บทที่ 55 การดูถูกของเพื่อนร่วมชั้น(1)
“ฮ่าๆ!”
พวกเพื่อนร่วมชั้นไม่สามารถ กลั้นหัวเราะได้
เพื่อนร่วมชั้นบางคนถึงขั้นขำจนท้องแข็ง โดยเฉพาะเพื่อนร่วมชั้นคนที่ไม่ลงรอยกันกับเฉินโม่
แน่นอน คนที่หัวเราะเว่อร์ที่สุด ก็ยังคงเป็นพวกลูกสมุนของเจิ้งหยวนฮ่าว
แต่ เมื่อวานเพื่อนร่วมชั้นที่เห็นเฉินโม่ลงมือเมื่อวาน ไม่มีใครหัวเราะเลยสักคนเดียว ในใจของพวกเขา เฉินโม่ในเมื่อวาน ก็เหมือนพระเจ้าที่น่าเคารพ คุณคิดว่าพระเจ้า จะสนใจผลคะแนนสอบด้วยหรือ?
“เป็นที่หนึ่งของทั้งคู่ แต่น่าเสียดายที่เป็นที่โหล่ ฮ่าๆ!” หลินทาวก็ไม่สนว่าครูประจำชั้นยังอยู่ ก็เริ่มเยาะเย้ยเฉินโม่
“ไอ้สวะอย่างเฉินโม่ ก็แค่ความอัปยศอดสูที่สุดในห้อง 6 ของเรา เขาจะดึงให้เกรดเฉลี่ยของห้องเราต่ำลง!” เจิ้งซิ่วลี่ตัวแทนชั้นเรียนวิชาอักษรและหัวหน้าห้องลุกขึ้นยืน จ้องเฉินโม่ด้วยความโกรธ
“ใช่ ถ้าเป็นเพราะไอ้สวะเฉินโม่คนนี้ ทำให้เกรดเฉลี่ยห้องของเราลดลงในการจัดอันดับของโรงเรียน เขาก็คือคนบาปของห้อง 6 ของเรา!” จ้าวลี่ลี่ตัวแทนชั้นเรียนภาษาอังกฤษก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน และจ้องเฉินโม่ด้วยความโกรธ
“เขาไม่เพียงแค่ดึงให้ห้องของเราล้าหลัง แถมยังถ่วงโรงเรียนอีกต่างหาก เขาจะทำให้โรงเรียนตี้ยีของเรา สูญเสียชื่อเสียงขนานนามโรงเรียนตี้ยีของทั้งจังหวัด! เขาไม่เพียงแต่เป็นคนบาปของห้อง 6 เท่านั้น ก็ยังเป็นความอัปยศอดสูของโรงเรียนตี้ยีของเราด้วย!” ตัวแทนชั้นเรียนคณิตศาสตร์ ก็เป็นลูกชายของรองผู้อำนวยกรของโรงเรียนตี้ยี ฉางซูหัวลุกขึ้นยืน กล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา
ตัวแทนทั้งสามออกหน้ามาวิจารณ์เฉินโม่ ทันใดนั้น นักเรียนคนอื่นๆก็ลุกขึ้นยืนและออกมา ว่าเฉินโม่เสียงดังจนทำให้ขายหน้า
ครูประจำชั้นก็ดูเหมือนต้องการให้เฉินโม่ได้รับการโจมตีเหล่านี้ เพื่อให้รู้ถึงความล้มเหลวแล้วกลายเป็นแรงจูงใจ ไม่ขัดขวางกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า
สักพักหนึ่ง เฉินโม่ก็กลายเป็นคนบาปของห้องม.6/6 เป็นความอัปยศอดสูของ
เจี่ยงหยาวรับไม่ได้ที่เพื่อนร่วมชั้นพูดจาให้ร้ายเฉินโม่ ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืน และพูดเสียงดังว่า: “พวกแกจะพูดแบบนี้กับเฉินโม่ไม่ได้นะ เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาต้องอยากสอบให้ได้คะแนนดีเหมือนกันนั่นแหละ!”
ในสายตาของเจี่ยงหยาว แม้ว่าแต่ละวิชาของเฉินโม่จะเป็นศูนย์ เฉินโม่ก็ยังคงเก่งที่สุด
จ้าวกางก็ลุกขึ้นยืน และอธิบายเพื่อเฉินโม่ว่า: “ใช่ เฉินโม่ไม่ได้ตั้งใจแน่นอน สอบออกมาเป็นแบบนี้ เขาก็เสียใจมากพอแล้ว เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันทั้งนั้น ทุกคนก็อย่ารุมเขาสิ”
“เหอะ ใครบอกว่าเขาไม่ตั้งใจล่ะ? ถ้าไม่ตั้งใจ ทำไมต้องละทิ้งข้อสอบล่ะ? ฉันว่า เขาตั้งใจชัดๆ!” หัวหน้าห้องเจิ้งซิ่วลี่มองเฉินโม่ด้วยความรังเกียจ และตะโกนว่า: “เฉินโม่ นายกล้าพูดต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นไหมล่ะ ว่านายไม่ได้ตั้งใจ?”
เจี่ยงหยาวและจ้าวกางสีหน้าวิตกกังวล เฉินโม่ละทิ้งข้อสอบ เพื่อนร่วมชั้นทั้งหมดต่างก็เห็นกันหมด ที่มันหมดหนทางอธิบายได้เลย
คำพูดของหัวหน้าห้อง คือบีบให้เฉินโม่ยอมรับจากปากตัวเอง เขาจงใจ
สีหน้าไม่แยแส เฉินโม่เหม่อลอยมองไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ ในที่สุดก็ยากที่จะรักษาความเงียบได้ เขาเหลือบมองเพื่อนร่วมชั้นอย่างถมึงทึง รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
เขาคือผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพผู้สง่างาม สังหารราบคาบภายในพริบตาเดียว ทำไมจะต้องไปสนใจเรื่องการสอบกลางภาคครั้งหนึ่งของครึ่งปีแรกของม.6 ด้วยล่ะ? ถ้าสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาอาจจะจริงจังกว่านี้ก็ได้
แต่ทว่า เฉินโม่กลับไม่สามารถอธิบายเหตุผลเหล่านี้ได้ซะงั้น แม้ว่าพูดออกมาก็ไม่มีใครเชื่อหรอก ก็เปรียบเสมือนกับนักรบเหล็กที่ถูกห่ากระสุนในสนามรบอยู่ทุกวัน กับหญิงสาวที่กังวลที่สุดกับเรื่องสิวขึ้นเต็มหน้า ก็เหมือนกับการสาธยายความล้ำค่าของชีวิต
ทั้งสองคน เดิมทีก็ไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน ความคิดของเฉินโม่ เพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้จะไปเข้าใจได้อย่างไรกัน?
เฉินโม่มองตัวแทนของทั้งสามวิชาอย่างนิ่งๆ แล้วก็ยังมีเพื่อนร่วมชั้นที่โห่ร้องตาม สุดท้ายสายตาก็จับจ้องไปอยู่ที่หัวหน้าห้องเจิ้งซิ่วลี่
“เสียงดังเอะอะโวยวาย!”
หัวหน้าห้องเจิ้งซิ่วลี่ หน้าตาพอดูได้ อยู่ในห้าอันดับแรกของชั้นเรียน แต่เป็นเพราะหน้าอกแบนเกินไป คะแนนความสวยจึงลดลงมาก
แต่ตอนนี้ เจิ้งซิ่วลี่ที่โมโหหน้าอกเดิมทีที่แบนราบ ก็กระเพื่อมอย่างรุนแรง
บทที่ 54 ประกาศผลสอบ(2)
บทที่ 56 การดูถูกของเพื่อนร่วมชั้น(2)