บัญชามังกรเดือด บทที่ 547 ความจริงปรากฏออกมาอย่างชัดเจน
เหตุใดลิเหลียงถึงร้อนรนและต้องการที่จะกลับไปในทันทีทันใด?
เป็นเพราะว่าจู่ๆเขาก็ค้นพบ กับดักที่เขาวางแผนมาอย่างรอบคอบ คิดไว้ว่าตัวเองเป็นผู้ล่า แต่ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวเขานั้นกลับกลายเป็นเหยื่อ
นับตั้งแต่การแกล้งตายของจี้ซิง ฉินเทียนก็เริ่มวางแผนการอย่างเงียบๆ
ใช้สถานการณ์ที่ตัวเขาสร้างขึ้นเอง หลอกล่อให้เขาเข้าร่วมใน สถานการณ์นั้นด้วย
ในเมื่อจี้ซิงแกล้งตาย เช่นนั้นแล้วจุยเฟิงล่ะ?
ในตอนที่มา เป็นเพราะเหตุผลทางร่างกาย จุยเฟิงสมัครใจที่จะอยู่ที่บ้านตระกูลลิ บัญชาการอยู่เบื้องหลัง ในตอนนั้นลิเหลียงไม่ได้เกิดความสงสัยเลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะว่าจุยเฟิงนั้นแขนหักจริง
ด้วยความอาฆาตแค้นนี้ เขารู้สึกว่าจุยเฟิงจะต้องถือว่าฉินเทียนนั้นเป็นศัตรูอย่างแน่นอน
แต่ทว่าตอนนี้ เขากลับรู้สึกไม่มั่นใจแล้ว
หากว่าจุยเฟิงนั้นเสแสร้ง เช่นนั้นแล้วเขายังปล่อยให้จุยเฟิงอยู่ภายในบ้าน ไม่เท่ากับว่าเขากำลังขุดหลุมฝังศพตัวเองหรอกหรือ?
อีกอย่าง ฉินเทียนมาพร้อมกับจ้าวเทียนเผิง รอบกายเขาล้วนแต่เป็นสมาชิกขององค์กรคำสาปสวรรค์ ทุกคนเป็นยอดฝีมือ แต่ทว่ากลับไม่มีใครปรากฏตัวเลย
คนเหล่านั้นกำลังทำอะไร?
ความรู้สึกว่างเปล่าบริเวณด้านหลัง ทำให้จิตใจของลิเหลียงปั่นป่วน
ดังนั้นนั่นเป็นเหตุผลที่เขาแทบรอไม่ไหวที่จะจากไป
ตอนนี้ เขามองเห็นอะไร?
เขามองเห็นจุยเฟิงแล้ว
ไม่เพียงแต่จุยเฟิงเท่านั้น
รอบข้างจุยเฟิง ล้วนแต่เป็นเหล่าสมาชิกองค์กรคำสาปสวรรค์ที่ต่างมาถึงกันแล้ว หม่าหงเทา เถียหนิงซวง ชุยหมิง ถงชวน เถียปี้และคนอื่นๆ
นั่นยังไม่ถือว่าเป็นการนับ
สิ่งที่ทำให้ลิเหลียงสั่นสะท้านมากยิ่งขึ้นคือ หม่าหงเทากำลังเข็นรถเข็น คนที่อยู่บนเก้าอี้รถเข็นนั่นก็คือพ่อของเขา ลิเว่ยจง
ภายในมือของเถียปี้กำลังลากคนที่มีสภาพคล้ายสุนัขตายอย่างไรอย่างนั้น ที่แท้นั่นคือเสินเฟิงที่หลบหนีไปเมื่อสักครู่
การปรากฏตัวของคนกลุ่มนี้ ราวกับเป็นการขว้างลูกระเบิดลูกใหญ่
สถานการณ์ในขณะนี้ดุเดือดขึ้นมาทันที
“เจ้าบ้านลิ คุณมาได้อย่างไร?”
“ไม่เจอกันเสียนาน คุณสบายดีหรือไม่?”
ได้พบเจอลิเว่ยจง เจี่ยงเส้าและคนอื่นต่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก
แม้ว่าลิเว่ยจงจะไม่ปรากฏตัวมาหลายปีแล้ว ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ แสดงท่าทีและสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพ
เพียงเพราะ เมื่อลิเว่ยจงมีพลังยิ่งใหญ่สะท้านฟ้า พวกเขาล้วนแต่เป็นน้อง
แม้ว่าในปัจจุบันนี้ ลิเว่ยจงจะวางมือแล้ว ทว่าสินทรัพย์ของตระกูลลิก็ยังคงอยู่เหนือพวกเขา นั่งบัลลังก์ผู้นำตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเจ็ดเมืองทางใต้ได้อย่างมั่นคง
“เจ้าบ้านเจี่ยง น้องหยาง เจ้าบ้านเฉิน หม่าจั๋วชุน สวัสดี”
ครั้นเห็นคนคุ้นเคยมากมาย เห็นได้ชัดว่าลิเว่ยจงดูตื่นเต้นเล็กน้อย
เสมือนว่าเป็นคนที่ถูกจองจำอยู่ในคุกมาเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ได้มองเห็นดวงอาทิตย์เสียที ท่ามกลางความตื่นเต้น เขามีท่าทีรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นลิฉุนที่กำลังนั่งอยู่บนเวที
ดูเหมือนว่าเขาได้ก่อเรื่องผิดไว้อย่างไรอย่างนั้น ท่าทีเหมือนว่ากำลังทำอะไรไม่ถูก
“เจ้าบ้านลิ ดีใจมากที่พวกเราได้พบกันอีกครั้ง”
“ต่อจากนี้ คุณมีเรื่องอะไรที่ต้องการจะบอกพวกเราใช่หรือไม่?” ฉินเทียนยิ้มและเอ่ย
ลิเว่ยจงดูมีท่าทีสับสน หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้า
แต่ทว่าเมื่อเขามองไปทางลิเหลียง ความรู้สึกประเดประดังเข้ามาพร้อมกัน ชั่วขณะหนึ่งก็ยังไม่รู้ว่าควรจะพูดสิ่งใด
ลิเหลียงยืนอยู่บนเวทีด้วยใบหน้าเย้ยหยัน เขาไม่สนใจ แต่มองไปทางจุยเฟิงและเอ่ย “เหล่าหวางล่ะ?”
สีหน้าของจุยเฟิงไร้อารมณ์ “ตายแล้ว”
“คุณฆ่าเหรอ?”
“ใช่”
“คุณแขนหักข้างหนึ่งแล้วยังสามารถฆ่าเหล่าหวางได้อีกงั้นเหรอ?”
“เขาคิดว่าฉันเป็นพรรคพวกเดียวกัน เช่นนั้นแล้วจึงไม่ทันระวังตัว”
“ดังนั้นแล้วเดิมทีคุณเองก็ไม่ใช่พวกเดียวกัน คุณไม่ลังเลเลยที่จะเสียสละแขนข้างหนึ่งและร่วมแสดงละครแผนทรมานร่างกายตัวเองกับฉินเทียน เพื่อมาแฝงตัวอยู่ข้างกายฉันในฐานะสายลับ?”
จุยเฟิง “ใช่”
ลิเหลียงกัดฟันแน่น “คุณยังรู้อะไรอีกบ้าง?”
จุยเฟิง “ความลับใต้เตียงในห้องนอนของคุณ”
เปลือกตาของลิเหลียงกระตุกอย่างรุนแรง กัดฟันและนิ่งเงียบ ใต้เตียงภายในห้องนอนของเขา มีกลไกอยู่อย่างหนึ่ง ด้านล่างนั้นมีการสร้างสนามฝึกศิลปะการต่อสู้ลับไว้
ครั้งล่าสุดที่บอดี้การ์ดคนนั้นได้ยินเสียงปังปัง นั่นก็คือเสียงที่เขากำลังฝึกซ้อมอยู่ด้านล่าง
เป็นเพราะว่าลิเว่ยจงค้นพบความลับนี้ ดังนั้นจึงทำให้ลิเหลียงเริ่มมีจิตใจที่โหดเหี้ยมอำมหิต
อย่างไรก็ตาม ลิเหลียงนั้นหาได้สูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไปไม่ นอกจากนี้เขายังต้องการอาศัยชื่อเสียงของลิเว่ยจงเข้าควบคุมตระกูลลิ
ดังนั้นจึงไว้ชีวิตลิเว่ยจง และกักขังเขาไว้
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเดินเกมพลาดก้าวเดียว แพ้ทั้งกระดาน อย่างน้อยความลับนี้เขาก็ไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป
หลังจากฟังการสนทนาของพวกเขาแล้ว ทุกคนก็ไม่รู้ว่าความลับนั้นคืออะไร ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างเข้าใจ
นั่นก็คือจุยเฟิงไม่เสียดายที่จะสูญเสียแขนของตน เดิมทีคือแผนทรมานร่างกายเพื่อที่จะได้เข้าใกล้และแฝงตัวอยู่ข้างกายลิเหลียง
ตั้งแต่แรกจนปัจจุบันนี้ เขาคือคนของฉินเทียน
นี่คือความสัมพันธ์อย่างไรกัน?
ต้องรู้ไว้ จุยเฟิงนั้นคือยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงของเจ็ดเมืองทางใต้ การที่หักแขนตนเองข้างหนึ่ง นั่นเท่ากับว่าทำลายอนาคตของตน
อายุยังน้อยนัก ราคาที่ต้องจ่ายและการตัดสินใจเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถทำได้
จี้ซิงเอ่ยเสียงดัง “จุยเฟิง ยอดเยี่ยม!”
“พี่น้องเช่นคุณ ฉันจี้ซิงขอผูกมิตรด้วย!”
จุยเฟิงเอ่ยอย่างเย็นชา “ถึงแม้ว่าฉันจะแขนหักไปหนึ่งข้าง แต่ทว่าหากเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าไม่สามาระชนะคุณได้”
“ตกลง ฉันจะคอยดู!” จี้ซิงหัวเราะเสียงดังลั่น
ครั้นได้ฟังประโยคนี้ของจุยเฟิง ความทุกข์นัยน์ตาของฉินเทียนดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เขารู้ จุยเฟิงทำเช่นนี้ เพื่อช่วยให้ตัวเองนั้นพ้นข้อหา
มีเหล่าพี่น้องเช่นนี้ ยังจะต้องการสิ่งใดอีก?
ลิเว่ยจงจ้องมองลิเหลียง พูดด้วยความเจ็บปวด “ลูก เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ลูกไม่มีหนทางถอยหนีได้อีกแล้ว”
“ยอมรับเถอะ!”
“ตราบใดที่แกยอมรับผิด และเต็มใจใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อรับโทษชดใช้ความผิด ฉันสามารถทำให้แกไม่ต้องถูกประหารได้!”
ลิเหลียงยิ้มเยือกเย็นและเอ่ย “คุณคิดว่าตัวคุณเองเป็นพระผู้ช่วยให้รอดพ้นจากความผิดบาปเหรอ?”
“ลิเว่ยจง คุณจะปกป้องผมในฐานะอะไร?”
“แล้วทำไมคุณต้องปกป้องผมด้วย?”
ลิเว่ยจงกัดฟันแน่นและเอ่ย “แม้ว่าแกและฉันจะไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ทว่าบุญคุณการเลี้ยงดูที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาหลายปี หรือว่ามันไม่คุ้มค่าเลยสักนิดที่จะรู้สึกอาลัยอาวรณ์และมีเยื่อใยให้กันเลยงั้นหรือ?”
นัยน์ตาของลิเหลียงปรากฏความสับสนลังเล ราวกับว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้ปรากฏขึ้นและความรู้สึกภายในใจแทบอดกลั้นไว้ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เขากัดฟัน ท้ายที่สุดความอ่อนโยนภายในหัวใจเขาก็อดกลั้นเอาไว้ได้ นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความโหดร้ายอีกครั้ง
หลังจากที่คนรอบข้างได้ยิน ราวกับว่ากำลังเหม่อลอยและแทบล้มทั้งยืนอย่างไรอย่างนั้น
“พ่อ พวกคุณกำลังพูดอะไรกัน?”
“ลิเหลียงเขา ไม่ใช่น้องชายแท้ๆของฉันงั้นเหรอ?”
“เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?”
“แล้วก็เรื่องที่คุณต้องการให้เขายอมรับผิด เขาทำเรื่องอะไรผิดงั้นหรือ?” ใบหน้าของลิฉุนดูหวาดกลัว
คนอื่นต่างก็แสดงใบหน้าฉงนเช่นกัน
เจี่ยงเส้ามีปฏิกิริยาตอบโต้ เอ่ยพึมพำ “ลิเหลียงไม่ใช่ลูกแท้ๆของเจ้าบ้านลิ…”
“ลิเหลียง คุณพูดมา หรือว่าเป็นคุณจริงๆที่คอยบงการเสินเฟิง?”
“เป็นคุณที่สั่งให้เขาทำเรื่องเหล่านั้น!”
เพียงคำพูดเดียวพลันปลุกผู้คนให้ตื่นจากความฝัน!
ผู้คนในสถานที่แห่งนี้ต่างแสดงสายตาหวาดผวาจับจ้องไปทางลิเหลียง
เมื่อเรื่องนี้มาถึงจุดนี้แล้ว ลิเหลียงนั้นสงบลง เขาไม่เพียงแต่ไม่หนี ทว่าเขากลับเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง
“ให้ฉันพูดก็แล้วกัน”
“ถูกต้อง เรื่องเหล่านี้ฉันเป็นคนทำเอง”
“จุดประสงค์ของฉันคือการรวบรวมการค้าทางใต้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และในขณะเดียวกันก็มีวิชาบู๊ด้วย”
“ในเมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผยแล้ว งั้นฉันจะบอกพวกคุณ”
“ตอนนี้ พวกคุณมีเพียงสองทางให้เลือกเดิน เส้นทางแรก คอยติดตามฉัน ฉันจะมอบความมั่งคั่งและความร่ำรวยที่พวกคุณนั้นจินตนาการไม่ถึง”
“อีกเส้นทางหนึ่ง ต่อต้านฉัน—”
“เช่นนั้นมีเพียงแค่สถานการณ์เดียวเท่านั้น ตาย!”
เมื่อเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา นัยน์ตาของเขาเป็นประกาย ท่าทีของเขาราวกับแข็งแกร่งขึ้น ไหนเล่าที่จะมีสักครึ่งหนึ่งที่เหมือนกับคุณชายผู้อ่อนโยน
เห็นได้ชัดว่าเป็นสัตว์ร้ายที่มีความทะเยอทะยาน
ราวกับราชสีห์อย่างไรอย่างนั้น ในสายตาของเขา คนเหล่านั้นทั้งบนเวทีรวมถึงด้านล่างเวที เป็นเพียงแค่แกะเลี้ยงที่คู่ควรต่อการถูกควบคุมโดยเขา ดิ้นรนมีชีวิตอยู่ภายใต้ความยิ่งใหญ่ของเขา