บทที่ 143 อนาคตยังอีกยาวไกล
เฉินเอ้อร์กั่วยิ้มแล้วพูดว่า : “ที่ผมทำนี้มันก็เพื่องานนะ”
“ให้พี่น้องได้สื่อสารด้านความรู้สึกกันให้มากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายให้มากยิ่งขึ้น”
“——เวรเอ๊ย ไอเด็กน้อยเนี่ยชิงหลงเริ่มคุยโม้โอ้อวดอีกแล้ว!”
“พี่ใหญ่ ผมลืมบอกคุณไปเลย เรื่องในครั้งนี้ ที่คุณทำไม่ได้มาตรฐานเลย ลำเอียงเกินไปแล้ว!”
ฉินเทียนอยากรู้อยากเห็น หยิบเอาโทรศัพท์ของเฉินเอ้อร์กั่วมาดู เห็นเพียงแค่เนี่ยชิงหลงส่งข้อความมาในกลุ่มอยู่ไม่กี่ข้อความ
“เฮ้ พวกคุณก็อย่าอิจฉาผมไปเลย พี่ใหญ่ก็แค่แนะนำมิสทิวลิปไม่กี่คนให้มาเป็นแฟนของผมเท่านั้นเอง”
“ในตอนนั้นผมพยายามบอกปัดอย่างที่สุด พวกคุณก็รู้ พวกพี่ให้ความสำคัญกับเพื่อนมากกว่าเรื่องแฟน ไม่เหมือนกับเอ้อร์กั่ว แค่เห็นผู้หญิงก็ไม่ยอมเดินไปไหนแล้ว”
“แต่ก็ไม่มีทางเลือก ในตอนนั้นลูกพี่ใหญ่พูดว่า ช่วงที่ผ่านมานี้เนี่ยชิงหลงตั้งใจทำงานมาก แล้วก็ลําบากมาก นี่คือสิ่งที่นายสมควรได้รับ”
“ผมจะไปสามารถทำอะไรได้? ผมก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มรับเท่านั้น”
เนี่ยชิงหลงยังคงแท็กเจ้าของกลุ่มอย่างเฉินเอ้อร์กั่ว : “กั่วจือ คุณกลายเป็นขนมแท่งเถอะ อย่าให้ถูกกลุ่มดาราสาวจากต่างประเทศกลุ่มนั้นล้างสมองอยู่ทุกวันเลย”
“ผมจะบอกคุณให้ รอให้คุณได้เปิดหูเปิดตากับความสวยงามของมิสทิวลิปแล้ว ตอนที่คุณได้เห็นก็ไม่อาจเหลือบตามองพวกดาราสาวพวกนั้นอีกเลย”
มีสิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่คาดคิดว่าหมูชราตอบกลับมาภายในไม่กี่วินาที : “เสี่ยวหลงหลง เรื่องจริงหรือโกหกกัน? มิสทิวลิป ไม่มีแบ่งให้ฉันบ้างเหรอ?”
มีเสียงพรวดหลุดออกมา ฉินเทียนอดที่จะหัวเราะไม่ไหว
ไม่คิดเลยว่าหมูชราคนนี้ ก็เป็นคนที่ไม่จริงจังอย่างคาดไม่ถึงอย่างนี้
เฉินเอ้อร์กั่วก็ยิ่งไม่ยอมให้อภัย
“พี่ใหญ่ คุณเห็นแล้วใช่ไหม?”
“ทุกคนต่างก็เป็นพี่น้องกัน พี่ต้องการให้ตักน้ำใส่ถ้วยให้เท่ากันใช่ไหม? ฉันก็อยากได้มิสทิวลิปเหมือนกัน”
ฉินเทียนเห็นว่า ในกลุ่มมีทั้งหมดสิบสองคน รูปโปรไฟล์ของคนอื่น ต่างก็เป็นรูปของหนึ่งในสิบสองนักษัตร มีเพียงเฉินเอ้อร์กั่วที่เป็นเจ้าของกลุ่มเท่านั้น ที่เป็นไอ้คนหน้าไม่อาย ไม่คาดคิดว่ารูปโปรไฟล์จะเป็นนางแบบสุดฮอต
เขาอดไม่ได้ที่จะต่อว่าอย่างไร้ยางอายประโยคหนึ่ง
จู่ๆ เกิดฉุกคิดมาได้ เขาตอบกลับเนี่ยชิงหลงในกลุ่มนั้นว่า : “ใช่เหรอ?”
“มิสทิวลิปมากมายขนาดนั้น นายชอบคนไหนละ?”
เนี่ยชิงหลงคิดจนสมองแตก ก็ไม่คาดคิดว่าในขณะนี้ฉินเทียนจะใช้โทรศัพท์ของเฉินเอ้อร์กั่วตอบกลับข้อความอยู่
เพื่อที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่ตัวเองพูดคือความจริง เขาก็ตอบอย่างคล่องแคล่วว่า : “ทั้งหมดดูไม่เลวเลย”
“เพียงแต่ว่าพี่ใหญ่แนะนำให้ฉันเท่านั้น เขาบอกว่าผมเป็นคนบุคลิกอย่างนี้ ต้องเป็นคุณลั่วลั่วของตระกูลร็อคชิลเลอร์เท่านั้น เหมาะสมกับผมที่สุด”
“พี่ใหญ่ยังบอกด้วยว่า ถ้าหากผมสามารถที่จะยินยอมอย่างไม่เต็มใจ เขาก็จะไปสู่ขอแต่งงานที่ตระกูลร็อคชิลเลอร์เก่าด้วยตัวเอง”
“เอ้อร์กั่ว บอกผมที ตอนนี้คุณน้ำลายไหลไปแล้วหรือเปล่า?”
เฉินเอ้อร์กั่วพูดอย่างตื่นเต้นว่า : “เวรเอ๊ย ไอ้หมอนี่มันชักจะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!”
“พี่ใหญ่ รีบต่อต้านมัน!”
เส้นสีดำปรากฏบนใบหน้าของฉินเทียน เขาไม่คาดคิดว่าเนี่ยชิงหลงที่ต่อหน้าเป็นคนจริงจังขนาดนั้น ราชามังกรที่สง่างามน่าเกรงขาม คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคนไร้ยางอายขนาดนี้
“จริงเหรอ? ฉันได้ยินมาว่า มีใครบางคนกระโดดลงมาจากตึกใหญ่ที่หลงเจียง แล้วก็หนีหัวซุกหัวซุนไปแล้ว”
เขาตอบกลับข้อความไปประโยคหนึ่ง
ทันใดนั้น เนี่ยชิงหลงก็เงียบไปเลย
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถึงได้ตอบกลับข้อความมาอย่างระแวดระวัง : “กั่วจือ คุณไปได้ยินใครพูดมา?”
เฉินเอ้อร์กั่วหัวเราะจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา แล้วกระทืบเท้ากรอบไปด้วย จนเฮลิคอปเตอร์เกือบที่จะพลิกคว่ำไปแล้ว
เขาหยิบมือถือมาจากมือของฉินเทียน กำลังคิดว่าจะตอบข้อความกลับไป ทันใดนั้นก็ตอบคำว่า “เวรเอ๊ย!” ติดต่อกันอยู่หลายครั้ง
“เวรเอ๊ยเวรเอ๊ยเวรเอ๊ย!”
“พี่ใหญ่คุณรีบดูเร็วเข้า ไม่คิดเลยว่าหนูตัวนั้นมีชีวิตแล้ว!”
“เขาส่งข้อความแล้ว!”
ฉินเทียนเห็นว่า ราชาหนูตอบข้อความอย่างอ่อนแอประโยคหนึ่ง :
“ตามข้อมูลที่เชื่อถือได้ คุณลั่วลั่วเดินทางอย่างเปล่าประโยชน์กลับไปที่หลงเจียง อย่างเกรี้ยวกราดใหญ่โต เธอสาบานว่าจะไม่แต่งงานกับราชาเทพของพวกเรา ผู้เฒ่าของตระกูลร็อคชิลเลอร์ก็จนปัญญา ในเวลานั้นตามที่ได้บอกกับพ่อบ้าน ตราบใดที่พี่ใหญ่ของพวกเรายินยอมที่จะแต่งงานกับลั่วลั่ว เขาจะเพิ่มบ่อน้ำมันของวาร์เป็นสินสอดทองหมั้น”
“อย่าถามฉันว่ารู้ได้อย่างไร ถึงถามฉันก็ไม่บอกหรอก”
การปรากฏตัวที่ไม่บ่อยนักของราชาหนู ทำให้ราชาเสือ ราชาหมู และราชางูที่โดยปกติแล้วจะไม่พูดอะไรมาก ราชาม้า และคนอื่นๆ ทั้งหมดต่างก็โผล่ออกมาแล้ว
จะเห็นได้ว่าถึงแม้คนเหล่านี้โดยปกติแล้วจะไม่พูดอะไร แต่ก็ยังจ้องหน้าจออยู่ตลอดเวลา
พวกเขาต่างก็ซักไซ้ราชาหนูทีละคน ว่าช่วงนี้ฉินเทียนอยู่ที่ไหน แล้วกำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่
การตอบกลับของราชาหนูทำให้คนอื่นอยากที่จะจับเขามาทุบตีอย่างโหดร้ายสักที : “ฉันรู้ แต่ฉันไม่บอกหรอก”
เนี่ยชิงหลงส่งอิโมจิที่เป็นชุดความโกรธเคืองออกมา
“จะต้องเป็นเรื่องปลอมแน่นอน!”
“ผู้เฒ่าตระกูลร็อคชิลเลอร์อยากที่จะเพิ่มบ่อน้ำมันของวาร์เป็นสินสอดทองหมั้น เรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน?”
“หนูน้อย ฉันดูออกว่านายอิจฉาฉันใช่ไหม? เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคนที่คุณลั่วลั่วชอบก็คือฉัน”
ราชาหนูตอบกลับข้อความว่า : “นั่นก็เป็นเพราะว่า พ่อบ้านรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงไปทั่วโลกมากเกินไป จึงไม่มีทางออกมาจากปราสาทของผู้เฒ่าตระกูลร็อคชิลเลอร์ได้”
เฉินเอ้อร์กั่วอดไม่ได้ที่จะทำหน้าตาบูดบึ้ง
“พี่ใหญ่ สมแล้วที่เป็นราชาหนูของพวกเรา แม้แต่ข่าวสารที่ยังไม่ถูกแจ้งออกมาจากปราสาทของตระกูลร็อคชิลเลอร์ เขาก็ยังสามารถที่จะรับรู้ได้”
ฉินเทียนยิ้มโดยที่ไม่ได้กล่าวอะไร
เฉินเอ้อร์กั่วไม่ได้สนใจอะไรมากมายขนาดนั้นแล้ว เขาแท็กไปที่เนี่ยชิงหลงอย่างบ้าคลั่ง
“เสี่ยวหลงหลง รีบพูดมาเร็วเข้า นายถูกมิสทิวลิปขว้างเอาไว้จนต้องหนีออกมาจากทางหน้าต่างที่แตกใช่ไหม?”
“นายยังเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดแล้วจริงๆ ละก็ ทำเรื่องนี้ก็ขี้ขลาดที่สุดเลยนะ”
เนี่ยชิงหลงยังคงพูดปฏิเสธว่า : “ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เอ้อร์กั่วนายอย่าพูดจาเหลวไหล”
ในที่สุดเฉินเอ้อร์กั่วก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาแท็กไปที่ทุกคนแล้วพูดว่า : “มีข่าวหนึ่งที่อยากจะบอกกับทุกคน ประโยคเมื่อสักครู่นี้ เป็นพี่ใหญ่ที่ใช้โทรศัพท์ของฉันส่งข้อความเอง”
“คิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ราชาหนู : “เวรเอ๊ย ทุกท่าน ฉันไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น วันนี้พวกคุณทุกคนไม่ได้พบฉันอยู่ที่นี่มาก่อน”
หลังจากที่พูดจบแล้ว โปรไฟล์ของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเทาทันที
“เอ้อร์กั่ว ฉันไม่เชื่อหรอก เว้นแต่ว่านายจะถ่ายรูปของพี่ใหญ่มาให้ฉันได้ดูก่อน”
“เอ้อร์กั่ว รีบถ่ายรูปเร็วเข้า เสี่ยวโผหู่คิดถึงพี่ใหญ่แล้ว”
“กั่วจือ ทำเพื่อเพื่อนมนุษย์เถอะ ให้พวกเราได้ดูพี่ใหญ่บ้าง”
เมื่อได้เห็นข้อความนี้ของทุกคน ภายในใจของฉินเทียนก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เขาก็รู้สึกคิดถึงเหล่าพี่น้องเหล่านี้ขึ้นมาเล็กน้อยอย่างกะทันหัน
สิบสองราชา ทั้งหญิงชายคนแก่และหนุ่มสาว แต่ทว่า ระหว่างพวกเขาและฉินเทียน มิตรภาพของพี่น้องทั้งหมดแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้าเสียอีก
หลังจากที่ขอความยินยอมจากเขาแล้ว เฉินเอ้อร์กั่วก็อยู่ติดกับข้างกายเขา ใช้หัวใจที่ตื่นเต้น มือที่สั่นเทา ถ่ายรูปร่วมกันของตัวเองใบหนึ่ง
ฉากด้านหลังเป็นสีฟ้าครามของระดับความสูง
เขายังชูนิ้วเป็นรูปกรรไกรอีกด้วย
หลังจากที่ได้ส่งภาพถ่ายด้วยตัวเองร่วมกันรูปนี้เข้าไปในกลุ่มแล้ว ทันใดนั้นก็กลายเป็นหม้อทอดไปแล้ว
“เอ้อร์กั่ว นายนี้โชคดีมากจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้ออกไปทำภารกิจด้วยกันกับพี่ใหญ่!”
“ไม่ได้ วันนี้ถ้าไม่มีอังเปาสองร้อยหยวน เรื่องนี้ไม่มีทางจบแน่!”
“ส่งอังเปามาเร็วเข้า!”
“นายถูกพวกคนกากที่รู้ความลับของวิกตอเรียเหล่านั้น ตอนนั้นทั่วทั้งโลกกำลังรอฟังข่าวคราวของนายอยู่ ถ้านายไม่ส่งอังเปามาละก็ ฉันจะบอกพวกเธอ ว่านายอยู่ที่มิลาน”
“เอ้อร์กั่ว ให้พี่ใหญ่พูดอะไรสักสองสามคำสิ”
เมื่อฉินเทียนเห็นว่า เครื่องบินใกล้จะเข้ามิลานแล้ว เพียงไม่นานนักก็จะถึงจุดหมายปลายทาง
เขาพูดกับเฉินเอ้อร์กั่วว่า : “บอกกับเหล่าพี่น้องทั้งหลายด้วย หนทางยังอีกยาวไกล จะต้องมีวันที่พวกเรากลับมาที่ฝางฉางแน่นอน”
พูดจบ ก็หลับตาพักสมอง ภายในใจก็กำลังคิดว่า ผลของการเข้าร่วมนิทรรศการของซูซูเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
เฉินเอ้อร์กั่วรีบทำตามอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้ : “ผมกำลังคิดว่า ยังไม่ลากเอาพี่ใหญ่เข้าไปในกลุ่มจะดีกว่า”
“ไม่อย่างนั้นเฉินเอ้อร์กั่วก็ต้องตกกระป๋องแน่แล้ว”
วันนี้เขามีความสุขมากที่ได้เผยโฉมหน้าของเนี่ยชิงหลง เขามีความสุขมากจริงๆ และเขาก็ต้องส่งอังเปาจำนวนเงินสองร้อนหยวนอย่างไม่เต็มใจ
“เวรเอ๊ย”
“เจ้าหนูตัวนั้นออฟไลน์ไปแล้วใช่ไหม เป็นการค้นคว้าที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
เมื่อกลับมาถึงสำนักงานการรักษาความปลอดภัยเทียนตุ้น ท้องฟ้าก็มืดไปหมดแล้ว
ซูซูรอเขาอยู่ที่นี่ก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเห็นฉินเทียน เธอก็วิ่งมาหาด้วยความตื่นเต้น
“สามี พวกเราได้รางวัลเหรียญทองแล้ว!”
“รางวัลเหรียญทองระดับเฟิร์สคลาสที่งานความงามนานาชาติเชียวนะ!” เธอตื่นเต้นจนทั่วทั้งตัวแทบจะเปล่งแสงออกมาได้แล้ว
ฉินเทียนชะงักไปครู่หนึ่ง พูดอย่างตื่นเต้นว่า : “ที่รัก คุณเรียกผมว่าอะไรนะ?”
บทที่ 142 กลุ่มQQ
บทที่ 144 กลับบ้าน