แดนนิรมิตเทพ – บทที่ 32 ใครเป็นตัวตลก(2)

บทที่ 32 ใครเป็นตัวตลก(2)

บทที่ 32 ใครเป็นตัวตลก(2)
แต่เธอในฐานะที่เป็นผู้อาวุโส ไม่สามารถทนมองดูเด็กเหล่านี้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเงินที่ผู้ปกครองหามาอย่างยากลำบากตามอำเภอใจได้ อีกอย่างเมื่อผู้ปกครองที่บ้านรู้เรื่องเข้า จะคิดว่าครอบครัวของพวกเขาจงใจให้หยาวหยาวเล่นลูกไม้หลอกเงินของเพื่อนนักเรียน!
ในเวลานี้ สายตาของทุกคนจดจ่อไปที่เฉินโม่อย่างหักห้ามใจไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าเฉินโม่จะใจกว้างขนาดนี้ แต่ มีเพียงเฉินโม่ที่เข้าใกล้เคาน์เตอร์เก็บเงิน
เจี่ยงหยาวก็เข้าใจถึงความร้ายแรงของเรื่องราว ถ้าหากเป็นเพราะเธอเชิญเพื่อนๆมาทานข้าวด้วยเจตนาดี แต่ทว่าทำให้เพื่อนร่วมชั้นบางคนถูกพ่อแม่ลงโทษ ต่อไปเธอก็ไม่มีหน้าไปโรงเรียนแล้ว
“ใครเป็นคนมอบให้กันแน่?รีบยอมรับมา ไม่งั้นฉันจะโกรธแล้วนะ!”คำนี้เห็นชัดๆว่าสอบถามทุกคน แต่สายตาของเจี่ยงหยาวจ้องมองที่เฉินโม่ตลอด
สองมือที่กำลังประกบกันอยู่ใต้โต๊ะ ค่อยๆผ่อนคลายลง เฉินโม่ทำได้เพียงลุกขึ้นยืนอย่างจนใจ ฝืนยิ้มพร้อมพูดว่า : “คุณป้า น้ำใจเล็กน้อยๆ ไม่เพียงพอที่จะแสดงความเคารพที่มีต่อป้า ป้าไม่ต้องกังวล ผมเฉินโม่ไม่ใช่คนที่ไม่เจียมตัวแบบนั้น ”
“เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามา เดิมทีอยากจะมอบให้ป้า แต่ป้าถูกหยาวหยาวผลักเข้าไปหลังครัว ถ้าหากให้หยาวหยาว เธอต้องไม่รับแน่นอน เพราะงั้น ผมก็ทำได้เพียงวางไว้ที่เคาน์เตอร์เก็บเงินครับ”
ได้ยินที่เฉินโม่พูด สีหน้าของแม่เจี่ยงหยาวก็บรรเทาลงไม่น้อย แต่ยังคงยืนกรานในมุมมองของตัวเอง : “งั้นก็ไม่ได้ นี่มันมากเกินไป แกจะต้องเอากลับไป เก็บไว้แค่หนึ่งร้อยหยวน แสดงน้ำใจก็พอแล้ว”
“หยาวหยาว เอาเงินส่วนที่เหลือคืนให้เสี่ยวโม่”แม่ของเจี่ยงหยาวสีหน้าจริงจัง
“ค่ะ!”เจี่ยงหยาวยิ้มหน้าบาน สาวเท้าเดินไปมายังข้างกายของเฉินโม่ เก็บไว้แค่หนึ่งร้อยหยวน นำเงินเก้าร้อยหยวนที่เหลือยัดใส่กระเป๋ากางกางของเฉินโม่
มองไปยังเฉินโม่ นัยน์ตาของเจี่ยงหยาวสาดส่องความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ พูดน้ำเสียงเบาๆว่า : “พี่เฉินโม่ ฉันเข้าใจในน้ำใจของพี่แล้ว แต่ว่า เงินเหล่านี้มันมากเกินไปจริงๆ พี่เชื่อฟังที่แม่ฉันพูดนะ เก็บเงินกลับไปเถอะ!”
Smart address bar. th.readeraz.com แดนนิรมิตเทพ บทที่ 32 ใครเป็นตัวตลก(2) – th.readeraz
เฉินโม่ค่อนข้างจนใจ ลูบๆลูกผมตรงหน้าผากของเจี่ยงหยาวอย่างสนิทสนม ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ได้ ผมฟังที่คุณป้าพูด!”
แม่ของเจี่ยงหยาวยิ้มพร้อมพูดว่า : “ฟังป้าน่ะถูกต้องแล้ว ป้าผ่านประสบการณ์มามากกว่าพวกแกเยอะ มาๆๆ ทำให้ทุกคนรอนานแล้ว ตอนนี้ทานอาหารอย่างเป็นทางการ!”
“หยาวหยาว แกไปเรียกทุกคน ฉันจะไปช่วยพ่อของแก!”
“อืม รู้แล้วค่ะ แม่วางใจเถอะ!”
แม่ของเจี่ยวหยาวเดินออกไป ไม่มีผู้อาวุโสอยู่ บรรยากาศระหว่างเพื่อนนักเรียนก็ผ่อนคลายลงหน่อย
แต่ว่า เพื่อนนักเรียนเหล่านั้นที่เพิ่งจะหัวเราะเยาะที่เฉินโม่มามือเปล่า แต่ละคนโกรธจนหน้าแดงไปหมด ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
มีเพียงเพื่อนสามสี่คนนั่นที่สนิทสนมกับเฉินโม่ แต่ละคนต่างก็มีสีหน้าที่ดีอกดีใจ ตื่นเต้นอย่างกับโดนฉีดเลือดไก่เลย รู้สึกยินดีปรีดาหลังจากที่ตกอยู่ในสภาพยากลำบากมานาน!
จ้าวกางหัวเราะเหอะๆ พูดว่า : “เมื่อกี้ใครพูดว่าเฉินโม่ไม่มีของขวัญให้หยาวหยาว?”
หยางซง เพื่อนนักเรียนอีกคนหนึ่งที่สนิทสนมกับเฉินโม่ รีบเรียนเสียงพูดของโจวหาวทันที : “จ้าวกาง เห็นไหม ต้นไม้เรียกทรัพย์นั่นฉันเป็นคนมอบให้หยาวหยาวเอง ไม่แพง แค่สามร้อยกว่าหยวน!”
หยางซงเลียนแบบได้เหมือนจริง ทำให้กลุ่มเพื่อนๆต่างพากันหัวเราะ สายตาที่มองไปยังโจวหาวเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น
โจวหาวโมโหจนสีหน้าแดงก่ำเหมือนตับหมู แทบอยากจะมุดดินหนี
เดิมทีเห็นเฉินโม่มามือเปล่า คิดอยากจะถือโอกาสนี้โจมตีเฉินโม่ ทำให้เจี่ยงหยาวปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ที่มีต่อเขา กลับคิดไม่ถึงว่า เฉินโม่คนไอ้หมอนี้จู่ๆจะเล่นไม้นี้ ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกที่สุดในงาน!
“เหอะ ไอ้เด็กคนนี้จะต้องจงใจแน่นอน ได้ คอยดู!”โจวหาวแอบเกลียดชังในใจ
แม้ว่าเจี่ยงหยาวไม่ชอบโจวหาว แต่เธอรู้ว่าพ่อแม่ของโจวหาวก็ทำธุรกิจบนถนนสายนี้เช่นกัน ถือว่าเป็นบุคคลที่มีเกียรติมีชื่อเสียงของถนนสายนี้ บ้านของเธอก็ทำธุรกิจอยู่ที่ถนนสายนี้เช่นกัน ต่อไปก็ยังต้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัวโจวหาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะงั้นเจี่ยงหยาวไม่อยากให้โจวหาวดูแย่เกินไป รีบออกหน้ามาไกล่เกลี่ยให้เข้าใจกัน : “พอแล้วๆ ทุกคนไม่ต้องพูดแล้ว รีบชิมฝีมือการทำอาหารของพ่อฉันว่าเป็นยังไงบ้าง?”
“ใช่ๆ อินข้าวๆ แค่ดมกลิ่นฉันก็น้ำลายไหลแล้ว ไม่ต้องชิม อร่อยมากแน่นอน”จ้าวกางพูดพร้อมยิ้มอย่างมีความสุข
โจวหาวกลับว่าลุกขึ้นยืน พูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า : “หยาวหยาว ห้องน้ำอยู่ตรงไหน?ฉันไปล้างมือหน่อย! ”
เจี่ยงหยาวชี้ไปยังประตูเล็กๆข้างหลังห้องครัว : “เข้าไปข้างในก็คือห้องน้ำ!”
“อืม”โจวหาวสีหน้าอึมครึม เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้ว
ทุกคนคิดว่าโจวหาวเพียงแค่ลดศักดิ์ศรีของตัวเองไม่ลง ใช้โอกาสไปเข้าห้องน้ำเพียงผ่อนคลายความอึดอัด แต่เฉินโม่ที่ได้ยินเสียงไกลกว่าคนทั่วไป กลับได้ยินโจวหาวกำลังโทรศัพท์อยู่ในห้องน้ำ
แต่ว่าเสียงของโจวหาวเล็กเกินไป เฉินโม่ก็ได้ยินไม่ชัดเจนว่าเขากำลังพูดว่าอะไร
ผ่านไปครู่หนึ่ง โจวหาวออกมา ท่าทีเปลี่ยนอย่างกับเป็นอีกคนทันที นั่งที่โต๊ะอาหารพูดไปพลางหัวเราะไปพลางกับทุกคน ลืมความรู้สึกอึดอัดใจเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง!
แม่ของเจี่ยงหยาวเสิร์ฟอาหารคาวที่อร่อยไปหมดในทุกๆด้านไม่ว่าจะรูปรสกลิ่นหรือสีอย่างไม่หยุดหย่อน แม้แต่เฉินโม่ที่กินอาหารอร่อยและราคาแพงทั่วโลกมา ก็มีความอยากอาหาร ใช้ชีวิตมาหกร้อยปีแล้ว กลับกลายเป็นว่าอาหารบ้านๆทั่วๆไป ถูกปากเฉินโม่ที่สุด
และตอนที่ทุกคนกำลังกินกันอย่างมีความสุข จู่ๆก็มีวัยรุ่นเดินเข้ามาสามคน คนที่เดินนำมาคือคนหัวล้านคนหนึ่ง
บทที่ 31 ใครเป็นตัวตลก(1)

บทที่ 33 เสแสร้ง(1)

แดนนิรมิตเทพ

แดนนิรมิตเทพ

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท