การเผชิญหน้าอย่างกะทันหัน ทำให้สี่คนสองฝ่ายต่างก็ตกตะลึง
ปฏิกิริยาตอบสนองสีหน้าของทั้งสี่คนดูตื่นเต้นตกใจมาก
เรียกได้ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตในอาชีพเดียวกัน พี่หรงและหวางอิงชุนผู้จัดการส่วนตัวเผชิญหน้ากันหลายครั้ง เข้ากันไม่ได้ดั่งน้ำกับไฟ
พี่หรงจำได้ว่าฉินเทียนเป็นคนที่อยู่กับหลิวหรูยู่ในเมืองหลาน ตอนนั้นเธอเตือนฉินเทียนให้อยู่ห่างจากหลิวหรูยู่
บอกว่าฉินเทียนต้องการฉวยโอกาสเกาะดาราใหญ่ สมควรตาย
เธอยังเตือนหลิวหรูยู่ ต้องระวังคนอย่างฉินเทียน
ด้วยเหตุนี้ หลิวหรูยู่จึงทะเลาะกับพี่หรง บอกว่าคุณฉินไม่ใช่คนแบบนั้น
ขอให้พี่หรงอย่ามีอคติ
ตอนนี้ฉินเทียนอยู่กับหวางอิงชุนจริงๆ ยิ่งกว่านั้น มือซ้ายผลไม้เชื่อม มือขวาปลาหมึกย่าง ลูกหมูเป้บป้าสองสามตัวห้อยอยู่ที่คอของเขา
นี่คือการประจบประแจงไหม? หรือต้องการผ่านหวางอิงชุน เพื่อประจบประแจงมู่เฟยเฟยที่อยู่เบื้องหลังของเธอ
ผู้ชายกากๆ น่าทุบทิ้งจริงๆ
ถึงแม้หลิวหรูยู่ปกปิดใบหน้าไว้ แต่ก็สามารถแสดงความรู้สึกได้ว่า ขณะนี้เธอผิดหวังอย่างมาก
หวางอิงชุนไม่รู้เรื่องราวระหว่างฉินเทียนกับหลิวหรูยู่ เธอจงใจเกาะแขนของฉินเทียน ยิ้มหยามหยัน พูดว่า : “คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการเหรียญทองคำที่มีชื่อเสียงในวงการ จะพาเจ้านายทองคำมาขอพรที่วัด ”
“ไม่รู้ว่าขอเรื่องอาชีพการงาน หรือว่าการแต่งงาน? ”
“คงไม่ใช่ขอเรื่องลูกหรอกนะ ”
“คุณพูดว่าอะไรนะ ? ” พี่หรงไม่คุ้นเคยกับเธอ เมื่อเห็นหวางอิงชุนให้ร้ายหลิวหรูยู่ เธอจึงตบเธอเข้าไปหนึ่งฉาด
“นังเลว หุบปากแกซะ !”
ยังต้องการเปรียบเทียบกับหลิวหรูยู่ของพวกเราไปทุกที่ ไม่รู้จักตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงกดูเงาตัวเอง ว่า พวกคุณคู่ควรไหม?
หวางอิงชุนปิดหน้า โกรธจนพูดไม่ออก
สถานภาพของระดับเป็นตัวกำหนดตำแหน่งในแวดวงของวงการ มู่เฟยเฟยกับหลิวหรูยู่ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือความนิยม ก็ไม่สามารถเทียบได้จริงๆ
ดังนั้น เธอจึงไม่กล้าอวดดีกับพี่หรง
ด้วยความโกรธ เธอผลักฉินเทียน และพูดว่า : “คุณตายไปแล้วหรือ? ”
“ฉันถูกทุบตี คุณยังไม่ลงมือช่วย ”
“ช่วยแก้แค้นแทนฉันโดยเร็วด้วย ! ”
ฉินเทียนขมวดคิ้ว หลิวหรูยู่จ้องมองแน่นิ่งมาที่เขาโดยตลอด แต่เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร
“บอกฉันมา คุณกับเธอมีความสัมพันธ์อย่างไร ?” หลิวหรูยู่เปิดปากพูด น้ำเสียงสะเทือนใจเล็กน้อย
ฉินเทียนต้องการพูดบางอย่าง หวางอิงชุนรีบพูดว่า “คุณดูไม่ออกหรือว่าความสัมพันธ์เขากับฉันเป็นอย่างไร ? ”
“ว่าไงล่ะ หรือว่าราชินีสาวสวยคนนี้ ต้องการแย่งเพื่อนชายกับฉัน ?”
“ถ้าคุณชอบเขา ฉันให้คุณก็ไม่เป็นไรนะ เพียงแค่ข่าวนี้ก็แรงเกินพอแล้วนะ ”
พี่หรงพูดอย่างโกรธเคือง “นังเลว อยากตายไหม ? ”
“พูดเหลวไหลอีกที เชื่อไหมว่าแม่จะฉีกปากคุณ ! ”
“หรูยู่ของพวกเรา จะชอบผู้ชายเลวๆแบบนี้ได้อย่างไร มีแต่คุณเท่านั้นที่มองเป็นสิ่งล้ำค่า ”
ความโกรธฉายในแววตาของหวางอิงชุน พูดว่า : “ไม่ช้าก็เร็ว คงมีสักวัน แม่จะสั่งสอนให้ดู! ”
พี่หรงยิ้มเยาะเย้ยพูดว่า : “ฉันจะรอดู เกรงว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันนั้น ”
“หรูยู่ เราไปกันเถอะ! ”
เธอดึงหลิวหรูยู่แล้วเดินจากไป ผ่านด้านข้างฉินเทียน เชอะ “ผู้ชายกากๆ ! ”
“ หุบปากเจ้าไว้ อย่าได้พูดไปว่ารู้จักหลิวหรู่ยู่ ชื่อเสียงของพวกเราไม่มีวันถูกทำลายได้โดยคนกระจอกอย่างคุณ! ”
ฉินเทียนไร้คำพูดยิ้มย่างขมขื่น สถาณการณ์เช่นนี้ ถึงมีหลายปาก ก็อธิบายได้ไม่ชัดเจนแล้ว
ไม่ถูกสิ ทำไมฉันต้องอธิบาย ? กับหลิวหรูยู่ก็แค่พบกันแค่ครั้งเดียว ดูเหมือนไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายแล้วล่ะ
คิดไม่ถึงว่า วันนี้สามารถแย่งซีนของหลิวหรูยู่ได้ กระตุ้นหวางอิงชุนราวกับไก่น้อยที่เพิ่งหัดวางไข่ หัวเราะคิกคิกคักคัก อดตื่นเต้นไม่ได้
“วันนี้เป็นเซียมซีดีสุดยอดแน่ๆ รีบไปกันเถอะ! ”
ความอดทนของฉินเทียนเกือบจะหมดลงแล้ว แค่สามารถรับมือกับหวางอิงชุน อย่างไม่เต็มใจ จบได้เร็ว กลับไปได้เร็ว
เพราะเป็นไปตามคาด งานเลี้ยงรับรองในคืนนี้ ถึงจะเป็นจุดสำคัญที่ต้องโฟกัส
มู่เฟยเฟยและพานหลงต่างจะปรากฏตัว
เสี่ยงเซียมซีแบบไม่ตั้งใจนัก เมื่อกำลังจะออกไป คำพูดของนักพรตเต๋าที่อยู่ข้างๆ ดึงดูดความสนใจของฉินเทียน
“อยู่ร่วมกับมังกร หัตถ์ผีของราชาฉิน โลกนี้ไม่มีใครเทียบได้……หมายความว่าอะไร? ”
“อนิจจา คนในปัจจุบันนี้ อบอุ่นใจเมื่อนึกถึงพระเจ้า”
อืม?
ฉินเทียนตกตะลึงสักครู่ พูดว่า : “นักพรตเต๋าน้อย คุณพูดถึงอะไร? ”
“อะไรคือหัตถ์ผีของราชาฉิน โลกนี้ไม่มีใครเทียบได้ ”
นักพรตเต๋าน้อยยิ้มและพูดว่า : “เมื่อสักครู่นี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งถามอาจารย์พวกเราอย่างขมขื่นว่า ที่นี่มีมังกรไหม ”
“รู้จักหัตถ์ผีของราชาฉินที่ไม่มีใครเทียบได้ในโลกนี้ไหม พูดแบบนี้ ไม่ตลกหรือไง? ”
“ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง คุณยังจำได้ไหม ? ”
“จำได้ เธอน่าจะเป็นคนของครอบครัวใหญ่ มีการป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวด ปิดปาก ใส่แว่นกันแด และสวมหมวก ”
หวางอิงชุนอดไม่ได้ที่จะพูดว่า : “นั่นไม่ใช่หลิวหรูยู่หรือ? คิดไม่ถึงว่าเธอก็เชื่อโชคลางขนาดนี้ ”
“เธอคงป่วยแน่นอน และมาที่นี่เพื่อขอการรักษา ”
“นี่คือข่าวใหญ่ ฉันรีบรายงานออกไป เพื่อระงับความเย่อหยิ่งของเธอ ! ”
ดวงตาของฉินเทียนแข็งกร้าว พูดว่า : “ถ้าคุณกล้าเปิดเผยข่าวนี้ ฉันจะฆ่าคุณ ”
“คุณพูดว่าอะไรนะ? ” หวางอิงชุนตกตะลึงไปสักครู่ เห็นแววตาของฉินเทียน เธอรู้สึกหวาดกลัวในทันที
เธอนึกไม่ถึงว่า ผู้ชายที่ดูดีและหล่อเหลาขนาดนี้ จะมีแววตาที่น่ากลัวแบบนี้
เธอปล่อยมือที่จับแขนของฉินเทียนโดยไม่รู้ตัว
“เวลาไม่คอยท่าแล้วล่ะ กลับกันเถอะ ” ฉินเทียนสูดหายใจอย่างเย็นชา รู้สึกว่าเรื่องตลกน่าจะจบลง เดินก้าวยาวออกไปข้างนอก
หลิวหรูยู่โทรมาบอกเขาก่อนหน้านี้ว่า เธอกำลังจะไปเมืองหลวง เพื่อฉลองวันเกิดของบุคคลที่มีความสำคัญต่อเธอมาก และนัดเจอเขา
ทำไม เธอถึงมาที่เสินหลงกวานด้วยตัวเอง หาอะไรเทพมังกร หัตถ์ผีของราชาฉิน
หัตถ์ผีของราชาฉิน ที่พูดถึง ไม่ใช่ตัวเขาเองหรือ?
ความสงสัยต่างๆนาๆ ฉินเทียนไม่สนใจที่จะตรวจสอบสักครู่
เพราะว่า งานเลี้ยงรับรองคืนนี้ สำหรับเขาแล้ว สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
กลับถึงโรงแรมอย่างเร่งรีบ ซูซูรีบถามว่า “ เป็นอย่างไรบ้าง? คุณไม่ได้ทำให้พี่ชุนขุ่นเคืองใจใช่ไหม? ”
ฉินเทียนเห็นว่าซูซูได้เปลี่ยนเป็นชุดราตรีแล้ว ผมก็ถูกรวบขึ้นสูง ซึ่งดูมีเสน่ห์ เกินกว่าจะหักห้ามใจได้
เขาร่าเริงยินดี แต่จงใจพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึง: “ยังมีหน้ามาถามอีก ! ”
“ต่อไปเรื่องแบบนี้ อย่าได้มาหาฉันอีก คุณรู้ไหมว่าฉันมีเธออยู่ในใจเท่านั้น ”
“คุณให้ฉันไปกับคนโรคประสาทจริงๆ ”
ซูซูยิ้มแล้วพูดว่า : “ เอาล่ะ เอาล่ะ เข้าใจแล้ว นี่ไม่ใช่เป็นเพราะว่าสถานการณ์โดยรวมต้องการหรือ ”
“ฉันขอบคุณนะ พอใจไหม ?”
ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า : “ขอบคุณทำไม ? ”
“รางวัลที่คุณสัญญาไว้กับฉัน ควรได้รับตอนนี้แล้วนะ ”
ซูซูหน้าแดงเล็กน้อย พูดว่า : “ รางวัลอะไร ฉันจำไม่ได้แล้ว ”
ฉินเทียนกัดฟันพูดว่า : “ ถ้าคุณกล้าโกง ฉันจะทำลายงานเลี้ยงรับรองนี้ทันที ”
“คุณกล้าหรือ ! ” ซูซูกัดฟันพูด : “ คุณต้องการอะไร ?”
ฉินเทียนกลืนน้ำลายลงคอ พูดว่า : “ให้ฉันจูบ ”
เมื่อมองไปที่ภรรยาที่สวยและมีเสน่ห์ที่อยู่ตรงหน้าเขา เขารู้สึกว่า ได้จูบสักครั้ง เขารู้สึกว่าความเจ็บปวดจากการถูกทรมานโดยหวางอิงชุนในบ่ายวันนี้นั้น ก็คุ้มค่าแล้ว
ซูซูหน้าแดงพูดว่า : “เร็วเข้า งานเลี้ยงรับรองกำลังจะเริ่มแล้ว ”
ฉินเทียนสงบอารมณ์ลง บรรจงจูบอย่างช้าๆ
ซูซูเอนตัวไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว
ฉินเทียนเข้าใกล้อย่างช้าๆ
ในเวลานี้ ประตูถูกผลักออก หลิวชิงพุ่งเข้ามาอย่างรีบรีบร้อนร้อน : “ ประธารกรรมการ คุณพร้อมหรือยัง ? ได้เวลาเริ่มงานแล้ว ”
เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เธอก็ตกตะลึง
“ขออภัย ฉันไม่เห็นอะไรเลยนะ พวกคุณต่อกันเถอะ ” พูดจบก็หันหลังเดินออกไป