บัญชามังกรเดือด บทที่ 265 พี่เทียนของฉันทำได้อยู่แล้ว
ใบหน้าของเจิ้งจี๋กระตุก เขากัดฟันแล้วพูดว่า:“พี่กุ่ย ถ้าพี่จัดการฉินเทียนได้ ผมจะยกเมียให้พี่”
“คนเลว!”
“ใครเป็นเมียของนาย!”
“เจิ้งจี๋ นายนี่มันไม่มีความเป็นคนเลย!”กงลี่อดที่จะหน้าแดงไม่ได้ ด่าทอด้วยความโกรธ
เจิ้งจี๋รู้สึกว่าตัวเองเลวนิดหน่อย หน้าแดงแต่ไม่ได้พูดอะไร
เขาคิดหาวิธีชั่วคราว โดยการยืมมือของฉินเทียนจัดการเหล่ากุ่ย
จากนั้น พอกวนซานเย๋มา ก็ค่อยจัดการฉินเทียนอีกที
ส่วนเขาเจิ้งจี๋ ไม่เพียงแค่ได้เมียของเขากลับมา หลังจากนี้ยังไม่ต้องมีหนี้อีกด้วย
กลายเป็นผู้ชนะ!
เหล่ากุ่ยเองก็ไม่ได้โง่
มีดยาวในมือของฉินเทียน พ่อลูกตระกูลฉีที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้า
แถมยังมีคนบาดเจ็บมากมายขนาดนั้น รวมถึงคนในสูทชุดดำด้วย หรือว่า ทั้งหมดถูกตีเพราะฉินเทียน?
หากว่าเป็นเรื่องจริงล่ะก็ เหล่ากุ่ยอย่างเขามีสมองแปดคน ก็จัดการฉินเทียนไม่ได้
เมื่อเห็นเหล่ากุ่ยลังเล เจิ้งจี๋กัดฟันแล้วพูดว่า:“พี่กุ่ยอย่ากลัว!”
“เจ้าหมอนี่เมื่อครู่ปะทะกับพวกเราไป จึงบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย!”
“ตอนนี้พวกเราลุกไม่ขึ้น เขาเองก็ขยับไม่ได้”
“เพียงแค่พี่ลงมือ รับรองจัดการเขาได้แน่นอน!”
“พี่กุ่ยจัดการเร็วเข้า!”
“พี่ฆ่าฉินเทียน ผมจะให้เมียแก่พี่”
“และเมื่อพี่ได้ช่วยพ่อลูกตระกูลฉี พวกเขาต้องตบรางวัลอย่างงามแน่ แล้วต้องเลื่อนขั้นให้พี่แน่!”
“พี่ก็จะเป็นวีรบุรุษเมืองเจิ้งของพวกเรา!”
“จริงเหรอ?”เหล่ากุ่ยหัวใจเต้นแรง
ในความเป็นจริงแล้ว ความยั่วยวนในสายตา มันแรงมาก!
เขากัดฟัน แล้วพูดเสียงดังว่า:“เหมินสัน โอกาสได้แสดงฝีมือมาถึงแล้ว!”
“จัดการ!”
เหมินสันเป็นเสมือนขุนพลมือหนึ่งของเหล่ากุ่ย พื้นที่ของเหล่ากุ่ยตอนนี้ ก็เป็นเหมินสันจัดการมาได้
แต่เจ้าหมอนี่สมองไม่ค่อยดีนัก แต่ว่า จงรักภักดีกับเหล่ากุ่ยมาก
เชื่อฟังเหล่ากุ่ย เขาเป็นคนไม่คิดอะไรมาก
เขาอุ้มคานหลังคาอันโตที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นไปทุบฉินเทียน
คานหลังคาอันโตหนักหลายสิบกิโล ยาวหลายเมตร เมื่อเทียบกับมีดม้งในมือของฉินเทียน ที่ไม่มีทางสู้ได้แน่
ขณะนั้นเอง ด้านนอกก็มีเสียงรถดังมา เสียงคนดังอึกทึก
ไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าไหร่ ที่สวมชุดผ้าร่มสีดำ สีหน้าเคร่งขรึม เต็มไปที่จะสังหารคน!
“ซานเย๋!”
“ซานเย๋มาแล้ว!”
ส่วนคนตระกูลเจิ้ง ก็ตะโกนด้วยความกระตือรือร้น
การปรากฏของซานเย๋ แน่นอนว่าไม่ธรรมดา ทั้งบรรยากาศและสถานที่ตอนนั้น ทุกคนที่เห็น ต่างก็ตกใจจนไม่อยู่กับร่องกับรอย
“ไหนมังกรเก่งข้ามแม่น้ำ ต้องถามความเห็นฉันกวนซานก่อนว่าเห็นด้วยไหม!”
เมื่อซานเย๋พูด ราวกับสายฟ้าฟาด
เมื่อเห็นเหมินสันที่อึ้งอยู่ เหล่ากุ่ยก็พุดอย่างกระตือรือร้นว่า:“นายมัวแต่รออะไรอยู่?”
“โอกาสได้แสดงฝีมือมาถึงแล้ว!”
“เร็ว ให้ซานเย๋ดูพลังการต่อสู้ของนายหน่อย!”
เหมินสันที่ได้สติ ก็ร้องเสียงดัง จากนั้นจับคานหลังคาอันโต เสียงดังฮู้ว พุ่งไปจะกระแทกฉินเทียนให้ตาย
“ระวัง!”ทั้งซูซูและกงลี่ร้องด้วยความตกใจ
ฉินเทียนที่นั่งเฉยๆ สะบัดมีดม้งในมือเบาๆ จากนั้นก็เปลี่ยนทิศทางของคานหลังคา
เหมินสันที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายที่ใหญ่โต ก็พุ่งเข้ามาที่ด้านหน้าของฉินเทียน
ฉินเทียนยกขา จากนั้นก็เหยียบที่หน้าท้องของเขา
เสียงดัง“อ๊ะ”ร่างกายที่หนักกว่าร้อยกว่าโล ราวกับหมูตัวใหญ่หนึ่งตัว กระเด็นขึ้นมา
กวนซานเย๋ที่สวมชุดผ้าร่ม พาคนมีความมาสามารถมา จากนั้นพุ่งเข้าไปที่ประตูใหญ่
“ใครกัน?”กวนซานเย๋ตกใจมาก จากนั้นถอยหลังและยื่นมือไปกุมอาวุธ
ด้านหลัง ลูกน้องที่ดุราวกับเสือหมาป่ากลุ่มหนึ่ง ก็คำรามด้วยความโกรธ จากนั้นล้อมฉินเทียนเอาไว้
สายตาของคนพวกนี้เผยถึงความดุร้าย นั่นคือขุนพลอย่างแท้จริง เมื่อเทียบกับทีมเสือดำของตระกูลฉีแล้ว ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งมากกว่ากี่เท่า
เพียงแค่ คนบางคนในกลุ่มพวกเขา เมื่อได้เห็นรูปร่างของฉินเทียนอย่างชัดเจน จู่ๆ สีหน้าก็ดูแปลกประหลาด
“ซานเย๋ต้องแก้แค้นให้พวกเรา!”
“ผมชื่อเหล่ากุ่ย ได้ยินว่ามีคนมาท้าทายเมืองเจิ้ง ผมโกรธมาก จึงพาพี่น้องมาช่วย!”
“คิดไม่ถึงว่า เจ้าหมอนี่ลงมือก็ทำร้ายคนของผม!”
เมื่อเหล่ากุ่ยได้สติ ก็รีบคุกเข่าลงที่พื้น ขอร้องเสียงดัง
“ซานเย๋ต้องแก้แค้นให้พวกเรา!”ส่วนคนอื่นๆ ก็เสียงดังตามๆ กัน
เมื่อเห็นฉินเทียนเก็บมีด พ่อลูกตระกูลฉีก็อาศัยจังหวะนี้หนีออกไป
พวกเขากระโจนไปที่หน้าของกวนซานเย๋ กัดฟันแล้วพูดว่า:“ซานเย๋ ส่งให้คุณจัดการ!”
“หลังจากที่เรื่องสำเร็จ พวกเราจะของคุณอย่างงาม!”
กวนซานเย๋ก็เกิดโทสะจนหัวร้อน จากนั้นเขากัดฟันพูดว่า:“แม่งเอ๊ย พวกนายถอยไป ฉันจัดการเอง!”
“ฉันจะดูหน่อย จะมีความสามารถแค่ไหน กล้ามาหาเรื่องถึงเมืองเจิ้งได้!”
เขาชักดาบปลายปืนออกมา ดวงตาแดงก่ำสาวเท้ายาวๆ เข้าไป
ลูกน้องที่ล้อมฉินเทียนเอาไว้ เชื่อฟังมาก จากนั้นหลบออกเป็นเส้นทางอัตโนมัติ
แต่ละคน ราวกับกินระเบิดเข้าไป แต่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ซานเย๋สู้ๆ!”
“ซานเย๋ผู้เก่งกาจ!”
เมื่อเห็นอำนาจของกวนซานเย๋ ฉีเหรินนำทีมเสียงร้อง จากนั้นคนอื่นๆ ก็ร้องตาม
เห็นแค่เพียงกวนซานเย๋กุมดาบปลายปืน หลังจากนั้นเห็นแสงสว่างวาบมาจากมือ ส่วนฉินเทียนนั้นก็ยิ้มตาหยีนั่งไขว้ขาบนเก้าอี้
เขาสะดุ้งอย่างรุนแรง
ใบหน้านั้น จู่ๆ ก็แดง
ซานเย๋โกรธแล้ว!
วันนี้ฉินเทียนต้องตายอย่างคนไร้สุสานแน่!
เมื่อเห็นท่าทางของเขา ซูซูและกงลี่ก็ตกใจจนหน้าซีด เพราะว่ากวนซานเย๋ เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ดูดุร้ายกว่าเป็นไหนๆ
เมื่อเห็นกวนซานเย๋มาที่ด้านหน้า ฉินเทียนยังหัวเราะไม่ขยับอะไร มีดม้งในมือก็เก็บขึ้น
ตกใจจนเอ๋อไปเลยดิ?
ทุกคนต่างรอดูฉินเทียนถูกแทงจนตาย
เมื่อเห็นกวนซานเย๋ขาอ่อน จากนั้นก็คุกเข่าดังตุ้บที่ด้านหน้า
เขาพูดอย่างดื้นรั้นว่า:“ใครบอกว่ามังกรแกร่งข้ามแม่น้ำไม่ได้?”
“คนอื่นอาจจะไม่ได้ แต่ว่าพี่เทียนของฉันทำได้!”
“พี่เทียน น้องเล็กมาช้าไป ไม่ได้ทำให้พี่ตกใจใช่ไหม?”
เกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนตอนนั้นราวกับเห็นผี ตกใจเบิกตากว้าง
ฉินเทียนหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า:“นายคุมเมืองเจิ้งเหรอ?”
กวนซานรีบพูด:“คุณหูวางแผนให้ผมอยู่ที่นี่”
ฉินเทียนพยักหน้า ลูกน้องของอานกั๋ว ราชาบู๊หูปิน มีลูกน้องแปดบิ๊กคิงคอง
ความวุ่นวายในเมืองเมื่อก่อน ฉินเทียนพอจำได้บ้าง จนกระทั่ง เขากลับมาจากเจียงเป่ย จากการฉลองในครอบครัว
เจ้าหมอนี่ ลากให้เขาดื่มเหล้าเยอะมาก
ดื่มเหล้าเก่งมาก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หน้าของฉินเทียนก็ขรึม:“กวนซาน รู้โทษของนายไหม?”
กวนซานพูดด้วยความกลัวว่า:“พี่เทียนโปรดลงโทษ!”
ฉินเทียนไม่ได้พูดด้วยความโกรธ:“ลุกขึ้นเถอะ!”
“ฉันขอเตือนนาย ถ้ามามอมเหล้าฉันเหมือนครั้งที่แล้ว ฉันจะทำให้นายฉี่ราดออกมา!”
กวนซานอึ้งแล้วแสยะยิ้ม
หันหลังไป มองทั้งห้องด้วยความโกรธ เขาเหมือนกับปีศาจที่แลบลิ้นแพล๊บๆ ราวกับปีศาจที่อยากจะเขมือบ หัวเราะอย่างชั่วร้ายแล้วพูดว่า:
“ทำให้พี่เทียนของฉันโกรธ พวกนายทุกคน มารับความตายกับฉัน”
นี่มัน……
พ่อลูกตระกูล สมองงงราวกับเมฆที่ม้วนตัว
ที่มาตีหัวของพวกเขา คิดไม่ถึงว่า ผู้ที่เท่ห์ มีอำนาจดั่งเช่นกวนซานเย๋ เมื่อเห็นฉินเทียน จู่ๆ ก็กลายเป็นเด็กประถมไปซะงั้น!
เมื่อได้สติมา พวกเขาก็รู้ว่าควรทำยังไง จากนั้นคุกเข่าดังตุ้บ
“ซานเย๋ไว้ชีวิตด้วย!”
“พี่เทียนไว้ชีวิตด้วย!”