บัญชามังกรเดือด – บทที่ 439 เจรจา

บทที่ 439 เจรจา

“อะไร?เป็นไปได้ยังไง!”

ฟังที่หลิวชิงเล่าแล้วสีหน้าของซูซูก็ถอดสี

เอ่ยด้วยสีหน้าตกใจว่า: “ฉันจำได้ว่าเราบริษัทโลจิสติกส์ที่ร่วมมือเป็นเอกเทศกับเราชื่อว่าทงต๋าโลจิสติกส์ไม่ใช่เหรอ ?”

“เจ้าของบริษัทของพวกเขายังมาดูงานที่บริษัทของเราด้วยตัวเอง เป็นคนไม่เลวเลย เขายังบอกว่า จะร่วมมือกลยุทธ์เชิงลึกกับเรา”

“ทำไมอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหันล่ะ?”

“หลิวชิง ค่อย ๆ เล่ามาว่าเกิดอะไรขึ้น?”

หลิวชิงถอนหายใจทำจิตใจให้สงบ พยายามเล่าอย่างสงบ: “เป็นเจ้าของบริษัททงต๋าที่ชื่อว่าหลิวชั่น”

“เท่าที่เรารู้ บริษัทนั้นเป็นบริษัทที่ซื่อสัตย์จริงใจ”

“ว่าแต่ พอทงต๋าเอ็กซ์เพลสเกิดความวุ่นวายภายใน หลิวชั่นเหมือนจะออกจากบริษัทไปแล้ว”

“ตอนนี้ฉันติดต่อเขาไม่ได้”

“ฝ่ายธุรการทงต๋าโลจิสติกส์ตอบว่า เนื่องจากมีการเปลียนแปลงเจ้าของกรรมสิทธิ์ จึงระงับคความร่วมมือชั่วคราวเพื่อร่างสัญญากันใหม่”

“พวกเขาบอกว่าถ้าพวกเราร้อนใจ ก็ให้รีบไปที่สำนักงานใหญ่ของพวกเขาเจรจากับประธานกรรมการคนใหม่ที่เข้าดำรงตำแหน่ง”

“มีแค่เท่านี้ อย่างอื่นอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดเผย”

ซูซูเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า: “เปลี่ยนแปลงผู้ถือกรรมสิทธิ์ ก็จะมาเปลี่ยนสัญญาตามใจชอบไม่ได้นะ!”

“มันจะเกินไปแล้ว!”

“หลิวชิง ช่วยเตรียมตัวที เรียกหลิวหยุนตงไปด้วย ไปเมืองจิ่นหูกันเดี๋ยวนี้”

พูดพลางก็ลงจากเตียงเริ่มหาชุด เวลานี้ เธอยังคงสวมชุดนอนกระโปรงผ้าไหมสั้นที่บางเบา

ฉินเทียนเห็นท่าทางซูซูรีบร้อนก็ขมวดคิ้ว

ยื่นมือไปเอาโทรศัพท์มือถือในมือของซูซูมาเอ่ยว่า: “หลิวชิง ฉันฉินเทียน”

“เธอรีบตรวจสอบที การเปลี่ยนแปลงผู้ถือกรรมสิทธิ์ทงต๋าเอ็กซ์เพลสระงับสัญญาความร่วมมือกับลูกค้าทั้งหมดหรือเปล่า หรือมีแค่บริษัทเรา”

“อีกเรื่อง พัสดุด่วนเป็นชีวิตของอีคอมเมิร์ซจะล่าช้าไม่ได้ เธอปรึกษากับหลิวหยุนตงทีว่ามีบริษัทโลจิสติกส์อื่นมาแทนได้มั๊ย พวกเราใช้กันไปก่อน เพื่อแก้ไขเร่งด่วนไปก่อน”

หลิวชิงถอนใจเอ่ยว่า: “หลิวหยุนตงก็อยู่กับฉันนี่แหละ พวกเราตรวจสอบหมดแล้ว”

“ดูท่าทางตอนนี้ ทงต๋าโลจิสติกส์จะระงับสัญญาแค่บริษัทของเรา ส่วนลูกค้ารายอื่นไม่ได้รับผลกระทบ”

“ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าที่ทงต๋าเอ็กซ์เพลสทำอย่างนี้เจาะจงเฉพาะพวกเรา หรือจะเอาพวกเรามาเชือดให้ลิงดู”

“นอกจากนี้ พวกเราได้ติดต่อบริษัทโลจิสติกส์อื่นตั้งแต่เกิดเหตุ”

“พวกเขาเป็นของสมาคมแก๊งค์หม่าหมด ต่างลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ถ้าพวกเราจะร่วมมือกับพวกเขา ก่อนอื่นต้องได้รับการอนุญาตจากสมาคมแก๊งค์หม่าก่อน”

“ให้พวกเราไปหาสมาคมแก๊งค์หม่า”

สมาคมแก๊งค์หม่า!

พอได้ยินชื่อนี้ สีหน้าของฉินเทียนก็ขรึมลง เหมือนรู้ว่าปัญหาเริ่มจากตรงไหน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ต้องไปเหนื่อยเปล่าแล้ว”

“ฉันจะไปเมืองจิ่นหูกับประธานซูด้วยตัวเอง คุณกับหลิวหยุนตง ดูแลภาพรวมให้อยู่ในความสงบ ถ้ามีลูกค้าเร่งส่งสินค้า พวกคุณก็รับมือไปก่อน”

“ให้เวลาฉันแก้ปัญหา 3 วัน”

“ได้” หลิวชิงพยักหน้า: “เวลา 3 วัน ฉันว่าพวกเรายังรับมือได้”

เดิมทีฉินเทียนเตรียมตัวรุดหน้าจะไปตีแนวหน้าก่อน แต่พอเกิดเรื่องอย่างนี้ เห็นท่าทางซูซูร้อนใจอย่างนี้ถ้าไม่ให้เธอไปคงไม่ได้แน่

อีกอย่างเรื่องความร่วมมือกับทงต๋าโลจิสติกส์ ฉินเทียนก็ไม่ค่อยเข้าใจ

ทั้ง 2 คนเก็บสัมภาระง่าย ๆ ก็ขึ้นรถกัน

ก่อนออกเดินทาง ฉินเทียนมีลางสังหรณ์ว่าเรื่องราวไม่ใช่ง่าย ๆ จึงส่งข้อความหาฉานเจี้ยน

องค์กรคำสาปสวรรค์ นอกจากฉานเจี้ยนกับผีหวูฉางที่คอยเฝ้าค่ายใหญ่แล้ว คนอื่นที่เหลือทั้งหมดก็รีบไปรวมตัวกันที่เมืองจิ่นหู

ระหว่างหลงเจียงกับจิ่นหูมีเมืองเมืองหนึ่งคั่นกลาง ห่างกันเป็นพันกิโลเมตร

ฉินเทียนนอกจากเติมน้ำมันระหว่างทางแค่ครั้งเดียว รับประทานอะไรนิดหน่อยที่สถานีบริการ นอกนั้นก็ไม่มีการเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว

ใช้เวลาทั้งหมด 7 ชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงเมืองจิ่นหูในเวลาประมาณ 5 โมงเย็น

ตามที่อยู่ที่มีในมือก่อนหน้าก็มายังสำนักงานใหญ่ทงต๋าโลจิสติกส์เลย

ดูแล้วทั้งหมดก็เหมือนปกติ ไม่มีความวุ่นวายอะไร

ซูซูถอนหายใจกระซิบว่า: “ที่รัก คุณขับรถมาทั้งวันคงเหนื่อยแล้วสินะ?”

“คุณรอฉันอยู่ที่นี่จะได้พักผ่อนบ้าง”

“ฉันจะขึ้นไปหาประธานใหญ่ของพวกเขา”

“ทำอย่างนั้นได้ยังไง ผมจะไปกับคุณ” ฉินเทียนรีบเอ่ย

ซูซูหัวเราะเอ่ยว่า: “เจรจาธุรกิจกลางวันแสก ๆ อย่างนี้จะมีเรื่องอะไรได้?”

“อีกอย่าง พวกเรามาเจรจาความร่วมมือ จากนิสัยคุณฉันกลัวคุณจะก่อเรื่อง”

“คนดี รอฉันอยู่นี้นะ”

ฉินเทียนยังอยากจะพูดอะไรต่อ พอเห็นรถโฟร์วิลรุ่นเดียวกัน 2 คันค่อย ๆ ขับเข้ามา เขาก็จำได้ว่าก่อนหน้าได้เพิ่มอุปกรณ์เสริมให้กับองค์กรคำสาปสวรรค์

ท่าทางความเร็วของพวกเขาก็ไม่ช้า คันหน้าคันหนังตามกันมาทัน

“ก็ได้ ระวังตัวด้วย”

“จำไว้ การได้ร่วมงานกับพวกเราเป็นเกียรติกับพวกเขา ที่รัก อย่าได้ใจอ่อนเด็ดขาด”

“ยังไงก็มีผมอยู่ทั้งคน”

“รู้แล้ว” ซูซูยิ้มแล้วผลักประตูลงจากรถเดินเข้าไปข้างใน

“พี่เทียน” โฟร์วิล 2 คันขับเข้ามา ประตูรถถูกผลักออก มีกลุ่มชายฉกรรย์กระโดดลงมา

รังสีนักฆ่าของแต่ละคนคลุ้งไปหมด เหมือนสัตว์ป่าที่ไม่ได้ออกกำลังกายมานาน อดจะหาคนมาซ้อมไม่ได้

องค์กรคำสาปสวรรค์ นอกจากหมายเลข 1 หมายเลข 2 อย่างฉานเจี้ยนและฉุยหมิงแล้ว

คนที่เหลือ หมายเลข 3 หม่าหงเทา หมายเลข 4 เถียหนิงซวง หมายเลข 5 ฉุยหมิง หมายเลข 6 เถียปี้ หมายเลข 7 ถงชวน หมายเลข 8 อะปิน หมายเลข 9 เถียเจี้ยน หมายเลข 10 หลางจง

ก็มากันหมด

“พี่เทียน มีภารกิจใหญ่เหรอ?”

“จะลงมือเมื่อไหร่?” ถงชวนถามด้วยสีหน้าคึกคัก

ฉินเทียนหัวเราะเอ่ยว่า: “ที่ดึงพวกนายทั้งหมดมาก็เพราะมีแผนปักหลักอยู่ที่นี่ระยะยาว”

“เพียงแต่ ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน ไม่ต้องรีบ”

“พวกนายไปหาโรงแรมก่อนเถอะ เปิดห้องไว้รอข่าวจากฉัน”

เถียหนิงซวงหัวเราะเอ่ยว่า: “เรื่องนี้ง่ายมาก ผมจัดการเอง”

“ครอบครัวผมลงทุนโรงแรมแห่งหนึ่งที่นี่เอาไว้ ระดับ 4 ดาว แม้จะโทรมไปบ้างแต่ก็เป็นของคนกันเอง มีความสะดวกสบาย”

ฉินเทียนพยักหน้าเอ่ยว่า: “พวกนายไปกันก่อน แล้วส่งที่ตั้งมาให้ฉันก็พอ”

เขาจุดบุหรี่ขึ้นมวนหนึ่ง รออยู่ใต้ตึกเพียงลำพัง

แม้จะเพิ่งผ่านไปแค่ 10 นาที ถ้าราบรื่น ซูซูก็น่าเพิ่งจะได้พบประธานใหญ่ของอีกฝ่าย

แต่ว่า ฉินเทียนรู้สึกว่าเวลาล่าช้าจนทนไม่ได้

เขาครุ่นคิดสักพัก ในที่สุดก็ไม่วางใจ ดับบุหรี่ทิ้งย่างเท้าเข้าไปข้างใน

นี่คืออาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง ฉินเทียนเห็นทงต๋าโลจิสติกส์อยู่ชั้น 17 และ 18 จากป้ายแนะนำที่อยู่ข้าง ๆ

เขารอไม่ไหวเดินเข้าไปในลิฟต์

10 นาทีก่อนหน้า

ชั้น 18 ห้องทำงานผู้จัดการใหญ่ทงต๋าเอ็กซ์เพลส

“ประธานหม่า ผู้มีอำนาจจากซูยู่กรุ๊ปมาถึงแล้ว หล่อนบอกว่า ต้องการพบท่านเพื่อเจรจาปัญหาความร่วมมือบริษัทเทียนโก่วอีคอมเมิร์ซของพวกเขา”

พอได้ยินเลขารายงานเสร็จ สายตาของหม่าเทียนหมิงก็ฉายเพลิงพิษ

เขากัดฟันพูดกับชายสวมสูทใส่แว่นดำที่ยืนประกบซ้ายขวาว่า: “ฉินเทียนไอ้นอกคอกมาแล้ว!”

“พวกนายเตรียมตัวให้ด รอฟังคำสั่งฉัน ต้องจัดการมันให้ได้ในครั้งเดียว!”

ชายฉกรรจ์แว่นดำ 2 คน ต่างเป็นยอดฝีมือที่ตระกูลหม่าชุบเลี้ยงเอาไว้ พวกเขาพูดอย่างเหยียดหยามว่า: “ตราบใดที่ฉินเทียนกล้ามา มันก็คือคนตาย”

หม่าเทียนหมิงจึงเอ่ยอย่างได้ใจว่า: “ให้เขาเข้ามา!”

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด

Status: Ongoing

บัญชามังกรเดือด แปลไทย เขาหายสาบสูญไปห้าปี มีป้ายบัญชาการลึกลับสองอันเกิดขึ้นบนโลก อันหนึ่งเป็น บัญชาพญายม เมื่อพบเห็นต้องตายสถานเดียว อันหนึ่งเป็นบัญชาราชาเทพ ใครผู้นั้นจะพลอยได้ดิบได้ดี แต่เขากลับเป็นเจ้าของป้ายบัญชาการทั้งสอง……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท