บัญชามังกรเดือด บทที่ 507 ล่าสัตว์
เมื่อได้ยินพี่ใหญ่พูดดังนั้น ปีศาจขาวก็พูดด้วยความโกรธว่า “ตระกูลหยางกับตระกูลเฉินต่างคนต่างอยู่ นึกไม่ถึงเลยว่าพวกแกจะฆ่าฉัน?”
พี่ใหญ่ตอบอย่างเรียบเฉยว่า “สำหรับโลกภายนอกแล้ว คนที่ฆ่าแก ก็คือฉินเทียน ไม่ใช่พวกฉัน”
“ปีศาจขาว แกยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าทำไมพวกเราถึงใช้ชื่อของฉินเทียน เพื่อนัดแกออกมาที่นี่?”
“เพราะตราบใดที่แกตายด้วยน้ำมือของฉินเทียน หยางหยวนชิ่งก็จะไม่มีทางเป็นพันธมิตรกับฉินเทียนได้อีกอย่างแน่นอน”
ปีศาจขาวพูดด้วยความโกรธว่า “พวกแกรู้ว่าฉินเทียนยินยอมที่จะสนับสนุนหัวหน้าตระกูลหยาง ดังนั้นเลยจะฆ่าฉันแล้วโยนความผิดให้ฉินเทียน เพื่อทำลายพันธมิตรระหว่างตระกูลหยางกับเขาสินะ”
“หัวหน้าตระกูลหยางโกรธมากและจะต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้แค้นฉินเทียนอย่างแน่นอน ในเวลานี้ ขอแค่ตระกูลเฉินของพวกแกแสดงความเป็นมิตรยื่นมือเข้าช่วย หากฉินเทียนอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ก็ต้องใช้โอกาสนี้เอนเอียงมาทางพวกแก”
“ต่ำช้าจริงๆ!”
“พวกแกคิดว่าอาศัยแค่พวกแกไม่กี่คนจะสามารถฆ่าฉันได้อย่างนั้นจริงๆ หรือ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“จะฆ่าได้หรือฆ่าไม่ได้ ลงมือเดี๋ยวก็รู้”
“ปีศาจขาวนี่คือชะตาชีวิตของแก ตายซะเถอะ!”
ท่ามกลางเสียงคำราม สามพี่น้องก็สะบัดดาบปีศาจนั้น จากสามทิศทาง และพุ่งเข้าหาปีศาจขาว
ปีศาจขาวปล่อยพลังแห่งเทพ พลังสีขาวก็โพยพุ่งออกมารอบกาย เขาคำรามและพุ่งขึ้น
หนึ่งต่อสาม คาดไม่ถึงเลยว่า จะทำอะไรเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ไม่นาน พญายมสามตาก็ตระหนักได้ว่า พวกเขาประเมินศักยภาพของ ปีศาจขาวต่ำเกินไป
ผู้ชายคนนี้ เกินกว่าที่คาดไว้อย่างน้อยก็สูงกว่านั้นหนึ่งขั้น พวกเขาสามรุมหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะถูกบีบจนไม่มีเรี่ยวแรงโต้ตอบกลับ
พลังสีขาวรอบกายของปีศาจขาวไม่รู้ว่าเป็นวิทยายุทธอะไรกันแน่ บางครั้งแม้แต่ดาบของพวกเขาก็ฟันไม่เข้า
แต่ พญายมสามตาเองก็ไม่ธรรมดา พวกเขาเริ่มเห็นท่าไม่ดี ก็รีบเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที
เพราะวิทยายุทธของปีศาจขาวคงอยู่ได้ไม่นานนัก ถ้ายังใช้ต่อไปมันจะไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเอง
เป็นไปตามคาด ต่อสู้ไปได้ประมาณสิบนาที การโจมตีของปีศาจขาวก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
มือทั้งสองรวมถึงพายุหิมะรอบตัวที่น้ำสาดก็ไม่เข้านั้น ค่อยๆ ช้าลง จนกระทั่ง ปรากฎเห็นเป็นช่องว่าง
พญายมสามตาคนที่สามมองเห็นโอกาส ก็จู่โจมอย่างฉับพลัน ดาบปีศาจในมือ ทิ้งบาดแผลลงไว้บนไหล่ของปีศาจขาว
ร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดและพลังลมปราณถูกกระตุ้นอีกครั้ง
ปรากฏว่าบาดแผลนั้นก็กลายเป็นแข็งเป็นน้ำแข็ง และไม่มีเลือดไหลออกมาอีก
เขาร้องคำรามด้วยความโกรธ และโจมตีอย่างดุเดือดอีกครั้ง
พญายมสามตาจับจุดสำคัญของยุทธศาสตร์เอาไว้ได้ เลยต่างรีบแยกย้าย ล้อมไว้แต่ไม่โจมตีใดๆ
รอจนพลังของปีศาจขาวอ่อนแรงลง ทั้งสามก็พร้อมใจกัน จู่โจมจากทั้งสามทิศทางอย่างเอาเป็นเอาตาย
ปีศาจขาวตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก โดยไม่ทันระวัง ก็โดนแทงที่ต้นขาเข้าอีกครั้ง
รอบนี้ การสมานแผลของเขาช้าลงมาก เลือดสดสดเปื้อนกางเกงจนกลายเป็นสีแดงไปทั้งตัว
สภาพเช่นนี้ ราวกับเป็นเสือดุร้ายที่ถูกหมาป่าเจ้าเล่ห์สามตัวล้อมไว้อยู่ แม้ว่าเขาจะดุร้ายมากเพียงไร แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความเจ้าเล่ห์ของหมาป่าเอาไว้ได้
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่ารสชาติของความตายเป็นอย่างไร
ขณะเดียวกันก็รู้แล้วว่า เวลาไม่มีประโยชน์กับตัวเขา หากไม่สามารถโต้กลับและเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ถ้างั้น ที่นี่ก็คือหลุมฝังศพของเขา
สิ่งที่ทำให้เขาเสียใจมากไปกว่านั้นก็คือกับดักในครั้งนี้ ศัตรูใช้ชื่อของฉินเทียน เพื่อนัดเขามา
หลังจากเขาตายแล้ว หยางหยวนชิ่งเองก็ไม่มีทางรู้แม้แต่ฆาตกรตัวจริง ได้แต่ไปตามล้างแค้นกับฉินเทียน
สีหน้าของเขาจริงจังมาก ต่อสู้กับพญายมสามตาไปพลาง ค่อยๆ ถอยหลังไปตามแนวขอบป่า
คิดจะหนีหรือ?
พญายมสามตารู้ถึงเจตนาของปีศาจขาว พวกเขาก็อดที่จะดีใจไม่ได้
เพราะนี้ก็อธิบายได้ว่า ปีศาจขาวยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว
“ฆ่ามันซะ!” จากคำสั่งของพี่ใหญ่ สามคนพี่น้องก็เดินหน้าพุ่งชน ปีศาจขาวอย่างไม่สนใจไยดี
แววตาของปีศาจขาวปรากฏความดุร้าย
เขาจงใจแสดงความอ่อนแอ เพื่อล่อให้ศัตรูเข้ามาโจมตี ในเสียงคำรามนั้น เขากระตุ้นพลังลมปราณสุดท้ายในตัวเขาออกมาก
ตัวเขาราวกับพายุทอร์นาโดอย่างไรอย่างนั้น พุ่งเข้าไปหาพี่ใหญ่ที่เจ้าเล่ห์ที่สุด
เสียงดังโครมคราม พี่ใหญ่กุมหน้าอก ร้องตะโกนออกมา ระหว่างที่ตัวลอยอยู่กลางอากาศนั้น ก็กระอักเลือดออกมาด้วย
เขาล้มลงกับพื้น สีหน้าซีดเผือดจนยืนไม่ไหว
“พี่ใหญ่!”
น้องชายทั้งสองที่เหลืออยู่ อดที่จะอุทานออกมาด้วยความตกใจไม่ได้
ไม่รอให้เขาโต้กลับ ปีศาจขาวก็พุ่งเข้าชนอีก
โครมโครม!
ติดต่อกันสองยก โจมตีพวกเขาจนกระเด็นออกไป
ชั่วพริบตา สามคนพี่น้องก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส สมแล้วที่เป็น ปีศาจขาว!
เนื่องจากเขาใช้พลังลมปราณเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่ รวมกับความบาดเจ็บที่ได้รับมา ทำให้พยุงตัวไม่ไหว หน้ามืดจนเกือบจะล้มลง
เขาประคองตัวเองกับต้นไม้ข้างๆ พูดอย่างเย้ยหยันว่า “คิดจะฆ่ากู พวกมึงยังอ่อนอยู่นัก!”
“ในเมื่อตระกูลเฉินลงมือก่อน ถ้างั้นต่อไป ก็อย่าหาว่าพวกกูไม่เกรงใจนะ”
“กูจะรายงานให้หัวหน้าตระกูลหยางทราบ ให้เปิดศึกรอบด้านกับตระกูลเฉิน!”
พูดจบ เขาก็รวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือ พาร่างอันอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เดินออกจากป่าไป
จริงๆ แล้วตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะฆ่าพญายมสามตาให้ตาย พวกเขาสูญเสียกำลังในการต่อสู้ ล้มลงกองอยู่บนพื้น ราวกับลูกแกะที่รอการถูกเชือด
ปีศาจขาวเองไม่ใช่ว่าไม่รู้เหตุผลข้อนี้
แต่เขาเองก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงเกินไปเหมือนกัน
เขารู้สึกว่า อีกสักครู่ เขาเองก็จะล้มลง ที่นี่ยังไม่ปลอดภัยสำหรับเขา ดังนั้น เขาเลยจำเป็นต้องรีบออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
ขอเพียงแค่กลับถึงบ้านตระกูลหยาง ชีวิตนี้ของเขา ถึงจะถือว่าปลอดภัย
“แกเป็นใคร?” พึ่งเดินไปสองก้าว ระหว่างต้นไม้สองต้นที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่ามีตาเฒ่าตาบอดมายืนตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร
เบ้าตาของเขาดูลึก ในมือใช้ไม้พุทธาค้ำยันอยู่
ปีศาจขาวอดไม่ได้ที่จะตกใจไปชั่วขณะ
“ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็อยู่ซะที่นี่แหละ”
“ฉินเทียนไม่มีคุณธรรม ตระกูลหยางส่งคนให้นำของกำนัลไปมอบให้เขา เขารับไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะกลับคำพูด ฆ่าสมุนคนสนิทของหัวหน้าตระกูลหยางตายอย่างโหดเหี้ยม”
“ช่างน่าเศร้าและน่าสมเพชเสียจริงๆ”
เขาถอนหายใจไปพลางและใช้ไม้ค้ำจุนค่อยๆ เดินจากไป
ลมกรรโชกมา ร่างกายอันผอมบางของเขา ดูแล้วก็เหมือนกับคนแก่ไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่ง
แต่สีหน้าของปีศาจขาวเปลี่ยนไปอย่างมาก
“หมอเทวดาตาบอด!”
“คนของตระกูลเจี่ยงงั้นเหรอ!”
“พวกแก___”
ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ สุดท้ายเขาก็เข้าใจแล้ว เกมนี้ ไม่เพียงแค่ตระกูลเฉินเท่านั้น แต่ยังมีตระกูลเจี่ยงที่เข้าร่วมอีกด้วย
สองตระกูลใหญ่ร่วมมือกันแล้ว
เสียดายแค่ว่า เขาไม่มีโอกาสนำเรื่องนี้ไปบอก หยางหยวนชิ่งได้แล้ว
เงาของหมอเทวดาหายว๊าบ จากข้างกายของปีศาจขาวราวกับลมกรรโชกที่พัดผ่านไป หยุดนิ่งอยู่ที่ประมาณสามฟุต
ปีศาจขาวอ้าปากค้าง จ้องมองดู และนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นประมาณสามวินาที ล้มลงกับพื้นเสียงดังตูม ไม่ขยับเขยื้อนใดๆ
เทคนิคการฆ่าคนที่แปลกประหลาด แม้แต่พญายมสามตาที่บาดเจ็บสาหัสอยู่บนพื้นนั้น ยังต่างพากันตื่นตระหนกตกใจ
พี่ใหญ่มองตาเฒ่าตาบอดที่อยู่เบื้องหน้า ยังรู้สึกเย็นยะเยือกจากก้นบึ้งของหัวใจ
เขากัดฟันและพูดเบาๆ ว่า “สมแล้วที่เป็นหมอเทวดาแห่งนักฆ่า!”
“พวกเราสามพี่น้อง วันนี้นับว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”
“ชีวิตของพวกเราได้ท่านช่วยเอาไว้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเราจะจงรักภักดีต่อหมอเทวดาอย่างดีที่สุดแน่นอน”
ตาเฒ่าตาบอดหัวเราะและพูดว่า “พวกแกกลัวว่าฉันจะใช้โอกาสนี้ฆ่าพวกแกด้วยใช่ไหม?”
“ยอมรับว่าใช่ แม้ว่าตระกูลเจี่ยงจะเป็นพันธมิตรกับตระกูลเฉินแล้วก็ตาม ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่บนโลกนี้มีเพื่อนกันตลอดไปที่ไหนเล่า?”
“มีแต่ผลประโยชน์ตลอดไปต่างหาก”
“ฆ่าพวกเราแล้ว หัวหน้าตระกูลเฉินก็จะไม่มีลูกสมุน มองในระยะยาว เหมือนจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ต่อหัวหน้าตระกูลเจี่ยงของพวกเรามากขึ้น”
“พวกแกคิดเหมือนกันไหม?”
บทที่ 506 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
บทที่ 508 โยนความผิดให้คนอื่น