บัญชามังกรเดือด บทที่ 558 ผู้นำพันธมิตรใหญ่
หลังจากฟังคำพูดของลิเว่ยจงแล้ว ลิฉุนพึ่งรู้สึกตัวขึ้นมาได้ คุณพ่อที่รักใคร่พูดวกไปวนมาตั้งนมนาน คือต้องการให้เธอเป็นตัวแทนของวงศ์ไปลงคะแนนนั่นเอง
เมื่อเห็นท่าทางหยอกล้อในสายตาของบิดาแล้ว ใบหน้างดงาม เหมือนกับทิวทัศน์ที่สดใสและสวยงามของเธอ รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล
เธอพูดอย่างเขินอายว่า:”หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะลงคะแนนให้ใคร……”
“ใช่เหรอ?”ลิเว่ยจงหัวเราะและพูดว่า:”งั้นก็ลงให้ตัวเอง”
“พ่อเชื่อว่า ลูกมีความสารถพอที่จะลงชิงตำแหน่งผู้นำพันธมิตรใหญ่”
“พ่อพูดเรื่องไร้สาระอะไรคะ!”ลิฉุนกัดฟันพูด ในที่สุดก็มองยังที่ฉินเทียนที่อยู่บนเวที
เมื่อเห็นร่างกายรางๆ ของผู้ชายคนนี้ เธอไม่สามารถปกปิดสายตาที่เป็นประกายคู่นั้นของเธอได้
“คุณหนูลิ คุณก็ถูกใจพี่เทียนเหมือนกันใช่หรือไม่?”
“ถ้าใช่ ก็ขึ้นมาอย่างกล้าหาญเถอะ!”จี้ซิงยิ้มอย่างทะเล้นและพูดขึ้น
นายนี่คิดไม่ดีไม่ร้าย จงใจใช้คำว่า”ลงคะแนนสนับสนุน”พูดเป็น”ถูกใจ” จนฟังดูเหมือนจะมีความหมายอื่นเพิ่มขึ้นอีกขั้น
คนบนเวทีและข้างล่างเวที ต่างปล่อยยิ้มออกมากันอย่างรู้ใจ โดยไม่ได้นัดหมาย
มีเสียงตะโกนจากคนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นว่า:”คุณหนูลิ รีบขึ้นไปเถอะ!”
“คะแนนเสียงที่สำคัญขนาดนี้ ต้องลงให้กับคนที่ถูกใจเท่านั้น!”
“ขึ้นไปเลย!”
“เลือกเขา!”
ใบหน้าของลิฉุนราวกับไฟไหม้ อย่างไรก็ตามเสียงโห่ร้องและสายตาหยอกล้อที่เต็มหุบเขา กลับทำให้เธอมีความกล้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เธอกัดฟันและเงยหน้าขึ้น เดินก้าวใหญ่ขึ้นไปทางบนเวที
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้อง ส่งเสียงดีอกดีใจไปทั่ว
เป็นอย่างที่คิด ผู้คนก็มักชอบดูและชอบฟังกับเรื่องที่สวยงามเสมอ
ในเวลานี้มีแสงเรืองรองรัศมีรอบกายของลิฉุน ไม่เพียงแต่มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร้ที่ติแล้ว ยังเป็นทายาทของตระกูลลิอีกด้วย ช่างสมคำเล่าลือที่ว่ามีความสามารถรอบด้านเสียจริง
ส่วนฉินเทียน ต่อสู้กับปีศาจร้าย อย่างดุเดือดในสายเลือดที่ร้อนแรง เป็นต้นแบบหนุ่มวีรบุรุษที่แท้จริง
จะมีเรื่องอะไรที่งดงามไปกว่า สาวงามคู่กับวีรบุรุษอีก
ฉินเทียนหน้าดำคร่ำเครียด พูดในใจว่าพวกนายจะบ้าจี้หยอกล้อไปกับพวกเขากันทำไมเนี่ย!
อัวแต่งงานแล้วโว้ย!
อัวรักแค่คุณภรรยาคนเดียวเท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นลิฉุนเดินมาทางตน ด้วยความรักที่ลึกซึ้งที่ไม่อาจปกปิดได้ในสายตางามนั้น เขาเองก็อดไม่ได้ที่จะว้าวุ่นขึ้นมาในใจอย่างไม่รู้ตัว
“คือว่า คุณหนูลิ ผมไม่อยากเป็นผู้นำอะไรนั่นหรอกครับ……คุณลงคะแนนให้คนอื่นเถอะ” เขาพูดอย่างกระสับกระส่ายเล็กน้อย
ลิฉุนจ้องมองเขาแวบหนึ่ง และพูดฉอเลาะว่า:”งี่ง่าวอะไรกัน?”
“ตามความปรารถนาของทุกคน ฉันเลือกคุณแล้ว”
“ดี!”
“ทำดีได้มาก!”จี้ซิงนำทุกคนร้องโห่กันอีกครั้ง
ตอนนี้ก็เหลือแต่ เจี่ยงเส้า หยางหยวนชิ่งและเฉินเถิงแล้ว
พวกเขามองหน้ากันไปมา ต่างมีสีหน้าที่ขัดแย้งกัน เพราะสำหรับความสามารถ ความกล้าหาญและความรับผิดชอบของฉินเทียน พวกเขาได้เห็นมากับตาตัวเอง และขอเลื่อมใสจากใจจริง
เมื่อครู่ตอนที่คึกคะนองอยู่นั้น ก็เคยร้องโห่ตามไปกับทุกคนว่า จะเชิดชูฉินเทียนเป็นผู้นำ
แต่ตอนนี้เมื่อใจเย็นลงแล้ว พอมาคิดว่าหลังจากที่ฉินเทียนได้ขึ้นเป็นผู้นำพันธมิตรใหญ่ พวกเขาก็ต้องควบคุมโดยฉินเทียนในอนาคต
ทุกคนต่างรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาในใจ
หนึ่งในเหตุผลหลักในนั้น ก็คือพวกเขาเคยเป็นผู้นำในการต่อต้านฉินเทียนมาก่อน
พูดตรงๆ ก็คือถ้าโชคของฉินเทียนแย่กว่านี้อีกสักเล็กน้อยเล่ะก็ วันนี้ก็ถูกลิเหลียงทุบตีตายไปแล้ว
ถ้าเป็นแบบนั้น ฉินเทียนจะต้องแบกรับความอับอายไปหมื่นทศตวรรษ และถูกตรึงไว้กับเสาแห่งความอัปยศไปตลอดกาล ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลมาจากที่พวกเขาหนุนคลื่นลมให้สูงขึ้น (ทำให้ปัญหายิ่งแย่ขึ้นไปอีก)
ดังนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวลว่า หากฉินเทียนได้เป็นผู้นำพันธมิตรใหญ่แล้ว จะกลั่นแกล้งพวกเขาหรือไม่?
แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว การสนับสนุนฉินเทียน ได้กลายเป็นแนวโน้มที่เป็นไปในทางเดียวกันเสียแล้ว
พวกเขาจะไม่เป็นด้วยก็ไม่ได้ นั่นจะทำให้ถูกเจ็ดเมืองทางใต้แยกตัวออกมาอย่างโดดเดี่ยว
ลังเลอยู่นาน ในที่สุด หยางหยวนชิ่งก็กัดฟันพูดขึ้นว่า:”ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน!”
“ก่อนหน้านั้นเราทำผิดต่อฉินเทียน ต่อไปถ้าเขาจะกลั่นแกล้งพวกเรา ก็สมควรแล้ว”
“อั้วยอมรับแล้ว!”
พูดพลาง ก็เดินก้าวใหญ่ขึ้นบนเวทีนำหน้าไป
หลังจากที่เจี่ยงเส้าและเฉินเถิงลังเลอยู่นาน ก็ทำได้แค่ก้มหัวและเดินขึ้นเวทีไป
“คุณฉิน พวกเรายินดีสนับสนุนคุณ!”
“ยกย่องคุณให้เป็นผู้นำพันธมิตรสหภาพธุรกิจใหญ่แห่งเจ็ดเมืองทางใต้!”
พวกเขาพูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก
จนถึงตอนนี้ คะแนนเสียงทั้งสิบเอ็ดเสียงในเมืองล้วนสนับสนุนฉินเทียน
ยอดแชมเปี้ยน!
ฉินเทียนผู้นำพันธมิตรใหญ่!
ดีอกดีใจกันทุกคนจริงๆ!
จี้ซิงหัวเราะเสียงดังลั่น และพุ่งขึ้นมาโอบฉินเทียนอย่างตื่นเต้น
เขาพลางตบหลังฉินเทียนอย่างเต็มแรง และพูดว่า:”พี่เทียน ยินดีด้วย!”
“ยินดีด้วยพี่เทียน!”
ด้านล่างเวที ตะโกนเสียงดังทั่วทั้งหมด:”ยินดีด้วยพี่เทียน!”
“ยินดีด้วยพี่เทียน!”
ในนั้น โดยเฉพาะองค์กรคำสาปสวรรค์ ถือว่าตื่นเต้นที่สุด ที่จริงแล้วเมื่อเทียบกับคนใหญ่คนโตเหล่านี้ที่อยู่ที่นี่แล้ว พวกเขามีชื่อเสียงน้อยที่สุด และไม่มีฐานะทางสังคมแต่อย่างใดเลย
แต่เป็นเพราะทีมแบบนี้เหล่ะ ที่ทำให้พี่ใหญ่กลายเป็นแกะจ่าฝูงในเจ็ดเมืองทางใต้
ช่างเป็นเกียรติยิ่งนัก!
พวกเขาติดตามถูกคนแล้ว!
เถียหนิงซวงดึงมือเถียหลินเฟิงพ่อของเธอ ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ทั้งหัวเราะและกระโดดอย่างกับเด็กหญิงตัวเล็กๆ
“แค่ก แค่ก……”ฉินเทียนกระแอมไออย่างรุนแรง ด้วยสีหน้าขาวซีด และมองไปที่จี้ซิง พูดขึ้นอย่างจนใจว่า:”นายคิดจะตบอั๊วให้ตายหรือไง?”
จี้ซิงจึงดึงสติกลับมาได้ และรีบปล่อยฉินเทียนทันที
เขาพึ่งมองเห็นว่า ที่จริงแล้วฉินเทียนอ่อนแรงมากแล้ว นี่น่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการต่อสู้กับลิเหลียงจนถึงที่สุดเมื่อครู่แน่
เขาหวาดหวั่นเล็กน้อย จึงพูดเสียงเบาว่า:”พี่พูดยืนยันเรื่องนี้สักสองประโยค จากนั้นเรารีบกลับบ้านกัน!”
“ทุกคนเงียบหน่อย และฟังพี่เทียนพูด!”
ที่นั่น เงียบสงบลง และดวงตาหลายร้อยคู่มองไปที่ฉินเทียนที่เต็มไปด้วยความหวัง
ฉินเทียนสงบสติลงครู่หนึ่ง และกวาดสายตาไปช้าๆ ในที่สุดก็เอ่ยปากพูดขึ้น
“ทุกท่าน ขอบคุณความรักและความเมฆตา”
“อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าผมยังเด็กและขาดประสบการณ์ และยากที่จะแบกรับภาระหนักขนาดนี้ได้”
“ดังนั้น ไม่อาจรับ ตำแหน่งผู้นำพันธมิตรนี้ได้ ”
อะรไรนะ?
ทุกคนแย่งชิงตำแหน่งผู้นำพันธมิตรอย่างบ้าคลั่ง แต่ฉินเทียนกลับไม่เอาอย่างนั้นหรือ? ทุกคนตกใจจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก และบางส่วนก็ยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้
“พี่เทียน พี่พูดอะไรน่ะ?”
“พี่คู่ควรกับชื่อเสียงนี้ที่สุดแล้ว ตอนนี้ใช่เวลามาอ่อนน้อมถ่อมตนไหม?” สีหน้าของจี้ซิงเต็มไปด้วยความร้อนรน
ฉินเทียนยิ้มและพูดว่า:”ไม่ใช่ถ่อมตน ความสนใจของฉันไม่อยู่ที่นี่จริงๆ”
“ในเมื่อทุกคนเชื่อมั่นในตัวผม เช่นนั้นผมขอแนะนำท่านหนึ่งให้”
“ชายแกร่งแห่งเจ็ดเมืองทางใต้ อานกั๋ว นายท่านอาน ผู้มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง และประสบการณ์หนาแน่น ผมคิดว่าเขาเหมาะที่จะเป็นผู้นำพัธมิตรมากกว่า”
“แน่นอน ส่วนจะเลือกเขาหรือไม่ นั่นก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของผู้นำในตระกูลอยู่แล้ว”
“ทุกท่าน รบกวนพวกคุณได้โปรดลงคะแนนเสียงอีกครั้งนะครับ”
ฉินเทียนพูดจบ ก็ไอขึ้นสองครั้ง พร้อมถอยหลังออกด้านข้างหลายก้าว นี่ก็แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้วว่า อยากออกห่างจากเรื่องนี้จริงๆ
เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ผู้มีอิทธิพลบนเวทีทุกคน ต่างทำอะไรไม่ถูก
ฉินเทียเหมาะสมที่สุด หากเขาไม่ทำ ในเวลานี้ จะให้เลือกใหม่ได้อย่างไร?
ถึงแม้ว่าอานกั๋วจะมีคุณธรรมสูงส่ง แต่อำนาจและชื่อเสียงของเขาก็อยู่ที่เจี่ยงหนานเท่านั้น และหนานเจี่ยงเกือบจะเป็นเมืองที่อ่อนแอที่สุดเจ็ดเมืองทางใต้ทั้งหมด
คนแบบนี้ จะสามารถควบคุมผู้นำของเจ็ดเมืองทางใต้ได้หรือ?
ไม่พูดถึงคนอื่น ห้าตระกูลใหญ่ในเมืองจิ่นหู ต้องแข็งข้อก่อนอย่างแน่นอน
อานกั๋วเองก็รู้เรื่องพวกนี้ดี เขายิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า:”คุณฉิน แบบนี้คุณไม่ใช่กำลังเอาตาแก่อย่างผมผึ่งเผาอยู่บนกองไฟหรอกหรือ?”
“คุณได้รับความไว้วางใจจากทุกคนให้เป็นผู้นำ ดังนั้นผมคิดว่า คุณคิดพิจารณาอีกครั้งเถอะ?”
“ใช่แล้วพี่เทียน พี่คิดพิจารณาอีกครั้งนะครับ!”จี้ซิงพูดอย่างรีบร้อน
“ฉินเทียน ชายชาตรีและลูกผู้ชาย เมื่อเจอเรื่องใหญ่ ก็ควรรับไว้โดยไม่ลังเลอย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ
“คุณรีบถอนคำพูดเมื่อครู่เถอะ”หลินหลงพูดด้วยความจริงจัง
จ้าวเทียนเผิงพูดและยิ้มแหยๆ ว่า:”ผมเห็นด้วยกับคำพูดของราชินีหลิน”
ส่วนคนที่เหลือย่างหม่าจั๋วชุน หลินตง เหยียนซิวและคนอื่นๆ ต่างก็เกลี้ยกล่อมด้วยความจริงใจ