บทที่ 22ซื้อหยก(2)
เฉินโม่พูดว่าตัวเองถูกใส่ความ เขาแค่อยากเจอพี่สาว ซึ่งรักเขามาตลอดในชาติที่แล้ว ก็แค่นั้น แต่จู่ๆ เฉินโม่นึกขึ้นมาได้ว่า ชาติที่แล้ว ตอนเจอเวินฉิงทุกครั้ง เขาจงใจอ้อนซบอกเวินฉิง เขาอดคิดถึงความรู้สึกนั้นไม่ได้ เฉินโม่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที
เวินฉิง สวยและมีความสามารถ อายุมากกว่าเฉินโม่เพียง 4 ปี ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขา เป็นเด็กกำพร้า ที่แม่รับมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ชุบเลี้ยงขึ้นมา จนตอนนี้กลายเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถของหลี่ซู่เฟิน
เฉินโม่รู้ว่าชาติก่อน แม่มีความคิดจะจับคู่เขากับเวินฉิง แต่เวินฉิงเจียมเนื้อเจียมตัวมาตลอด คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงต่ำต้อยในตระกูลเฉินโม่มาตลอด คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเฉินโม่ ต่อมาตระกูลเฉินโม่เกิดเรื่อง เวินฉิงยอมแต่งงานกับคู่แข่ง เพื่อปกป้องเฉินโม่
ถึงผ่านไปหกร้อยปีแล้ว เวินฉิงยังคงเป็นความเจ็บปวดในใจเฉินโม่ ที่มิอาจหายไปได้!
“พี่เวินฉิงวางใจเถอะ ในเมื่อสวรรค์ให้ผมกลับมาเกิดใหม่ ชาตินี้ ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง!” เฉินโม่สาบานในใจเงียบๆ
หลุดออกจากความคิด เฉินโม่มองแม่ หัวเราะแล้วพูดว่า “ในเมื่อพี่เวินฉิงไม่อยู่ งั้นผมกลับอู่โจวก่อนละกัน มะรืนต้องไปเอาใบคะแนนด้วย!”
หลี่ซู่เฟินกลอกตามองบนใส่เฉินโม่ พูดแซะว่า “พอได้ยินว่าพี่เวินฉิงของลูกไม่อยู่ ก็จะรีบกลับอู่โจวเลยเหรอ ก็ถูก เหมือนว่าสาวน้อยที่บ้านอาอาน จะอยู่ห้องเดียวกับลูกด้วยนิ ได้ยินว่าไม่กี่ปีมานี้ เป็นสาวสวยเลยใช่ไหม”
เฉินโม่รีบขัดไม่ให้หลี่ซู่เฟินพูดต่อ “แม่ รถมาแล้ว แม่กลับไปก่อนเถอะ ที่บริษัทยังมีงานรอแม่กลับไปจัดการอีกเยอะ ผมไม่ส่งแม่แล้วนะ อ้อ ถ้าแม่เจออะไรลำบาก ต้องโทรหาผมนะ!”
พูดจบ เฉินโม่โบกรถแท็กซี่ที่กำลังขับเข้ามา แล้วดันแม่เข้าไปนั่งเบาะหลัง
“ไอ้เด็กคนนี้ รู้จักอายด้วยเหรอ แต่ถ้าลูกสนใจสาวน้อยของตระกูลอานจริงๆ บอกแม่ได้เลยนะ ถึงน้าเหมยไม่ได้พูดอะไรชัดเจน แต่ก็พูดเป็นนัยๆ ตั้งหลายครั้ง……”
เฉินโม่ปวดหัวมาก รีบตะโกนบอกคนขับรถ “ไปเหม่ยหวา กรุ๊ป ขอบคุณครับ!”
“จำไว้ว่าถ้าเจอปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ แม่ต้องโทรหาผม!” เฉินโม่หันมาเกาะกระจกรถ แล้วพูดกำชับอย่างจริงจังอีกรอบ
หลี่ซู่เฟินไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเฉินโม่ พูดลอยๆ ออกไปว่า “รู้แล้ว พูดจริงๆ นะ ลูกรู้สึกยังไงกับสาวน้อยตระกูลอาน ถ้าโอเค ก็พูดเป็นสัญญาณให้แม่หน่อย”
มองรถแท็กซี่ขับไกลออกไป คำพูดของหลี่ซู่เฟิน ที่ยังพูดไม่จบดังอยู่ในหู เฉินโม่มีสีหน้าโล่งอก และหันไปโค้งคำนับทางหลี่ซู่เฟิน
“ไว้เจอกันนะแม่ เดินทางปลอดภัย!”
หันกลับมา เฉินโม่เรียกแท็กซี่อีกคัน กลับไปยังอู่โจว
เมื่อกลับถึงอู่โจว เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว เฉินโม่หาร้านทานข้าว จากนั้นจึงไปถนนซีหยวน
ถนนซีหยวน ในความทรงจำชาติก่อนของเฉินโม่ มีชื่อเรียกว่า พันเจียหยวนน้อยแห่งยานจิง เฉินโม่ไม่ได้ไปหาของโบราณ แต่อยากไปซื้อหยกสักสองสามชิ้น เพื่อใช้วางค่ายกลรวมพลังทิพย์
ตอนนี้ดาวไอกา ชี่ทิพย์น้อยมาก เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่แดนรวมพลังเร็วๆ เฉินโม่จะพึ่งการฝึกฝนตามปกติไม่ได้ อีกทั้งค่ายกลรวมพลังทิพย์ เป็นค่ายกลที่โลกบำเพ็ญเซียนใช้เป็นพื้นฐาน เหมาะสำหรับเฉินโม่ในตอนนี้เป็นที่สุด
จ่ายเงินค่ารถสิบหยวน เฉินโม่มาถึงถนนซีหยวน
อันที่จริงถนนซีหยวน เป็นตลาดซื้อขายของโบราณ ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง มีทั้งของจริงของปลอม จะหาของดีมาได้หรือเปล่า ล้วนขึ้นอยู่กับสายตาของแต่ละคน
เฉินโม่รู้ว่า ตอนนี้หยกพวกนั้นบนดาวไอกา ในโลกบำเพ็ญเซียนยังไม่นับว่าเป็นเศษหยก แต่สำหรับการวางค่ายกลพื้นฐานแบบค่ายกลรวมพลังทิพย์ น่าจะพอใช้ได้
เข้ามาในตลาด เฉินโม่ไม่วอกแวก เดินตรงไปข้างหน้า ผ่านร้านค้าต่างๆ แต่ไม่สอบถามอะไรทั้งนั้น การเลือกหยก เฉินโม่ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีธรรมดาในการประเมินค่า เพียงแค่มีหยกคุณภาพดี ในระยะห้าเมตรรอบตัวเขา ไม่มีทางหลุดรอดความรู้สึกของเฉินโม่ไปได้
หยกเป็นวัสดุชนิดหนึ่ง ที่โลกบำเพ็ญเซียนนิยมใช้มากที่สุด มีชี่ฟ้าดินแฝงอยู่ในตัว
ระดับของหยก มีทั้งสูงและต่ำ สามารถนำมาทำแผ่นหยกสื่อสาร ปลดปล่อยน้ำทิพย์ยา หรือนำมาหลอมอาวุธวิเศษ
ดังนั้น เฉินโม่ที่เป็นผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพ แรงดึดดูดที่มีต่อหยก เหมือนกับคนมองดวงดาวบนท้องฟ้า ยามค่ำคืนอันสดใส ที่ไหนมีหยกคุณภาพไม่เลว เฉินโม่จะสัมผัสได้ทันที
เดินผ่านมาสิบกว่าร้าน เฉินโม่รู้สึกผิดหวัง ไม่เจอหยกที่มีคุณภาพสักชิ้น
“คิดไม่ถึงว่าดาวไอกาตอนนี้ จะไร้ความอุดมสมบูรณ์ถึงขนาดนี้ ขนาดหยกที่แฝงชี่ฟ้าดินสักชิ้น ก็ยังไม่มี!” เฉินโม่ส่ายหน้าเงียบๆ
เอ๊ะ!
จู่ๆ เขาชะงักฝีเท้า หันไปมองร้านแผงลอยด้านหน้า
ร้านแผงลอยร้านนี้ มีสินค้าอย่างเครื่องหยก รูปภาพ ที่คล้ายกับร้านอื่นวางอยู่ แต่เจ้าของร้านหลังแผงลอย ดูแปลกเล็กน้อย เป็นผู้อาวุโสในชุดนักพรต
บทที่ 21 ซื้อหยก(1)
บทที่ 23 ซื้อขาย(1)