“เป็นนาย?”
“คนแซ่ฉิน คิดไม่ถึงว่านายจะยังกล้ามาถึงที่!”
“พ่อบุญธรรม รีบจัดการเขา!” หยางเหมยเอ๋อร์ทั้งตกใจทั้งโมโห
เจ้าแมงป่องฮือ ๆ ในปาก ถอยหลังหลบอย่างลนลาน
ฉินเทียนที่อยู่ด้านหน้าถึงแม้ยิ้มตาหยี่มองไปแล้วไม่มีพิษภัยอะไร แต่ในสายตาของเจ้าแมงป่องก็คือปีศาจตัวหนึ่ง
ตอนกลางวันถูกบีบคอใช้หัวชนกระแทกกับกระจกรถอย่างทุกข์ทรมานยากที่จะลืมได้ ทิ้งเงามืดในใจให้เขามากแล้ว
เจียงว่านทาวย่นคิ้ว ที่แท้คือจำคนผิดแล้ว
คนหนุ่มคนนี้ก็ไม่ใช่องค์กรนั้น
เขาโล่งอกแล้วพูดเสียงหนักว่า“คนหนุ่ม นายมาหาตอนดึกอย่างนี้ด้วยเรื่องอะไร”
ฉินเทียนพูดตรงไปที่หัวข้อ“รองผู้นำเจียง เพื่อลูกสาวบุญธรรมของคุณคนนี้”
“ระหว่างผมและเธอมีความขัดแย้งและการประทะกันเล็กน้อย แต่ต่างก็เป็นผลที่เธอได้รับจากการกระทำของตัวเองผมก็แค่ลงโทษให้เธอเล็กน้อย”
“ครั้งนี้ที่ผมมาก็คือจะเตือนคุณ สั่งสอนดูแลคนของตัวเองให้ดี ๆ ”
“ยังมีไม่ว่าเป็นคุณหรือใครของพันธมิตรฉู่ ถ้าหากกล้าแตะต้องญาติพี่น้องของภรรยาผมเพราะเรื่องนี้ ผมฆ่าอย่างไม่มีทางละเว้น!”
เขามาฉู่โจวเพียงแค่มาเยี่ยมญาติ ไม่นานก็จะออกไป
แต่คนตระกูลหยางคืออยู่ที่นี่ตลอด หลังจากที่เขาออกไปแล้วไม่อยากให้คนตระกูลหยางได้รับการเอาคืนจากพันธมิตรฉู่
ชั่วชีวิตของเขานี้ไม่เคยได้รับความรู้สึกอบอุ่นที่มาจากญาติพี่น้องเท่าไหร่ แต่หยางยู่หลันอีกทั้งคนบ้านฝ่ายแม่ของเธอทำให้เขาได้รับรู้ถึงความรู้สึกแล้ว
สำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งที่มีค่ามาก
ดังนั้นไม่เสียดายที่มาสักครั้งด้วยตัวเอง เพื่อให้ยืนยันแน่ใจว่าไม่มีความผิดพลาด
ยังเป็นครั้งแรกที่ถูกคนมาหาชี้หน้าถามหาความรับผิดชอบถึงที่ สีหน้าของเจียงว่านทาวดำเหมือนก้นหม้อ
แต่เขารู้ว่าตัวเองไม่มีเหตุผลเพียงพอ
สะบัดมืออย่างอารมณ์เสียพูดว่า“ที่นายพูดฉันรู้แล้ว”
“ตอนนี้ฉันบอกนายได้เรื่องนี้ก็จบลงแค่นี้ คนของพันธมิตรฉู่จะไม่หาเรื่องวุ่นวายกับนายและคนรอบข้างของนาย”
“นายไปได้แล้ว”
“แต่ก่อนที่จะไปฉันสามารถเตือนนายประโยคหนึ่งได้ว่า คนหนุ่มพูดจาอย่าหยิ่งผยองมากไป”
“คนมีฝีมือสูงของพันธมิตรฉู่ของฉันมีนับไม่ถ้วน นายพูดฆ่าก็ฆ่างั้นเหรอ?”
“ระวังเป็นคนอย่าหยิ่งผยองมากเกินไปถ้าทำตัวเย่อหยิ่งมากไปจะได้รับภัยพิบัติ”
ฉินเทียนยิ้มแล้วคิดไม่ถึงว่าเจียงว่านทาวคนนี้ยังคงแบ่งแยกบุญคุณความแค้นออกจากกันอย่างชัดเจน
ดังนั้นสำหรับการกระทบกระทั่งของเจียงว่านทาวเขาก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
“ขอบคุณมากที่เตือน” ฉินเทียนเปิดเผยการหยอกล้อออกมาแล้วหมุนตัวเตรียมที่จะออกไป
อ๊ะ?
เขามองเห็นชายกำยำคนหนึ่งขวางด้านหน้าไว้แล้ว
“ฉันชื่อเถียปี้”
“เด็กน้อย นายเห็นที่นี่เป็นสถานที่อะไรแล้ว อยากมาก็มาอยากไปก็ไป”
ฉินเทียนกระดกคิ้วแล้ว“นายจะเอายังไง?”
“เรื่องที่นายพูดรองผู้นำได้รับปากนายแล้วถือว่าให้หน้านาย”
“ตอนนี้นายต้องขอโทษรองผู้นำเพื่อความหยิ่งผยองและการเสียมารยาทของนาย”
“ไม่งั้น”
“ไม่งั้นยังไง?”
เถียปี้คำรามเสียงต่ำออกหมัดออกมาอย่างฉับพลัน ต่อยบนท่อนเหล็กที่อยู่ด้านข้าง
ทันใดนั้นท่อนเหล็กก็ยุบลงไปเปิดเผยรอยหมัดที่ชัดเจนมากอันหนึ่ง
“นายคิดว่ากระดูกของนายสามารถแข็งกว่าท่อนเหล็กอันนี้ได้ไหม?”
เถียปี้ยิ้มอย่างเย็นชา เวลานี้เขาเล็งเป้าหมายที่ฉินเทียนแล้ว
“ใช่!”
“ให้เขาคุกเข่าลงขอโทษ!”
“คนแซ่ฉิน นายเห็นพันธมิตรฉู่เป็นสถานที่อะไรแล้ว? คิดไม่ถึงจะกล้าหยิ่งผยองอย่างนี้!”
“วันนี้ไม่ขอโทษ พี่เถียปี้ต่อยกระดูกของนายให้เละ !” หยางเหมยเอ๋อร์และเจ้าแมงป่องหยิ่งผยองขึ้นมา
เมื่อกี้คิดไม่ถึงว่าเจียงว่านทาวจะอดทนประณีประนอมกับฉินเทียนอย่างนี้ พวกเขายังคิดว่าไม่มีโอกาสที่จะแก้แค้นแล้ว
ตอนนี้เถียปี้ออกหน้าทั้งหมดต่างก็สามารถแก้ปัญหาได้
เจียงว่านทาวถอนหายใจเฮือกหนึ่ง พูดอย่างใจลอยว่า“เถียปี้ พวกเรายังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้เขาไปเถอะ”
พันธมิตรฉู่ถึงช่วงเวลาความเป็นความตาย เวลานี้เขาไม่อยากสร้างปัญหาใหม่ไม่งั้นแล้วก็จะไม่ยอมให้กับฉินเทียนอย่างนี้
“ไอ้เด็กน้อย ครั้งนี้ถือว่านายโชคดีวันหลังระวังให้ดี!” เถียปี้กัดฟันเตือนหลีกทางให้อย่างไม่ยินยอม
ฉินเทียนก้าวเท้าออกไปด้านนอกพูดตามไปด้วยว่า“หมัดแข็งแกร่งอีกจะมีประโยชน์อะไรคนก็ไม่ใช่ท่อนเหล็ก”
“ไม่เข้าใจที่จะเปลี่ยนแปลง สุดท้ายก็ด้อยค่า”
“นายพูดอะไร?”
“นายกล้าดูถูกฉัน!”เถียปี้หยิ่งผยองที่สุด ก็คือหมัดคู่และแขนมั่นคงแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า
ข้อห้ามของเขาก็คือคนอื่นพูดว่าเขาเป็นคนที่ไร้วัฒนธรรมไม่รู้จักที่จะเปลี่ยนแปลง
ได้ยินทันใดนั้นก็ระเบิดความโกรธ โห่ร้องหมัดหนึ่งต่อยไปทางสมองด้านหลังของฉินเทียน
“อย่า!”เจียงว่านทาวร้องอุทาน
ฉินเทียนดูไปแล้วธรรมดาทำไมสามารถรองรับหมัดอย่างนี้ได้ โดนไปแล้วสมองยังไม่ถูกต่อยจนระเบิดเหรอ
ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้เขาไม่อยากสร้างปัญหาใหม่ คิดไม่ถึงว่ายังคงขวางเถียปี้ไว้ไม่อยู่
หมัดพาลมเหมือนเสียงฟ้าร้องอย่างนั้น ในพริบตาก็มาถึงสมองด้านหลังของฉินเทียนแล้ว
ฉินเทียนเหมือนไม่มีความรู้สึกอย่างนั้น ตอนที่หมัดมุ่งตรงมาโดนที่ผมของเขา เหมือนเขามองสบาย ๆ เอียงหัวไปด้านข้างเล็กน้อย
หมัดของเถียปี้ว่างเปล่า ตะลึงเล็กน้อยตาแดงต่อยหมัดดั่งฟ้าร้องอีกครั้งหันไปทางหน้าอกของฉินเทียน
ใต้เท้าของฉินเทียนไม่ขยับ ร่างกายพอเอียงก็หลบไปได้อย่างว่องไวสวยงามมาก
ในที่สุดเถียปี้ก็พบเจอคนมีฝีมือสูงแล้ว เขาไม่ยอมแพ้ หมัดคู่พลังแข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มจนจบกลับไม่ได้แตะโดนมุมเสื้อของฉินเทียนแม้แต่นิด
เจียงว่านทาวเหมือนพบแผ่นดินใหม่แล้ว เขาอ้าปากกว้างอย่างตื่นตะลึงที่แท้ฉินเทียนคนนี้เป็นคนมีฝีมือสูงจริง ๆ
เถียปี้รู้สึกว่าฉินเทียนกำลังหยอกล้อตัวเองอยู่ เขาพูดเสียงดังอย่างโมโหว่า“หลบไปหลบมาจะถือว่าเก่งอะไร?”
“เก่งจริงรับหมัดของฉัน!”
ในเสียงที่หยิ่งผยอง หมัดที่เหมือนกับค้อนเหล็กได้ทุบไปทางหน้าผากของฉินเทียนอย่างเอาตายอีกครั้ง
ดวงตาของฉินเทียนหนาวเย็น ออกหมัดใหญ่อันนี้ต่างก็เป็นกระบวนท่าที่ถึงแก่ชีวิต ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็คงจะถูกต่อยตายไปนานแล้ว
โหดเหี้ยมอย่างนี้ ควรต่อย
ครั้งนี้เขาไม่ได้หลบหนี แต่มองเหมือนตามสบายเอาหมัดขึ้นไปรับ
“ต้องตาย!”ในดวงตาของเจ้าแมงป่องเปิดเผยสีหน้าที่ตื่นเต้น
ฉินเทียนอาจจะมีทักษะที่ว่องไว แต่ต้องการรับหมัดกับเถียปี้นั่นไม่ใช่หาเรื่องตายเหรอ?
เพียงแค่ได้ยินเสียงปังสองหมัดกระแทกชนเข้าด้วยกัน
จากนั้นเถียปี้ร่างกายที่เหมือนกับวัวที่มีแรงพลังมากก็ได้บินลอยออกไป
ตึ้งเล็กน้อยกระแทกลงบนพื้น เขากุมหมัดอยู่พูดอย่างหวาดกลัวว่า“หมัดหนึ่งของนายสะเทือนกระดูกหมัดของฉันจนละเอียดแล้ว!”
“หมอนี่ ฉันดูนายผิดไปแล้วจริง ๆ !”
อะไร?
หมัดหนึ่งสะเทือนกระดูกหมัดของเถียปี้จนละเอียด? เจียงว่านทาว หยางเหมยเอ๋อร์และเจ้าแมงป่องทั้งหมดต่างก็กลัวมากแล้ว
ฉินเทียนยิ้มอย่างเย็นชาพูดว่า“ลงโทษเล็กน้อย ดูแลจัดการด้วยตัวเองแล้วกัน”
พูดจบก็หันเดินมุ่งตรงออกไปด้านนอก
“จอมยุทธ์ได้โปรดหยุดก่อน!”เจียงว่านทาวมีปฏิกิริยามา พุ่งออกมาอย่างตื่นเต้น
เขาขวางด้านหน้าของฉินเทียนประสานมือพูดอย่างเคารพว่า“คิดไม่ถึงคุณเฉินอายุยังน้อยก็ฝึกฝนจนล้ำลึกยากที่จะคาดเดาได้อย่างนี้”
“ตอนนี้ผมมีการร้องขอที่ไร้เหตุผลอย่างหนึ่ง”
เขากัดฟันแล้วในที่สุดก็พูดออกมา“พันธมิตรฉู่มีภัยพิบัติ ขอให้จอมยุทธ์อยู่ต่อช่วยพวกเราให้ผ่านด่านความยากลำบากนี้ไป!”
“หลังงานสำเร็จจะมีของขวัญขอบคุณแน่นอน!”
ฉินเทียนย่นคิ้ว“พวกคุณพันธมิตรฉู่มีภัยพิบัติ มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผม?”
“ผมก็ไม่เสียดายของขวัญขอบคุณของพวกคุณ”
เจียงว่านทาวมองฉินเทียนที่ออกไปอยู่ เขาพูดพึมพำอย่างหดหู่“หรือว่าบนโลกนี้ไม่มีคนที่สามารถต่อกรกับบัญชาพญายมได้จริง ๆ เหรอ?”
“พันธมิตรฉู่มีคุณธรรมสูงมาตลอด เพราะอะไรถึงมีภัยพิบัติอย่างนี้!”
“คุณพูดอะไร”ฉินเทียนที่เดินไปถึงหน้าประตูแล้วได้ยิน“บัญชาพญายม”สามคำอดไม่ได้ที่จะตะลึงแล้วเล็กน้อย
เขาหมุนตัวมองเจียงว่านทาวอยู่ พูดอย่างเหลือเชื่อว่า“คุณหมายถึงพันธมิตรฉู่ของพวกคุณได้รับบัญชาพญายม?”