
เพราะวัตถุดิบยานั้นเติมเต็มซึ่งกันและกัน และยังยับยั้งกันและกันด้วย พอเปลี่ยนหนึ่งในนั้นแล้ว อัตราส่วนอื่นๆ ก็แทบจะต้องทำใหม่อีกครั้งหมด
ทดลองไปมาไม่หยุด ปรับปรุงแล้วปรับปรุงอีก ……
และฟ้าก็มืดลง อย่างไม่รู้ตัว
และฟ้าก็สว่างขึ้นมา อย่างไม่รู้ตัว
ซูซูอยู่ในห้องปฏิบัติการ เกือบจะยี่สิบชั่วโมงแล้ว ไม่ได้ออกมาเลย
ระหว่างนั้น เพราะว่าซูเป่ยฉีทนไม่ไหว จึงกินอะไรไปบ้าง พักบ้าง แต่ซูซู ไม่ได้กิน ไม่ได้พักอะไรเลยสักนิด
ที่ไม่ได้พักผ่อนเหมือนกันนั้น ก็มีฉินเทียนด้วย
เขาต้มซุปไก่สมุนไพรจีนด้วยตัวเอง แล้วให้ซูเป่ยฉีเอาเข้าไป
แต่ซูเป่ยฉีพูดว่า ซุปไก่แข็งตัวแล้วเรียบร้อย ซูซูไม่ได้กินเลย
ฟ้ามืดแล้ว และก็สว่างอีกครั้ง
การประชุมการลงทุน เข้าสู่การนับถอยหลัง
ฉินเทียนรับสายของเถียหลินเฟิง บอกว่านักลงทุนของเทียนฟู่ แคปปิตอลและคณะกรรมการ รวมถึงผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ต่างมาถึงแล้ว
ถ้ายังไม่ไปอีก ก็จะไม่ทันแล้ว
ฉินเทียนอยากจะพูดอะไร ในที่สุดก็เห็นประตูของห้องปฏิบัติการเปิดออก ในมือซูซูถือกล่องเล็กๆ เดินออกมา
“ซูซู!”
เขาตะโกนอย่างตื่นเต้น บอกกับเถียหลินเฟิงในโทรศัพท์ว่า:
“จำไว้ว่า ไม่ว่าจะวิธีไหน ก็ต้องเหลือที่นั่งสุดท้ายไว้ให้ผม”
วางสาย แล้วก็ขึ้นไปทันที
“ฉินเทียน ฉันทำสำเร็จแล้ว”สีหน้าซูซูขาวจนดูน่ากลัว พูดไปประโยคเดียว ร่างกายก็อ่อนลง แล้วล้มลงไปในอ้อมแขนของฉินเทียน
ฉินเทียนกอดซูซูไว้ มองใบหน้าที่เหนื่อยล้า รู้สึกถึงร่างกายบอบบางนั้นที่แสนจะอ่อนแอ
เวลานี้ เขายังสงสัยว่าตัวเองทำเกินไปหรือไม่ ไม่ควรปล่อยให้เธอจัดการทั้งหมดนี้ด้วยตัวเอง
“ภรรยา คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“งานประชุมลงทุนอะไรนั่น พวกเราไม่ต้องไปเข้าร่วมแล้ว”
“คุณอยากลงทุน ไม่ว่าเท่าไหร่ ผมก็ให้คุณได้หมด”
“ตอนนี้ ผมจะพาคุณกลับบ้าน!”
ในอ้อมแขน ซูซูส่ายหน้า พูดว่า:“คุณรับปากฉันแล้ว ว่าจะไม่แทรกแซง”
“จะเริ่มแล้วใช่ไหม เร็ว รีบพาฉันไปงาน!”
ซูเป่ยฉีตามออกมา:“ปู่อุ่นซุปไก่ให้ร้อนแล้ว ซูซู หลานกินอะไรหน่อยสิ!”
“คุณปู่รอง พูดกันที่รถค่ะ!”
“ใช่สิ คุณขับรถละกัน!”
ฉินเทียนโยนกุญแจรถให้ซูเป่ยฉี เขาก้มตัว อุ้มซูซูขึ้นมา เดินก้าวใหญ่ออกไปด้านนอก
พนักงานทั้งโรงงานต่างหยุดงานในมือ แล้วมองมา
“อย่า……”ซูซูปฏิเสธหน้าแดง ต่อหน้าพนักงานจำนวนมากแบบนี้ อายมาก
แต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว
“ประธานซูประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น!”
“ประธานซูเอาให้ได้ที่หนึ่ง!”
“ประธานซูพาพวกเราไปสู่ความรุ่งโรจน์!”มองฉินเทียนอุ้มซูซูเดินผ่านด้านหน้า พนักงานก็พากันตะโกนเชียร์
ซูซูนอนอยู่ในอ้อมแขนของฉินเทียน มองดูใบหน้าที่ดูกระตือรือร้นรอบๆตัว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่า พยายามมากกว่านี้ก็คุ้มค่า
ไม่ใช่แค่ความกระตือรือร้นของพวกพนักงาน จู่ๆ เธอก็พบค้นพบความจริงที่น่าละอาย และไม่อยากที่จะยอมรับเลย
นั่นก็คือ มองจากมุมนี้ ฉินเทียนหล่อจังเลย……
ความสุขที่รายล้อมไปด้วยความอบอุ่นเข้ามา เธอหลับตาลงอย่างพึงพอใจ
พอฉินเทียนมาที่ด้านข้างรถ ก็พบว่าซูซูที่อยู่ในอ้อมแขน หลับตานอนไปแล้ว
“ให้เธอนอนสักพักเถอะ”
“คุณปู่รอง เร็ว พวกเราไปงานประชุมการลงทุนกัน!”
“วางใจเถอะ ปู่จัดการเอง!”ซูเป่ยฉีกระโดดขึ้นรถ ขับรถแลนด์โรเวอร์ แล้วพุ่งออกไป