ฉินเทียนยิ้มอย่างเย็นชา ในแววตาเต็มไปด้วยแววตาของการดูถูก
“นายมีสิทธิอะไร?”
“ในเมื่อนายพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็จะให้โอกาสนายหนึ่งครั้ง หายไปจากข้างหน้าฉันในตอนนี้ ฉันจะทำเหมือนว่านายไม่เคยมา”
“นายพูดว่าไงนะ?” ฉีจิ่นชุนสีหน้าเปลี่ยน
“เหล่าฉี พูดเพ้อเจ้อกับเขาทำไมเยอะเยอะ!”
เขายิ้มอย่างเยือกเย็น : “ไอ้เด็กเวร นายเป็นปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูงแล้วยังไง? พวกเรา 5 เซี่ยนแห่งที่ราบภาคกลาง ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยฆ่าปรมาจารย์”
“จะบอกให้นายนะ ผู้ชายเหล่านั้นเก่งกว่านายมาก!”
คนอื่นอีก 3 คน ก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมา
ในสายตาของพวกเขา ถึงแม้ว่าฉินเทียนสามารถปล่อยกำลังภายในข้างนอกได้ ไม่ถึงขั้นปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูง แต่ก็น่าจะเพิ่งเข้ามาเรียนรู้
ถึงแม้ว่า จะปล่อยเรื่องอายุไว้เท่านี้
“ใช่ไหม?”ฉินเทียนยิ้มเยือกเย็น ปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูงเก่งมากเลยเหรอ? เขาไม่เคยคิดอย่างนั้นมาก่อน
เขาไม่รู้ว่าตัวเองจัดอยู่ในระดับไหนกันแน่ แต่รู้ว่าปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูงทั้ง 10 คน ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
แต่เห็นเครื่องกาย ในมือถืออาวุธที่แตกต่างกันของทั้ง 5 คนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว และประโยคที่พวกเขาพูดเมื่อกี้นี้ ในใจของฉินเทียนสั่นไหวทำให้เขานึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาทันที
“3 ปีที่แล้ว นักมวยเก่าของเหอเป่ย ท่านผู้อาวุโสจงเต๋อตายอย่างน่าเวทนาในตอนดึก ณ หลุมฝังศพหมู่ที่ชานเมือง”
ท่านผู้อาวุโสจงมีจิตใจที่พิเศษ และมีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง เรียนวิชาบู๊อยู่ที่เหอเป่ย เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่น่าเคารพ คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกฆ่าอย่างทรมาน
“เรื่องนี้ก่อให้เกิดความฮือฮาพอสมควร มีช่วงหนึ่ง เด็กผู้ชายเหอเป่ย สีขาวป้ายหน้าผาก เอวห้อยกระบี่ยาว เอ่ยคำสาบานว่าจะตามหาฆาตกร เพื่อล้างแค้นให้นักมวยเก่า”
“แต่นอกจากบาดแผลตามร่างกายของนักมวยเก่า ก็รู้ได้ว่าฆาตกรไม่ใช่ 5 คนนี้ อย่างอื่นก็มืดแปดด้าน ไม่นานเรื่องก็จบโดบไม่มีบทสรุป”
“ตามที่ฉันรู้มา ท่านอาวุโสจงเต๋อฝึกพลังวิชามาทั้งชีวิต เรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ เขาไม่น่าจะใช่คนที่พวกนายฆ่าหรอกนะ? ”
ได้ฟังที่ฉินเทียนพูดแล้ว สายตาทั้ง 5 คนล้วนแสดงออกถึงแววตาลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉีจิ่นชุน
ฉินเทียนจับสังเกตได้จากจุดนี้ สายตาของเขา สัมผัสได้ถึงความอาฆาตในทันควัน
เพราะว่า จงเต๋อนักมวยเก่ามีจิตใจที่อบอุ่นอย่างมาก พี่น้องวิชาบู๊ด้วยกันที่รับเข้ามาในตระกูล แต่ไหนแต่ไรมาล้วนไม่เคยตัดความสัมพันธ์
หนึ่งในนั้น เถ้าแก่ใหญ่ของวิหารพญายม ก็คือท่านอาจารย์ของฉินเทียน เป็นหนึ่งในแขกรับเชิญ
เถ้าแก่ใหญ่รู้ว่าฐานะของตัวเองไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นจึงรักษาระยะห่างกับจงเต๋ออย่างจงใจ จะได้ไม่นำความหายนะไปสู่อีกฝ่าย
แต่สำหรับลักษณะนิสัยและวิชาบู๊ของจงเต๋อ เถ้าแก่ใหญ่ยกย่องสรรเสริญเป็นอย่างมาก
นักมวยเก่าตายอย่างน่าอนาถ ในตอนนั้นเถ้าแก่ใหญ่ที่อยู่ในคุก หลังจากได้ยินเรื่อง ก็รีบส่งฉินเทียนไปตรวจสอบทันที
จากการตรวจสอบของฉินเทียน จากคำบอกเล่าของคนในครอบครัวจงเต๋อ นักมวยเก่าได้รับจดหมายมาหนึ่งฉบับ ออกไปด้วยความดีอกดีใจ
บอกว่าจะไปต้อนรับเพื่อน สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่ปกติ ดังนั้นคนในครอบครัวและลูกศิษย์ทั้งหลายก็ไม่ได้เฉลียวใจ
มีอย่างเดียวที่แปลกก็คือ ในครั้งนั้นเขาถือหยกหยินหยางเป็นอัญมณีที่มีค่าและที่เรียกว่าเครื่องรางไปด้วยชิ้นหนึ่ง
ไม่คิดเลยว่ากลับตายอย่างอนาถที่หลุมฝั่งศพหมู่ หยกหยินหยางชิ้นนั้นก็อันตรธานหายไป
ดังนั้นฉินเทียนสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นคนที่รู้จักที่ทำการโจรกรรม เพื่อนที่นัดนักมวยเก่าไปพบก็คือฆาตกร
จุดประสงค์ ก็เพื่อที่จะได้รับหยกหยินหยางชิ้นนั้น
แต่หลายปีผ่านมา ก็ไม่มีเบาะแสอื่นมาโดยตลอด จริงๆแล้วเพื่อนในช่วงชีวิตของจงเต๋อมากเกินไป
แม้กระทั่งเพื่อนบางคน คนในครอบครัวก็ยังไม่รู้จัก
ในเรื่องนี้เถ้าแก่ใหญ่เกิดความพะวงในใจอยู่ตลอดเวลา เขาสงสัยว่าข้อมูลส่วนตัวของเขารั่วไหล ที่นำหายนะมาสู่จงเต๋อ
ฉินเทียนก็โทษตัวเอง สาบานว่าจะต้องหาฆาตกรให้เจออย่างแน่นอน เพื่อล้างแค้นให้กับจงเต๋อ ทำให้อาจารย์สบายใจ
ตอนนี้ เขาดูเหมือนรู้แล้วว่าใครเป็น ฆาตกร แล้ว
“นายพูดเพ้อเจ้ออะไร!”
“อันที่จริงพวกเราได้เจอกับนักมวยเก่าไม่กี่ครั้ง ความกรุณาของเขาไม่เคยลืม เป็นไมตรีอันดีงาม พวกเราจะฆ่าเนรคุณต่อผู้มีพระคุณได้ยังไง”
ฉีจิ่นชุนหลีกเลี่ยงการสบตาดูเหมือนคนที่ได้กระทำความผิดบางอย่างมา
ฉินเทียนยังยังต้องการพูดอะไรต่อ หนวดเคราที่อยู่ข้างๆหัวเราะลั่น เอ่ย : “ท่านฉี กลัวอะไร!”
“ยังไงไอ้เด็กเวรนี้ก็จะเป็นคนที่ตายแล้ว ยังจะทำให้ความลับของเรารั่วไหลได้อีกเหรอ?”
“ถูกต้อง!”
“พวกเราเป็นคนฆ่าจงเต๋อเอง!”
“จะโทษก็โทษที่เขาชอบอวดรวย วันนั้นที่มาต้อนรับเรา หลังจากเดิมเหล้าก็หยิบหยกหยินหยางขึ้นมาหนึ่งก้อน”
“ในหยกหยินหยานั้น บรรจุความแข็งแกร่งของรุ่นพี่ยอดฝีมือที่ทิ้งไว้ให้ เป็นเครื่องรางที่ไม่เลวเลยทีเดียว”
“พวกเราเพื่อที่จะได้เครื่องรางนั้นมา นัดเขาออกมากลางดึก ร่วมมือกันฆ่าเขา!”
ผู้ข้างๆที่มีรูปร่างเตี้ยคนหนึ่ง พูดอย่างเยาะเย้ยถากถาง : “จริงๆแล้วจงเต๋อเดิมทีไม่จำเป็นต้องตาย พวกเราพี่น้องพูดขอยืมหยกก้อนนั้นมาเล่นสักหน่อยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ดี”
“เอามาอีกปีครึ่งก็จะคืนเขา ใครจะไปรู้ว่าเขาจะขี้เหนียวไม่ยอมให้”
“โธ่ คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยกไง”
ชายแก่อ้วนขาวอีกคนหนึ่งยิ้ม : “จงเต๋อถึงจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังไม่ง่ายที่จะรับมือจริงๆ เป็นปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูงที่แท้จริง”
“พวกเราทั้ง 5 คนก็ทุ่มพลังกังฟูอย่างมาก ถึงจะฆ่าเขาได้”
หนึ่งใน 5 คน มีหญิงชราใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยคนหนึ่งที่ไม่ปริปากพูดมาโดยตลอดถอนหายใจ :
“แค่เสียดาย หยกหยินหยางก้อนนั้นถึงจะดีเท่าไรก็ตาม ก็ถูกพวกคุณที่โง่เง่าเหล่านี้ได้ทำแตกแล้ว”
“ไม่อย่างนั้น ไม่แน่ว่าหญิงชราอย่างฉันก็จะสามารถวิจัยวิธีการผลิตเครื่องรางออกมาได้นานแล้ว”
พวกเขาพูดเล่นพูดหัวตามใจชอบ เหมือนว่าสำหรับพฤติกรรมต่ำทรามจากการเนรคุณนั้น ไม่เคยเก็บเอามาใส่ใจ
ในสายตาของฉินเทียนแสดงถึงความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เดิมทีก่อนที่ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นฆาตกร ฉินเทียนยังไม่อยากทำเกินไป
ถ้าทำได้ก็จะไว้ชีวิตพวกเขาสักหนึ่งชีวิต
แต่ตอนนี้ ไม่จำเป็นแล้ว!
คนแบบนี้ เป็นได้แค่คนต่ำช้าเลวทราม!
“ทั้ง 5 ท่าน อย่าได้ชักช้า!”
“รีบฆ่าแซ่ฉินเถอะ พวกคุณอยากได้เครื่องรางอะไร ผมชื่อให้!”
“รวมถึงสิ่งที่ใช้ในการผลิตเครื่องรางทั้งหมด ผมจัดให้อย่างไม่มีเงื่อนไข!”ด้านหลังจอ พานหลงตะโกนอย่างใจร้อนออกมา
หลังได้ยินคำพูดเขา รวมถึงฉีจิ่นชุนที่อยู่ตรงนั้น สายตาที่สัมผัสได้ถึงความโลภ
สุดท้ายแล้วก็ต้องวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตเครื่องราง ทั้งหมดล้วนมีราคาสูงเสียดฟ้า
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไอ้เด็กเลวฉิน ดูท่าแล้วนายจะมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้แล้ว”ไม้เท้าในมือของหญิงชราหยุดสักพัก แล้วก้าวถอยไปหนึ่งก้าว
คนอื่นๆอีก 4 คน ยังให้ร่วมมือเหมือนรู้ใจกันอย่างมาก ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวพร้อมกัน
พวกเขาสมแล้วที่เป็นยอดฝีมือ กระตุ้นลมหายใจจากข้างในร่างกาย แรงบีบที่ไม่มีรูปแบบอย่างหนึ่ง หมุนตรงไปทางฉินเทียน
ฉินเทียนยิ้มอย่างเยือกเย็น เขายกดาบยาวที่อยู่ในมืออย่างช้าๆ วางราบตรงที่หน้าอก หลังจากนั้นใช้มือข้างหนึ่งจับปลายมีด แล้วค่อยๆดันออกไปข้างนอก
เสียงฉัวะดังขึ้น ดาบยาวตัดออกเป็น 5 ชิ้น
มีดบินห้าด้าม กระจายออกในอากาศ เหมือนดั่งดาวตกในค่ำคืนที่หนาวเย็น ยิงไปยังทั้งห้าคนพร้อมกัน
“ไอ๊หยา!”
ทั้ง 5 คนตกตะลึง รีบยกอาวุธในมือขึ้นมากวัดแกว่งเพื่อต่อต้าน
สมแล้วที่เป็นยอดฝีมือที่ตระกูลพานเชิญมาเครื่องเซ่น คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดจะหลบออกไปได้
หญิงชราที่ผมขาวผิวหนังเหี่ยวย่นคนนั้นแค่หมุนตัวก็ใช้ไม้เท้าในมือปล่อยเข็มพิษออกไปใส่ฉินเทียน
มือนี้มีจิตใจที่ชั่วร้ายและร้ายกาจมาก!
ฉินเทียนไม่ถอยแต่กลับพุ่งเข้าไป ใช้กระบวนท่าชี่เฉินตันเถียน วาดฝ่ามืออย่างรวดเร็ว เรียกกำลังภายในขึ้นมา
หญิงชรา รวามทั้งคนอื่นๆอีก 4 คนที่อยู่ตรงนั้น ล้วนคิดไม่ถึงว่า ฉินเทียนมีกำลังภายในที่ไหลพล่านเช่นนี้
เข็มพิษเหล่านั้นตีย้อนกลับไป ไม่เหลือสักเข็มเดียว ทั้งหมดปักเข้าที่บนหน้าของหญิงชรา
สองเข็มในนั้นเจาะตรงเข้าไปในลูกตาเธอ
“อ่า!”
“ฉีจิ่นชุน รีบมาช่วยฉันที!”
“เร็ว ยาแก้พิษอยู่ในเสื้อของฉัน!”หญิงชราที่ตาบอด เหมือนกับผู้หญิงที่มีนิสัยดุร้ายยังไงอย่างนั้น แยกเขี้ยวยิงฟัน เรียกด้วยความหวาดกลัว
เธอต้องการให้ฉีจิ่นชุนช่วย แต่กลับชนเข้าเข้ากับด้านหน้าของฉินเทียน
ฉินเทียนตบเข้าไปตรงกลางกะโหลกศีรษะของเธอตรงๆหนึ่งที