บทที่ 17 ความจริง(1)
เมื่อได้ยินคำว่าอันเชิญกฎตระกูล ไม่ว่าจะเป็นคนอายุน้อยของตระกูลหลี่ หรือผู้อาวุโสรุ่นเดียวกับแม่หลี่ซู่เฟิน ต่างพากันมีสีหน้าตื่นตระหนก
น้าของเฉินโม่สีหน้าซีดเผือก เห็นได้ชัดว่ากฎตระกูล น่ากลัวขนาดไหน!
ลุงใหญ่หลี่ลี่เหวินบหป้าสะใภ้วางเสี่ยวอวิ๋นมองไปทางเฉินโม่ แต่สีหน้ากลับฉายแววมีความสุข
กฎตระกูล รุนแรงกว่าการที่เฉินโม่ทำลายตันเถียนของหลี่เยว่ ไม่งั้นทั้งสองคน คงไม่รามืออย่างแน่นอน
สีหน้าของเฉินโม่ยังคงราบเรียบ มองหลี่ตงหยางเงียบๆ ไม่ยินดียินร้าย กฎตระกูลที่ทำให้คนได้ยินแล้วต้องหน้าเปลี่ยนสี สำหรับเขาแล้ว ก็แค่สิ่งต้อยต่ำ
“เดี๋ยวก่อน!”
เสียงตะโกนอย่างร้อนใจ ดังมาจากด้านนอกประตูลานบ้าน หลี่ซู่เฟินเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย วิ่งกุลีกุจอเข้ามา
มองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว หลี่ซู่เฟินสงบสติอารมณ์ โค้งตัวทำความเคารพพ่อที่เธอทั้งเคารพทั้งเกลียด
จากนั้นหันไปมองหลี่ลี่เหวิน แล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ถึงเสี่ยวโม่ยังเด็กไม่รู้ความ แต่ไม่ใช่คนที่ใจดำอำมหิต ต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน!”
หลี่ลี่เหวินแสยะยิ้มอย่างเจ็บปวดมาก “เข้าใจผิดงั้นเหรอ น้องสี่ หลานชายเธอยังนอนเลือดเต็มตัวอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย เธอบอกฉันหน่อยสิ ว่าเข้าใจผิดยังไง”
หลี่ซู่เฟินมองหลี่เยว่ที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเปล เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ถึงเธอจะเจออะไรหนักหนามาแล้ว แต่ก็อดตกใจไม่ได้ อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
แต่เธอเชื่อว่าลูกชายตัวเองไม่ทำร้ายลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ อย่างไร้เหตุผลหรอก ในนั้นต้องมีเหตุผลที่เธอไม่รู้อย่างแน่นอน
อีกทั้งอีกฝ่ายยังมีคนเยอะขนาดนั้น แต่เฉินโม่กลับมีแค่คนเดียว ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้ว แต่ไม่มีใครพูดแทนเฉินโม่เท่านั้นเอง
“เสี่ยวโม่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่” หลี่ซู่เฟินหันมามองเฉินโม่ ถามด้วยเสียงขรึม
เดิมทีเฉินโม่ไม่อยากอธิบายกับพวกคนตระกูลหลี่ พวกเขาก็ทำอะไรตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อแม่ถาม เฉินโม่จะไม่สนใจไม่ได้
เฉินโม่ยิ้มแหย แล้วพูดว่า “แม่ว่าถึงผมอธิบาย พวกเขาจะเชื่อเหรอ”
หลี่ซู่เฟินเข้าใจความหมายของเฉินโม่ คนตระกูลหลี่ขับไล่พวกเธอสองแม่ลูกอยู่แล้ว ถึงเฉินโม่อธิบาย กลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อน่ะสิ
แต่ถ้าไม่อธิบาย งั้นเท่ากับยอมรับว่าเฉินโม่เป็นคนผิดจริงๆ น่ะสิ
ถ้าเป็นคนผิดจริง พ่อที่จิตใจโหดเหี้ยมต้องใช้กฏตระกูลอย่างแน่นอน
บางทีเฉินโม่อาจไม่รู้ความน่ากลัวของกฎตระกูลหลี่ แต่ในฐานะที่เป็นทายาทรุ่นสองของตระกูลหลี่ หลี่ซู่เฟินรู้ความโหดร้ายของกฎตระกูลดี นั่นก็คือต้องการชีวิตของเฉินโม่!
“พวกเขาไม่เชื่อ แม่เชื่อ ความยุติธรรมอยู่ในใจคน ลูกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นออกมา ให้ผู้อาวุโสของลูกที่อยู่ตรงนี้ ออกความเห็นกัน!”
เฉินโม่เกาหัวอย่างเหนื่อยใจ ใจแม่ยังเพ้อฝันกับคนตระกูลหลี่!
แต่ในเมื่อหลี่ซู่เฟินให้เขาพูด เขาจะไม่พูดก็ไม่ได้
แต่เฉินโม่ ไม่ได้จะพูดด้วยตัวเอง เขาเตรียมจะหาคนที่พูดโน้มน้าวใจได้ มาพูดแทนเขา
เฉินโม่กวาดตามอง พวกวัยรุ่นที่ไม่ใช่สายเลือดทางตรงของตระกูลหลี่ ที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังหลี่เยว่ จู่ๆ เขาก็เดินไปอย่างไม่สนใจใคร จับวัยรุ่นที่โดนเขาจัดการคนหนึ่ง มาตรงหน้าหลี่ซู่เฟิน โดยไม่สนใจการขัดขืนของวัยรุ่นคนนั้น
“ให้เขาพูดแทนผมละกัน เขาเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นอย่างชัดเจน”
หลี่ซู่เฟินตกใจมาก คนตระกูลหลี่ที่อยู่รอบๆ ก็อึ้งเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าวัยรุ่นคนนั้น เป็นพวกเดียวกับหลี่เยว่ เฉินโม่ให้เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น ไม่ต่างอะไรจากการยกหินทุบขาตัวเองไม่ใช่เหรอ
ขนาดวัยรุ่นที่โดนเฉินโม่จับมา ก็มองเฉินโม่อย่างตกใจ ไม่รู้ว่าเฉินโม่มีเจตนาอะไร
เฉินโม่จ้องตาทั้งสองข้างของวัยรุ่นคนนั้น จู่ๆ ในแววตาเต็มไปด้วยการนองเลือด ทำลายล้างโลก พลานุภาพอันแข็งแกร่งที่มาจากจิตวิญญาณ ทำให้วัยรุ่นคนนั้นตกใจมาก
เสียงของเฉินโม่ในหูคนอื่น กลับราบเรียบปกติ แต่เมื่อวัยรุ่นคนนั้นได้ยิน กลับเป็นเหมือนมาจากสรวงสวรรค์ในทางไกล ต้านทานได้ยาก “เล่าเรื่องที่นายรู้ออกมาให้เหมือนเดิม ห้ามโกหกแม้แต่น้อย!”
ทันใดนั้น วัยรุ่นคนนั้นแววตาเหม่อลอย เล่าเรื่องที่หลี่เยว่พาพวกเขาไปสั่งสอนเฉินโม่ เหมือนเดิมตั้งแต่ต้นจนจบ ขนาดคำพูดที่หลี่เยว่ด่าเฉินโม่ เขาก็เล่าออกมาอย่างไม่ตกหล่นเลยแม้แต่คำเดียว
หลังฟังจบ คนตระกูลหลี่ที่มีจิตใจตื่นเต้น ต่างพากันเงียบขรึม ครอบครัวหลี่ลี่เหวิน สีหน้าซีดเผือก อับอายและรู้สึกผิดมาก
หลี่ซู่เฟินโกรธจนตัวสั่น มองหลี่ลี่เหวินอย่างโมโห พูดอย่างเย็นชาว่า “พี่ใหญ่ นี่คือลูกชายที่ดี ที่พี่อบรมสั่งสอนออกมา! ด่าอาตัวเองว่าเป็นผู้หญิงหน้าไม่อาย ด่าลูกพี่ลูกน้องของตัวเองว่า……”
หลี่ซู่เฟินพูดคำนั้นออกมาไม่ได้จริงๆ
เฉินโม่ยืนอยู่ข้างๆ มองคนตระกูลหลี่ ที่มีสีหน้าแปลกประหลาดอย่างสะใจ ท่าทางไม่สนใจเหมือนไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
หวางเสี่ยวอวิ๋นเถียงว่า “ถึงหลี่เยว่พูดไม่รู้จักกาลเทศะ เฉินโม่ก็ไม่ควรลงมือรุนแรงขนาดนี้ ตอนนั้นเห็นได้ชัดว่าเฉินโม่ควบคุมเยว่เอ๋อร์แล้ว ทำไมต้องทำร้ายเขาอีก!”
“อีกอย่าง ฉันไม่รู้สึกว่าเยว่เอ๋อร์ทำผิดอะไร ในเมื่อตอนนั้นเธอทำเรื่องพวกนั้นได้ อย่าบอกนะว่ากลัวคนอื่นต่อว่างั้นเหรอ”
“หุบปาก!” หลี่ลี่เหวินตวาดอย่างโมโห จากนั้นจึงรีบอธิบายว่า “น้องสี่ พี่สะใภ้เธอเสียใจเกินไป เลยพูดเพ้อเจ้อ เธออย่าใส่ใจเลย!”
บทที่ 16 ทำลาย(2)
บทที่ 18 ความจริง(2)