บัญชามังกรเดือด – บทที่ 582 เฒ่าหัวมังกร

บัญชามังกรเดือด บทที่ 582 เฒ่าหัวมังกร

ฉินเทียนคว้าโทรศัพท์มาอย่างโกรธเคือง กำลังโมโหโทโส

ใครเลยจะรู้ว่า ไม่รอให้เขาพูด จี้ซิงตะโกนกล่าวว่า : “พี่เทียน ได้ยินที่ฉันพูดไหม?”

“ฮัลโหล ฮัลโหล การเชื่อมต่อบ้านี่ สัญญาณก็ไม่ค่อยดี!”

“ฮัลโหล……พี่เทียนคุณไม่พูด ฉันจะวางสายก่อนนะ จำไว้นะ เสร็จแล้วโทรหาฉันด้วยนะ!”

พูดจบ จึงวางสายไป

ซูซูรู้ดีว่า จี้ซิงกำลังจงใจพูดโกหก เรื่องลับของทั้งสองคนเมื่อกี้นี้ ถูกแอบฟังอย่างเห็นได้ชัด

นางอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงก่ำ

“ไม่สนแล้ว ขอจูบก่อน!”

ฉินเทียนโอบกอดซูซู และล้มลงไปอีกครั้ง ทั้งสองคนนัวเนียคลอเคลียกันอยู่สักพักหนึ่ง ซูซูกลัวว่าจะเกินเลย จึงออกแรงผลักฉินเทียน

“คุณยังต้องโทรกลับไปหาคนอื่นอีกนะ”

“ไม่แน่ว่าอาจจะมีเรื่องสำคัญ” เธอพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ฉินเทียนต่อสายออกไปอย่างไม่เต็มใจ และพูดอย่างอารมณ์เสียว่า : “บอกมาสิ มีเรื่องอะไรถึงโทรมาหาฉันแต่เช้า?”

“คุณโทรมารบกวนการนอนของฉัน ถ้าไม่อธิบายอย่างสมเหตุสมผล ฉันจะจัดการทุกครั้งที่เจอเลย!”

ในโทรศัพท์ จี้ซิงรีบขอให้ยกโทษให้ และยังรับประกันอีกว่า เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ยินอะไรเลย

ฉินเทียนหัวเราะ นี่ไม่ใช่ว่าอยากจะปกปิดแต่กลับกลายเป็นเปิดเผยหรอกเหรอ!

ในที่สุด จี้ซิงจึงบอกความจริงอย่างตื่นเต้น

“พี่เทียน ฉันจะแต่งงานแล้วนะ!”

“งานแต่งมีกำหนดอีกเจ็ดวันต่อมา ทั้งเจ็ดเมืองทางใต้ ใครไม่มาก็ได้ แต่คุณจะต้องมา!”

“ใช่สิ พาพี่สะใภ้มาด้วยนะ!”

“ทำไมเร็วขนาดนี้ล่ะ?” ฉินเทียนตกใจเล็กน้อย กล่าวว่า : “พวกคุณรีบร้อนเกินไปหรือเปล่า!”

จี้ซิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง โทรศัพท์ก็ถูกแย่งไป และมีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังทอดเข้ามา

“จำได้นะ ว่าคุณรับปากเรื่องของขวัญของฉัน!”

“ชิงเหยา?” ฉินเทียนกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ : “กำลังจะแต่งงานเร็วๆ นี้แล้ว คุณไม่ควรจะอยู่ที่บ้านหรอกเหรอ?”

“ทำไมคุณยังอยู่ด้วยกันกับเขา? ไม่กลัวจะถูกคนหัวเราะเยาะเอาเหรอ?”

หลิวชิงเหยายิ้มและพูดว่า : “แล้วคุณมายุ่งอะไรกับฉันล่ะ!”

“ฉันเต็มใจ แม่ฉันก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!”

“จำไว้ด้วย ของขวัญของฉัน!”

“ทักทายพี่สะใภ้แทนฉันด้วย พาเธอมาด้วยนะ ลาก่อน”

ฉินเทียนมองมือถือ ด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก เพียงแต่ว่า คู่รักคู่แค้นคู่นี้ในที่สุดก็บรรลุผลในเชิงบวกแล้ว เขาก็ได้คลายปมในใจอีกด้วย

และยังรู้สึกดีใจจากใจจริง

หลิงชิงเหยา ก่อนหน้านี้ซูซูก็เคยเจอแล้ว ในตอนนั้นเธอยังคิดที่จะแก้แค้นฉินเทียนอยู่

แต่เมื่อได้ทราบความจริง ซูซูทั้งตกใจทั้งดีใจ

ไม่ได้ออกจากบ้านมานานแล้ว เธอก็รู้สึกเบื่อหน่ายเช่นกัน ดังนั้นจึงรับปากฉินเทียนว่า ถึงเวลานั้นจะไปเข้าร่วมงานแต่งตระกูลจี้ด้วยกัน

เห็นซูซูดูสดใสกระปรี้กระเปร่า ฉินเทียนก็ถอนหายใจ และกล่าวอย่างละอายใจว่า : “ภรรยา น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถจัดงานแต่งที่สมบูรณ์แบบให้คุณได้”

“มิเช่นนั้น เรามาจัดงานแต่งดีไหม”

ซูซูยิ้มและกล่าวว่า : “ฉันไม่สนใจพิธีการอะไรเหล่านั้นหรอก อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ฉันท้องอยู่ ไม่เหมาะสมที่จะจัดงานหรอก”

“คนแซ่ฉิน ถ้าคุณรู้สึกเกรงใจ ก็รอให้ครบรอบปีที่ 50 ของเราก่อน คุณค่อยจัดงานก็ได้”

“ฉันต้องการงานแต่งงานที่โรแมนติกที่สุดในโลก”

ฉินเทียนมีสีหน้าลุ่มหลง : “ภรรยาของฉันดีจริงๆ เลย”

อดไม่ได้ที่จะกอดอีกครั้ง

ซูซูผลักเขาออก และกล่าวว่า : “ทำไมคุณดูเหมือนเด็กขากดนมเลย!”

“ฉันหิวแล้ว คุณไปทำอาหารเถอะ จู่ๆ ก็อยากทานบะหมี่หยางชุน”

ภรรยาหิวแล้ว นี่คือเรื่องใหญ่!

“น้อมรับคำสั่งครับ!” ฉินเทียนราวกับทำตามพระราชโองการ จากนั้นก็สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก็วิ่งออกไป

ครอบครัวเล็กๆ นี้ของพวกเขา ตลอดมาไม่เคยเปิดไฟ หม้อถ้วยชามทัพพีกะละมัง วัตถุดิบในเครื่องครัวทั้งหมด อยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของหยางยู่หลันกับหม่าเซวี่ย

หลังออกจากบ้านไป ฉินเทียนก็รีบไปที่คฤหาสน์ที่อยู่ไม่ไกล

ฉับพลันก็เห็นว่าที่ศาลาข้างทะเลสาบ มีคนยืนอยู่สองคน คนหนึ่งคือเหลยเป้า อีกคนหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเนี่ยชิงหลง

เขาตกตะลึง และกล่าวว่า : “คุณมาทำอะไร?”

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่บอก?”

มองออกว่า เนี่ยชิงหลงมาที่นี่เป็นเวลานานมากแล้ว

เนี่ยชิงหลงรีบเดินเข้ามา ยิ้มและพูดว่า : “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่มาเยี่ยมพี่ชายของฉันเท่านั้น”

“พี่เทียนของฉันหลับอยู่ ใครจะกล้ารบกวนล่ะ!”

“อืม——”

“ฉินเทียนกล่าวอย่างอารมณ์เสีย ถ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญ เช่นนั้นก็ค่อยคุยกันอีกที ตอนนี้ฉันต้องไปทำอาหารให้พี่สะใภ้ของคุณ”

“ใช่สิ คุณทานแล้วใช่ไหม?”

เนี่ยชิงหลงกล่าวอย่างตื่นเต้น : “ยังไม่ได้ทานเลยครับ——”

“อะไรกัน พี่เทียนคุณไม่จำเป็นจะต้องทำอาหารให้ฉันหรอก……”

ถึงแม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความหวัง อีกด้านหนึ่งคือหิว อีกด้านหนึ่ง ถ้าได้ทานอาหารที่พี่ทำให้ด้วยตัวเอง เขาจะได้ไปคุยโวกับเฉินเอ้อร์กั่วได้

ฉินเทียนเบ้ปาก : “คุณคิดมากไปแล้ว”

“ไม่ได้ทานข้าวก็ทานก่อนเถอะ ทานเสร็จแล้วค่อยคุยกัน”

“จะแนะนำคุณให้ ออกจากบ้านไปหนึ่งกิโลเมตร จะมีทางเข้าซอยเล็กๆ อยู่หนึ่งซอย ร้านแรกทางซ้ายมือทำบะหมี่ร้อนแห้งอร่อยมาก”

“ชามใหญ่ห้าหยวน อิ่มจริงๆ”

“เหลยเป้า คุณพาพี่ใหญ่ของพวกคุณไปเถอะ”

เนี่ยชิงหลงอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก

ทางด้านข้าง เหลยเป้าไม่กล้าหัวเราะ ทำได้เพียงพูดอย่างเชื่อฟัง : “ครับพี่เทียน”

เห็นฉินเทียนไปแล้ว เขาลังเลเล็กน้อย และพูดเบาๆ ว่า : “ราชามังกร คุณต้องการทานบะหมี่ร้อนแห้งไหม?”

เนี่ยชิงหลงพูดอย่างไม่พอใจว่า : “ไสหัวไปเลย!”

“ไปกินกับพ่อแกนะสิ!”

…….

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ฉินเทียนปรนนิบัติให้ซูซูทานบะหมี่หยางชุนชามใหญ่พร้อมไข่ดาวสองฟองเสร็จ จึงมาที่ศาลาอย่างช้าๆ

“มีเรื่องอะไร พูดมาเถอะ”

เขารู้สึก จู่ๆ เนี่ยชิงหลงวิ่งมาหาเขาที่บ้าน จะต้องมีเรื่องมารายงานอย่างแน่นอน

เนี่ยชิงหลงยิ้มและกล่าวว่า : “อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก ก็แค่……พี่ใหญ่ ได้ยินมาว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนที่คุณอยู่ในจิ่นหู ได้เผอิญพบกับคนของมังกรซ่อนรูปใช่ไหม?”

เอ่ยถึง”มังกรซ่อนรูป” สีหน้าของฉินเทียนก็ดูเคร่งขรึมและหม่นหมองเล็กน้อย

เขาพยักหน้า กล่าวว่า : “คุณรู้อะไรมา?”

อาวุธอันแหลมคมของอาณาจักรมังกร มังกรซ่อนรูป เกล็ดมังกรและแก๊งเขี้ยวมังกร

ถึงแม้ว่าเนี่ยชิงหลงจะเป็นผู้นำของเขี้ยวมังกร ขึ้นชื่อในนามราชามังกร แต่คนของมังกรซ่อนรูป เดิมทีแล้วไม่ได้เชื่อมโยงกับเขา

อยู่ต่อหน้ามังกรซ่อนรูป ราชามังกรอย่างเขาคนนี้ ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีเสียงอะไร

แต่อย่างไรเสีย สำหรับมังกรซ่อนรูปแล้ว เนี่ยชิงหลงยังควรรู้เรื่องราวมากมาย

เขาก็ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงที่มังกรซ่อนรูปเข้าร่วมมือในจิ่นหู และกลัวว่าฉินเทียนจะเสียเปรียบ ดังนั้นจึงรีบมาที่นี่เพื่อพูดคุย

“ลูกพี่ของมังกรซ่อนรูป ก็คือเฒ่าหัวมังกรในนามของยุทธภพ ตัวตนของเขาพิเศษอย่างมาก กระทั่งมังกรแท้ท่านนั้น ในบางแง่บางมุม ยังสามารถมีอำนาจเท่าเทียมกันได้”

“เฒ่าหัวมังกรทำแทนมังกรแท้ท่านนั้น จัดการเรื่องราวของยุทธภพในอาณาจักรมังกร มีผู้อาวุโสอยู่ใต้บังคับบัญชาห้าท่าน แบ่งเป็นทางตะวันออกมู่หลง ทางตะวันตกจินหู่ ทางใต้จูจู ทางเหนือเฮยสุ่ย และภาคกลางหวงซาง”

“พี่ใหญ่ จูจูคนนั้นที่คุณเห็นครั้งที่แล้ว ก็คือผู้รับผิดชอบมังกรซ่อนรูปทางใต้ เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในผู้อาวุโสทั้งหมดห้าท่าน และยังอายุน้อยที่สุดด้วย”

“เพียงแต่ว่าตามที่ฉันได้ทราบมา ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่มีอำนาจที่สุด และจัดการได้ยากที่สุดด้วย”

ฉินเทียนนึกถึงครั้งล่าสุด ที่จูจูเผชิญหน้ากับโหวเย๋หวังเหมี่ยนของเกาะตงไห่ ไม่แสดงสีหน้าใดๆ เลยแม้แต่น้อย ช่างเป็นกุหลาบหนามคมจริงๆ

“ทำไมนางถึงจัดการได้ยากที่สุดล่ะ?” เขาอดถามไม่ได้

เนี่ยชิงหลงพูดเบาๆ ว่า : “นี่ถือว่าเป็ความลับภายใน ตามแหล่งข่าวบอกว่า คุณจูจูเป็นหลานสาวของเฒ่าหัวมังกร.

จูหงครับ”