บัญชามังกรเดือด บทที่ 277 พูดอะไรสักหน่อย
“พี่เทียนจะขึ้นเวทีหรือ?”
“ขอเสียงต้อนรับพี่เทียน!”
“ยินดีต้อนรับพี่เทียน!”
ได้ยินคำพูดของเฉียงหลงแล้ว ด้านล่างเวทีก็เกิดความโกลาหลขึ้น
แม้ว่าคนพวกนี้ไม่เคยเจอฉินเทียนมาก่อน และก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาเป็นใคร
แต่ในค่ำคืนนี้ พี่เทียนเป็นเจ้ามือหน่ะสิ!
เถ้าแก่ของหลับมังกรทอง เฉียงหลงพี่ใหญ่ของหลงเจียงออกมาต้อนรับด้วยตัวเองอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่า พี่เทียนคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
พวกเขาส่งเสียงร้องดังขึ้น
เฉียงหลงหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น เพราะสำหรับเขาแล้ว บุคคลคนนี้เป็นคนที่สำคัญในชีวิตของเขามากที่สุด
ครั้งหนึ่ง เขาเคยเป็นแค่หัวโจกตัวเล็กๆ คนหนึ่งของฉีลิ่วผู้นำคนเก่าของหลงเจียง
และเพื่อเป็นการร่วมมือกับการแสดงของเซวเหริน เขายังพาคนไปตระกูลซูเพื่อทวงหนี้ ทั้งยังวางมาดใหญ่โตเพื่อตบตาคนอื่น
ฉีลิ่ว เป็นคนของตระกูลเซว
ต่อมา เพื่อช่วยตระกูลเซวรับมือกับฉินเทียน เฉียงหลงก็อาสาที่จะพาคนไปบุกตะลุยโจมตีคู่อริด้วยตัวเอง
ใครจะไปคิดว่า ฉีลิ่วไม่เคยเชื่อใจเขามาก่อนเลย เพื่อป้องกันไม่ให้เขาแย่งชิงตำแหน่ง เลยจำเป็นต้องยืมมือของฉินเทียน ทำลายเขานั้นเอง
จนกระทั่งฉินเทียนได้ให้ชีวิตใหม่กับเขา
ให้เขาแทนที่ฉีลิ่ว ดำรงตำแหน่งราชาในพื้นที่ของหลงเจียง
ไม่เพียงเท่านี้ ตัวตนอันลึกลับของฉินเทียน ประกอบกับกำลังอันมหาศาลของเขา ทำให้หลงเจียงตระหนักได้ว่า เขาไม่ใช่แค่อันธพาลกระจอกๆ แค่นั้น
แต่เป็นการติดตามเจ้านายที่ชาญฉลาด ประกอบกิจการที่ใหญ่โตรุ่งเรืองอีกด้วย!
แต่ เมื่อเทียบกับเหลยเป้า เหลิ่งเฟิง หรือแม้แต่ฉินเจี้ยนแล้ว เฉียงหลงยังด้อยกว่ามากนัก
เขาไม่ได้ได้รับโอกาสให้จัดการภารกิจอันสำคัญๆ ของฉินเทียนเลย
ครั้งนี้ เขาต้องขอบคุณเจ้าของฉายาบนอินเทอร์เน็ตที่ว่า “ท็อฟฟี่นมกระต่ายขาว” ด้วย
เป็นเพราะหล่อนเล่นตลกด้วยการประกาศล่าเงินรางวัล เลยทำให้เฉียงหลงได้รับโอกาสแสดงฝีมือ
แม้ว่าฉินเทียนจะไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจของเขามาก่อน แต่ในความคิดของเขา คลับมังกรทองนี้ เขาเพียงแค่มาช่วยดูแลจัดการแทนฉินเทียนเท่านั้น
ตอนนี้ถึงเวลาส่งกระดาษคำตอบอันน่าพอใจแล้ว
“ทุกท่านครับ โปรดเงียบและฟังผม!”
เฉียงหลงพูดอย่างริงจังว่า “อีกสักครู่พี่เทียนจะปรากฏตัวบนเวทีแห่งนี้”
“ค่าใช้จ่ายในวันนี้ทั้งหมด พี่เทียนจะเป็นผู้ออกให้ทั้งหมดเลยครับ”
“ไม่เพียงแค่นั้น ก่อนที่จะเชิญพี่เทียนออกมา ผมขออะไรพูดสักสองประโยค”
เขาสูดหายใจลึกๆแววตาเริ่มแดงขึ้น
“ผมเฉียงหลง ชื่อเดิมหลิวหย่งเฉียง”
“ไม่ได้เรียนหนังสือไม่มีความรู้ ออกนอกลู่นอกทางมาตั้งแต่เด็ก”
“ผมโง่เขลาเบาปัญญา รบราฆ่าฟันมาเป็นเวลายาวนาน ตอนนั้นผมคิดว่า ช่างแมร่งเถอะชีวิตนี้”
“ดังนั้นก็เลยดูถูกตัวเอง ปล่อยให้ชีวิตตกต่ำไปเรื่อย!”
“จนกระทั่ง__”
“ผมได้เจอกับผู้มีพระคุณในชีวิตผมคนหนึ่ง”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ แววตาของเขา ก็มองไปที่ฉินเทียน
ฉินเทียนยิ้ม เขามองออกว่าเจ้าชายหยาบกร้านคนนี้ วันนี้คงซาบซึ้งใจจริงๆ
ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้คนต่างมีอารมณ์ร่วมไปกับคำพูดและอารมณ์ของเฉียงหลงด้วย
เกิดอะไรขึ้น?
สถานการณ์นี้คนที่มีพลังอย่างหาใครเปรียบได้อย่างพี่ใหญ่ของหลงเจียง กำลังเริ่มจะปั่นกระแสหรือ?
เจียงหง ตอบกลับมาด้วยความตื่นเต้นว่า “ผู้มีพระคุณคนนั้น คือพี่เทียนใช่ไหม?”
“ถูกต้อง!” เฉียงหลงเช็ดตาหนึ่งครั้งและพูดว่า “เขาก็คือพี่เทียน!”
“แม้ว่าฟังดูออกจะเหมือนเป็นการปั่นกระแส แต่เรื่องจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ”
“พี่เทียนเป็นมังกรเทพของสรวงสวรรค์ เหมือนกับแสงสว่าง ที่มาแยกแยะสมองอันสับสนของผม”
“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมถึงได้รู้ว่า ในอดีตตัวเองช่างสารเลวมาก”
“ผมมองเห็นแสงสว่างในชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ชีวิตเริ่มมีความหวัง ในทุกทุกวัน ล้วนผ่านไปอย่างมีความหมาย”
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมรู้ว่า หลายคนในที่นี้คิดว่าผมดูแลจัดการกลุ่มใต้ดินในหลงเจียง เป็นราชากลุ่มเถื่อน”
“ใช่ครับ การฆ่าฟันเล็กๆ น้อยๆ ข้อพิพาททางผลประโยชน์ อยู่ภายใต้การดูแลของผม”
“แต่พวกคุณรู้ไหมว่า ทั้งหมดนี้ผมแค่ดูแลจัดการแทนพี่เทียน!”
“พี่เทียน เป็นเจ้าพ่อที่แท้จริงของหลงเจียง!”
โห!
ฟังมาถึงตรงนี้ ทั้งฟลอร์ก็เงียบไปครู่หนึ่ง และก็โกลาหลกันขึ้น
พี่เทียน!
เจ้าพ่อแห่งหลงเจียง!
แม้แต่ราชาแห่งใต้ดินคนนี้ ล้วนแต่เป็นแค่ลูกน้อง!
งั้นมันจะมีศักดิ์ศรีอะไรเล่า!
พวกเขาบ้าไปแล้ว!
“ขอเรียนเชิญพี่เทียน!”
“เรียนเชิญพี่เทียนครับ!”
คนทั้งฟลอร์ เริ่มผิวปากต้อนรับ
บรรยากาศดำเนินมาถึงช่วงสำคัญที่สุด
เจียงหงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “นี้สิถึงจะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง!”
“ฉันแทบจะทนรอไม่ไหวแล้วสิ อยากเห็นพี่เทียนคนนี้จัง!”
พูดพลาง หล่อนก็หันไปยิ้มและคุยกับฉินเทียนว่า “เมื่อกี้คุณยังบอกว่าคุณคือพี่เทียนอยู่เลย ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหม?”
“คุณจะทำให้สวรรค์เคืองใจก็ได้นะ!”
ก่อนหน้านี้หล่อนยังรู้สึกว่า ฉินเทียนเป็นคนรูปหล่อสมาร์ตไม่เหมือนคนอื่น เลยคิดอยากจะตกเหยื่อสักหน่อย
ตอนนี้จู่จู่ก็รู้สึกว่าฉินเทียนเหมือนซี่โครงไก่ไปซะแล้ว
ชายผู้นี้ โดนโหวหยานข่มขู่ไปที ก็จะหนีออกไปซะแล้ว
ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรงเสียจริง
โหวหยานสูดหายใจลึกๆ หันไปพูดกับลูกน้องสองสามด้วยความตื่นเต้นว่า “พวกแกเตรียมตัวให้ดี!”
“อีกแป๊บพอพี่เทียนปรากฏตัว พวกเราต้องเป็นคนแรกที่เข้าไปทักทาย!”
“แค่จู่โจมเข้าไปเป็นคนแรก ถึงจะสร้างความประทับใจให้กับพี่เทียนได้!”
“oh my god นี้กูจะได้รู้จักเจ้าพ่อแห่งหลงเจียงแล้ว!”
เฉียงหลงลงจากเวที บรรดาผู้คนต่างแหวกทางเดินให้เขา ตาเขาเริ่มแดงก่ำ รีบเดินเข้ามาทันที
สายตาของผู้คน ก็มองตามเขาไปอย่างไม่รู้ตัว
“นี้มันเรื่องอะไรกัน?ทำไมพี่หลงเดินมาทางนี้หล่ะ?”
“หรือว่าตะกี้เขาเห็นพวกมึงแล้ว?ก้มหน้าเร็ว!” โหวหยานพูดกับลูกน้องกล้ามโตสองสามคนด้วยความหวาดระแวง
ลูกน้องเขาเองก็ตกใจกลัวจนตัวสั่นเทา เห็นข้างๆ มีโต๊ะอยู่ตัวหนึ่ง รีบมุดลงไปหลบอยู่ใต้โต๊ะนั้น
เจียงหงกระแอมหนึ่งที แม้ว่าเฉียงหลงจะหัวล้าน ไม่หล่อแม้แต่นิด แต่นี้คือพี่ใหญ่เลยนะ
ในสายตาของหล่อน นี้สิถึงจะเป็นเสน่ห์ที่ผู้ชายพึงมี
หล่อนพูดอย่างหายๆ ว่า “พี่หลง เป็นไปได้ไหม ให้ฉันไปต้อนรับพี่เทียนเป็นเพื่อนคุณ?”
พูดพลาง หล่อนก็อดไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นยืน
เวลานี้ หน้าตาสดใสดูมีราศี
หล่อนรู้สึกว่า ด้วยรูปร่างและเสน่ห์ของหล่อน สามารถรับบทบาทหน้าที่อันสำคัญนี้ได้
เฉียงหลงสีหน้าเคร่งขรึม จู่ๆ ก็คุกเข่าลงและพูดว่า “พี่เทียน ขอเชิญพี่ขึ้นเวทีพูดอะไรสักหน่อยเถอะครับ!”
ห่ะ?
ทั่วทั้งฟลอร์ต่างเงียบสงัด
พี่เทียน?
โหวหยานและเจียงหง สายตาเบิกโตไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขามองไปตามสายตาของเฉียงหลง ก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินเทียน อย่างหาใครเทียบได้
“ต้องปั่นกระแสขนาดนี้เลยหรือ?” ฉินเทียนยิ้มแหย่ๆ
เฉียงหลงกัดฟันและตอบว่า “พี่เทียนอาจจะไม่ชอบ!”
“แต่__”
“นี้คือน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของผม”
“ขอพี่เทียนได้โปรดเข้าใจ!”
ฉินเทียนพยักหน้า แม้ว่าวิธีการนี้จะดูปั่นกระแสบุ่มบ่ามไปบ้าง แต่เขาก็สัมผัสได้ว่า เฉียงหลงผู้นี้ ทำมาจากใจของเขาจริงๆ
ดูแล้ว ตัวเองยังขาดความรักที่ให้กับเขาเลยด้วยซ้ำ
เล่นเอาซะพี่ใหญ่คนนี้เป็นคนเด็กกำพร้ายังไงยังงั้น
เขายิ้มและตอบว่า “หลิวหย่งเฉียง แกทำได้ดีเลยทีเดียว”
“จากนี้ไปตั้งใจทำงานให้ดี ตราบใดที่ตั้งใจทำด้วยความดี มันต้องดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน”
เฉียงหลงได้รับการยอมรับจากฉินเทียน ตอบไปว่า “ขอบคุณมากครับพี่เทียน!”
“ผมจะทำตามคำสอนของคุณ ถ้าผมทำเรื่องไม่ดี คุณฆ่าผมได้ทุกเมื่อเลยครับ”
“แล้ว คุณจะไม่พูดอะไรกับพวกเราสักหน่อยหรือ?”
“มันจำเป็นต้องพูดด้วยหรือ?” ฉินเทียนยิ้มแหยๆ
“จำเป็นมากครับ!” เฉียงหลงหัวเราะ ลุกขึ้นและดึงมือของฉินเทียน ไม่เปิดโอกาสให้พูด ดึงเขาเข้าไปอยู่ตรงกลางฟลอร์
“ตอนนี้ ให้พี่เทียนได้พูดอะไรกับพวกเราสักสองประโยคนะครับ!”
“พวกเรายินดีต้อนรับ!”
“โอเค!”
“เชิญพี่เทียนพูดสักหน่อยครับ!”