“รอหลังจากฉันติดต่อกับทางด้านนั้นของตงไห่ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“เย่อิงตายแล้ว พวกเขาไม่อาจนั่งนิ่งดูดายเป็นแน่”
“เพียงแค่พวกเขาส่งผู้มีฝีมือสูงเข้ามา ไม่ว่ามือสังหารเป็นใคร ก็จะต้องสืบหาความจริงให้ปรากฏได้อย่างแน่นอน”
ในที่สุด เจี่ยงเส้าก็ยังคงตัดสินใจ ไม่ไปขอความช่วยเหลือกับตระกูลลิชั่วคราว เขายังคงฝากความหวังเอาไว้ที่ตงไห่
“ดูเหมือนว่าพี่เจี่ยงจะมีพันธมิตรที่ไว้ใจได้มากกว่านี้แล้ว”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ความร่วมมือของพวกเรา ก็จบสิ้นลงเท่านี้แล้วกัน”
“พรุ่งนี้ฉันจะไปที่ตระกูลลิ ขอร้องให้พวกเขาก้าวออกมา เพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับเจ็ดเมืองทางใต้!”
เฉินเถิงออกไปด้วยความโกรธเดือดดาล เขาก็รู้สึกว่า ตนเองถูกเจี่ยงเส้าเล่นตลกเสียแล้ว
พันธมิตรที่แท้จริงของเจี่ยงเส้า แต่ไหนแต่ไรคือไม่ใช่เขา
เขาเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งในมือของเจี่ยงเส้าเท่านั้น
อีกอย่าง ทุกคนล้วนเป็นคนของทางตอนใต้ มีการแข่งขันซึ่งกันและกัน และนั่นก็เป็นเรื่องภายใน ช่วงเวลาที่สำคัญนี้ จะต้องสอดคล้องกับโลกภายนอกด้วย
นี่คือหลักการพื้นฐานที่สุด
แค่คาดไม่ถึงว่าเจี่ยงเส้าจะหันหลังให้ทุกคน สมคบคิดกับคนข้างนอก นี่ตึงทำให้เฉินเถิงไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เขาเกลียดตัวเองที่มองเจี่ยงเส้าผิดไป
……
วันที่สาม
ชั่วข้ามคืน ข่าวของผู้บูชาอู่ทั้งสามของตระกูลเฉิน บวกกับหมอเทวดาตาบอดมือสังหารของตระกูลเจี่ยงถูกฆ่าตาย ก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองตามพระอาทิตย์ขึ้น
ในคืนก่อน ข่าวการถูกสังหารของปีศาจขาวของตระกูลหยาง ยังเป็นเพียงแค่สายจุดชนวนระเบิดหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ดึงดูดคนจำนวนมากให้เกิดความสนใจ
เพราะคนจำนวนมากรู้ว่า ตระกูลหยางมีความแค้นกับฉินเทียน
หลังจากที่ฉินเทียนได้รับของขวัญก็สังหารคนอีก และเป็นการแก้แค้นอย่างโหดเหี้ยม
แต่ข่าวนี้ไม่เหมือนกัน
เหมือนกับเป็นลูกระเบิดจริงๆ ล้วนดึงดูดสายตาของคนทั้งเมืองจิ่นหูในทันใด
พวกเขาเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ ฉินเทียนผู้นี้ ท้ายที่สุดแล้วต้องการทำอะไรกันแน่?
นับตั้งแต่เขามาถึงเมืองจิ่นหู ก็ได้แย่งชิงที่ดินหรูอี้ที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งไป จับคุณชายใหญ่ตระกูลหม่าเป็นตัวประกัน บีบบังคับให้หม่าจั๋วชุนจำต้องถอยออกไป
สังหารผู้มีฝีมือสูงตระกูลหยาง
ตอนนี้ กระทั่งตระกูลเฉินและตระกูลเจี่ยง ที่ทั้งสองไม่เคยมีปัญหากับฉินเทียนมาก่อน ตระกูลที่ไม่ได้มีความแค้นต่อกัน ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้
เช่นนี้เมื่อดูๆ แล้ว ห้าตระกูลใหญ่ในเมืองจิ่นหู นอกจากตระกูลแรกที่เงียบมาโดยตลอด สี่ตระกูลที่เหลือ ล้วนประสบกับการทำให้บาดเจ็บล้มตายของฉินเทียน
ในที่สุดบางคนก็ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง
หรือว่า ฉินเทียนก็ต้องการที่จะเป็นผู้นำของสมาคมเจ็ดเมืองทางใต้เหมือนกัน?
อยากเป็นผู้นำ อาศัยเพียงส่งผลกระทบต่อคนทำธุรกิจนั้นคงไม่เพียงพอ จะต้องมีกองกำลังทหารด้วย
ฉินเทียนจึงสังหารคู่ต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพทิ้งทั้งหมด ไม่ใช่ว่าจะได้ไร้คู่ต่อสู้บนโลกใบนี้ แต่ตำแหน่งผู้นำ มีเพียงเขาที่สามารถทำได้!
ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้คนจึงเริ่มหวาดกลัว
ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวยังแพร่ออกจากเมืองจิ่นหู ไปทั่วทั้งมณฑล ถึงขั้นแพร่กระจายไปทั่วทั้งเจ็ดเมืองทางใต้
เผชิญหน้ากับข่าวที่มืดฟ้ามัวดินข้างนอก รวมทั้งข้อสงสัยและคำด่าทุกชนิด ฉินเทียนและองค์กรคำสาปสวรรค์ก็ปิดประตูเงียบไม่ออกไปไหน และเปลี่ยนเป็นเงียบสงบ
ตอนนี้ ฉินเทียนมั่นใจว่า เรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมด จะต้องมีมือมืดที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่
กระทั่งตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหม่า ตระกูลหยาง ตระกูลเฉินและตระกูลเจี่ยง สามารถกลายเป็นเหยื่อสังเวย และถูกมือมืดนั้นชักใยได้
สุดท้ายแล้วมือมืดนั้นคือใคร? จัดประสงค์คืออะไร?
ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ สระน้ำลึกนี้ที่เจ็ดเมืองทางใต้ ช่างลุ่มลึกเสียจริงๆ
เขาเลือกที่จะเงียบ เลือกที่จะไม่เอาตัวเองเข้าไปพัวพันชั่วคราว และสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ
เพราะเขารู้ว่า มือนั้น จะไม่เลิกราเพียงเท่านี้เป็นแน่
ก่อนที่จะเห็นมือนั้นโดยสิ้นเชิง เขาก็จะต้องรักษาศักยภาพ เพราะเขามีลางสังหรณ์ว่า ครั้งนี้ เขาจะต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างหาได้ยากเป็นแน่
กระทั่งฉินเทียนรู้สึกว่า มือมืดผู้นี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่า ปรมาจารย์พิษผู้นั้นของดอกไม่แห่งความมืดเลย
นึกถึงปรมาจารย์พิษที่นับตั้งแต่ใช้ร่มร่อนหลบหนีจากบนยอดเขาไข่มุก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราว ฉินเทียนก็รู้สึกปวดหัว
จริงๆ เลย คลื่นหนึ่งยังไม่สงบ ก็เกิดอีกคลื่นหนึ่งขึ้นมาอีก
“คุณชายลิ ฉินเทียนนิสัยชั่วเยี่ยงหมาป่า สังหารพวกเดียวกัน คุณไม่อาจไม่สนใจได้นะ!”
“จริงๆ นะคุณชาย คุณต้องฟังฉัน ตอนนี้กวาดสายตามองไปทั่วทั้งเมืองจิ่นหู ตลอดจนเจ็ดเมืองทางใต้ มีเพียงตระกูลลิของพวกคุณเท่านั้น ที่จะสามารถยับยั้งเขาได้!”
“ฉันรู้ว่า ในตระกูลของพวกคุณมีผู้มีฝีมือสูง”
“ครั้งนี้ คุณจะต้องรับหน้าที่แทนพวกเรา!”
บ้านหลังใหญ่ตระกูลลิ ในห้องรับแขก เฉินเถิงขอร้องพูดโน้มน้าวเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด บอกว่าฉินเทียนเป็นปีศาจร้ายทำความชั่วทุกประการ
กระทั่ง ถ้าหากไม่มีใครสามารถยับยั้งฉินเทียนได้ ทั่วทั้งเจ็ดเมืองทางใต้ จะต้องจมดิ่งอยู่ในความมืดมิดไปตลอดกาล
แต่ลิเหลียงดื่มชา ด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด
“เจ้าบ้านเฉิน คุณก็รู้ว่า พ่อของฉันสุขภาพไม่ค่อยดี หลายปีมานี้ เรื่องราวของตระกูล ล้วนตกอยู่ในมือของฉัน”
“ด้วยอุตสาหกรรมจำนวนมากมายเช่นนี้ของตระกูลลิ ถึงฉันจะอายุน้อย ก็ยังเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ”
“และไม่มีความสบายใจใดๆ ที่จะไปยุ่งเรื่องอื่นจริงๆ”
“ไม่เช่นนั้นละก็ การเลือกตั้งผู้นำในครั้งนี้ ก็คงจะไม่มีเจตนาที่จะสละสิทธิ์หรอก”
“เจ้าบ้านเฉิน ไม่อย่างนั้น คุณลองไปหาคนอื่นๆ ดูจะดีกว่าหรือไม่?”
หลังจากที่ลิเหลียงพูดจบ คาดไม่ถึงว่าจะหยิบคัมภีร์ทางพุทธศาสนาขึ้นมา และทำท่าทีไม่เข้าไปยุ่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเอง
เฉินเถิงทึ่มทื่ออยู่กับที่ เขาไม่คาดคิดว่า ลิเหลียงจะรักษาชื่อเสียงของตนเองเช่นนี้
“คุณชายลิ ขออภัยที่ฉันต้องพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง”
“ตอนนี้ท่านไม่เข้าไปยุ่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง แต่ก็ไม่กลัว ฉินเทียนจะเข้ามาลงมือกับตระกูลลิด้วยใช่หรือไม่?”
“ฉินเทียนต้องการปราบเจ็ดเมืองทางใต้ จะต้องไม่ปล่อยตระกูลลิเอาไว้อย่างแน่นอน”
ลิเหลียงยิ้มแล้วกล่าวว่า: “ฉันกับเขาต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แล้วอีกอย่าง หากเขาอยากจะเป็นผู้นำ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”
เฉินเถิงพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง
แต่เขาก็ไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก
ในที่สุด ลิเหลียงก็คล้ายกับค่อนข้างหงุดหงิด
“เจ้าบ้านเฉิน ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถช่วยได้ เพียงแต่ก็สามารถชี้ทางสว่างให้แก่คุณได้”
“เมืองจิ่นหูไม่มีใครสามารถต่อสู้กับฉินเทียนได้ แต่คุณก็สามารถไปยังสถานที่อื่นๆ อย่างเช่น เมืองซื่อไห่”
“เมืองซื่อไห่ ก็เป็นขอบเขตของเจ็ดเมืองทางใต้ ตามที่ฉันรู้ ตระกูลจี้แห่งเมืองซื่อไห่ ไม่เพียงแต่ทำการค้า แต่ยังเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้ด้วย ผู้มีฝีมือสูงมากมายนับไม่ถ้วน”
“คุณไปหาพวกเขา ไม่แน่ว่า อาจจะสามารถขุดรากถอนโคนเนื้อร้ายอย่างฉินเทียนได้”
“ตระกูลจี้แห่งเมืองซื่อไห่?” แววตาของเฉินเถิงเป็นประกายขึ้นมา
เพียงแต่ ขมวดคิ้วอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวถามว่า: “พวกเรากับตระกูลจี้แห่งเมืองซื่อไห่ แต่ไหนแต่ไรไม่มีความสนิทสนมกัน อยู่ดีๆ ก็โผล่ไปเยี่ยมถึงบ้าน พวกเขาจะช่วยเหลือพวกเราเหรอ?”
ลิเหลียงยิ้มแล้วกล่าวว่า: “คนของตระกูลจี้ เป็นพวกหยิ่งยโสคิดว่าตนเหนือกว่าผู้อื่น ด้วยคุณเพียงคนเดียวแล้ว เกรงว่าจะเป็นการยากที่จะพูดโน้มน้าวพวกเขาได้”
“เอาเช่นนี้แล้วกัน คุณไปติดต่อเจ้าบ้านอีกสองสามคนที่เหลือ ร่วมลงชื่อขอร้อง เพื่อแสดงถึงการให้การสนับสนุน ฉันก็จะเขียนจดหมายหนึ่งฉบับด้วยตัวเอง”
“เจ้าบ้านเฉิน คุณคิดว่าเป็นอย่างไรล่ะ?”
เฉินเถิงกัดฟัน แล้วกล่าวว่า: “เพื่อเขี่ยฉินเทียนทิ้ง ฉันก็จะสู้!”
“ฉันจะไปปรึกษาหารือกับหยางหยวนชิ่ง หม่าจั๋วชุนและเจี่ยงเส้า พวกเราสี่คน บวกกับจุดหมายของคุณชาย ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ฉันไม่เชื่อว่าตระกูลจี้จะไม่ยอมออกหน้า!”
เห็นเขาออกไปแล้ว ถงเหรินก็กล่าวอย่างเลื่อมใสว่า: “คุณชาย แผนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวนี้ของท่าน ช่างเป็นความคิดที่ปราดเปรื่องจริงๆ”
“ต้องการจะเดินทางไปทางตอนใต้ในครั้งเดียว ตระกูลจี้และฉินเทียน ต่างก็เป็นอุปสรรค”
“ตอนนี้ ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กันเอง ทางที่ดีที่สุดคือบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ คุณชายก็จะสามารถนั่งรับผลประโยชน์ของชาวประมงได้”
“เพียงแต่ คุณชายคิดว่า ตระกูลจี้จะออกมือจัดการฉินเทียนหรือไม่?”
ลิเหลียงยิ้มเยาะแล้วกล่าวว่า: “นายท่านตระกูลจี้เป็นครึ่งเทพ ไม่อาจออกหน้าเพื่อคนธรรมดาเช่นนี้หรอก”
“เพียงแต่ ได้ยินมาว่าจี้ซิงคุณชายน้อยของตระกูลจี้เป็นผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน ที่ชื่นชอบมากที่สุดคือการท้าประลองกับคน”
“ฉันเขียนจดหมายไปให้เขา ไม่เชื่อว่าเขาจะไม่มา”
“ถ้าหากจี้ซิงก็ตายด้วยน้ำมือของฉินเทียน คุณคิดว่า ตระกูลจี้จะยังนั่งติดอยู่เหรอ?”