บทที่ 241
คุณชายหวางเหมือนกับกลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวาย เขาหัวเราะเยาะเย้ยออกมาและพูดว่า “คุณชายหลิว ได้ยินหรือเปล่า มันจะตบแกให้ตายเลยว่ะ ! ฮา ฮา นี่มันเห็นแกไม่ต่างไปจากขยะเลยไม่ใช่หรือวะ ?”
ฮาฮาฮา…
รอบข้างมีเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น
ฉือรุ่ยปิงใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เขาต้องการให้เฉินโม่สวนเขากลับไป เพียงแค่เฉินโม่กล้าก่อความวุ่นวายที่นี่ขึ้น ก็จะเป็นการเชื้อเชิญให้เจ้าของสโมสรออกมา แล้วจากนั้นเฉินโม่จะต้องรับกับผลกรรมที่เขาได้ก่อขึ้น !
คุณชายหลิวเคยถูกคนมากมายขนาดนี้หัวเราะเยาะใส่ซะเมื่อไหร่ ? เพียงไม่นานเขาก็โมโหด้วยความเขินอาย จ้องมองไปยังเฉินโม่อย่างดุร้าย “จะตบฉันให้ตายเนี่ยนะ ? ได้ งั้นฉันจะยืนอยู่ที่นี่ ลองดูว่าแกจะตบฉันให้ตายได้มั้ย ถ้าแกไม่กล้าล่ะก็ แกมันก็แค่คนขี้ขลาด !”
สโมสรว่านหาวมีกฎระเบียบอยู่ว่า จะต้องไม่สร้างความวุ่นวาย หากมีปัญหาอะไรกันก็ให้ออกไปจัดการด้านนอก หากเกิดความวุ่นวายในสโมสรขึ้น จะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติหัวหน้า
หัวหน้าสโมสรว่านหาว คือลูกชายใหญ่ของผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในฮ่านหยาง ว่านเหวินโยว ในแวดวงคนร่ำรวยในฮ่านหยาง ตำแหน่งของว่านเหวินโยวนั้นเทียบได้กับระดับไท่จื่อเลย ไม่เคยมีใครกล้าสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับเขามาก่อน
หากกล้าก่อความวุ่นวายขึ้นภายในสโมสรแห่งนี้ นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ไว้หน้าว่านเหวินโยว จุดนี้ทำให้คุณชายหลิวคิดว่าเฉินโม่จะไม่กล้าทำอะไรกับเขาแน่นอน
เวินฉิงกังวลว่าเฉินโม่จะทนไม่ไหวและเผลอลงมือทำร้ายคุณชายหลิว เธอจึงรีบดึงเฉินโม่เอาไว้และกระซิบบอกไปว่า “เสี่ยวโม่ อย่าไปทำความรู้จักกับคนพวกนี้เลย ไปด้านนู้นกันเถอะ”
เมื่อเห็นว่าเวินฉิงกำลังจะไป คุณชายหลิวก็ยิ่งทำตัวผยอง ตะโกนใส่เฉินโม่ด้วยความเหยียดหยาม “จะไปแล้วหรือ ? แกจะไม่ไหนไม่ได้ นอกเสียจากว่าแกจะยอมรับมาก่อนว่าตนเองเป็นไอ้ขี้ขลาด”
คุณชายหวางหัวเราะเยาะเย้ย “จะขยะหรือคนขี้ขลาดก็ไม่ได้ต่างกัน ถ้ายอมรับก็ไม่เป็นไรนี่นา”
“ฮา ฮา …” ทุกคนมองไปยังเฉินโม่ด้วยความสะใจ พวกเขามั่นใจว่าเฉินโม่ไม่มีทางกล้าลงมือเด็ดขาด
เวินฉิงเริ่มรู้สึกโมโห เตรียมที่จะต่อว่าคุณชายหลิว แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกได้ว่ามือที่ดึงเฉินโม่ไว้นั้นมันกลับว่างเปล่า
เปรี้ยง !
เสียงดังสนั่นลั่นชัดเจน ทั้งดัง ทั้งรุนแรง
คุณชายหลิวถูกตบจนร้องลั่น ปลิวกระเด็นออกไป
แน่นอนว่าเฉินโม่ยังมีความเมตตาอยู่ ไม่อย่างนั้นหัวของคุณชายหลิวคงได้ย้ายที่อยู่แล้ว
ๆ กรีดร้อง ทำท่าวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปพยุงคุณชายหลิวขึ้นมา และถามด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณชายหลิว
ในวินาทีนั้น ทั่วทั้งพื้นที่ก็เงียบสนิท !
การตบในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าของคุณชายหลิวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงใบหน้าของเศรษฐีรอบ ๆ ที่เยาะเย้ยเฉินโม่ว่าเขาไม่มีทางกล้าลงมือแน่นอนด้วย
ฉือรุ่ยปิงใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข จนเผลอแอบกรีดร้องอยู่ในใจ “เด็กน้อย แกกล้าลงมือจริง ๆ ด้วย ทำได้ดีมาก งั้นแกก็เตรียมตัวรับความโกรธเกรี้ยวของคุณชายว่านได้เลย !”
เหล่าลูกเศรษฐีสีหน้าเปลี่ยนไปจนแทบดูไม่ได้ จ้องมองไปยังเฉินโม่ด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“เด็กน้อย กล้าลงมือในที่แบบนี้ นับว่าแกกล้ามาก !”
“ฉันคิดว่าดูแล้วไม่น่าจะใช่ความกล้า น่าจะเป็นความโง่เง่ามากกว่า ถึงกับกล้าทำให้คุณชายว่านขุ่นเคืองใจ ไม่ต้องเป็นถึงนายน้อยขยะหรอก ขนาดเหม่ยหวากรุ๊ปยังไม่อยากเหลียวแลเลย !”
ทุกคนต่างดูถูกเหยียดหยาม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอบยิ้มชั่วร้าย
เวินฉิงรีบดึงเฉินโม่ออกมาอย่างร้อนรน พลางต่อว่าไปว่า “เสี่ยวโม่ นายจะหุนหันพลันแล่นเกินไปแล้ว ! ตอนนี้วุ่นวายกันไปใหญ่แล้ว !”
คุณชายหลิวเอามือจับที่ใบหน้า มือข้างหนึ่งผลักหญิงสาวออกไป ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากพื้น ใบหน้าดูโหดร้าย ยังคงอยู่ในความสับสนเล็กน้อย แม้จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่เชื่อว่าเฉินโม่จะกล้าลงมือตบเขาจริง ๆ !
“ไอ้ขยะ เอ็งกล้าตบข้าหรือวะ ? ฉันจะฆ่าแก !” พูดจบ จู่ ๆ เขาก็พุ่งเข้าไป
ในขณะที่เฉินโม่ที่กำลังเตรียมตัวจะตบเขาให้ลอยไปอีกครั้ง เสียงราบเรียบเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “หยุดก่อน !”
น้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม ทำเอาคนได้ยินไม่กล้าต่อต้าน
ทุกคนต่างตกตะลึง !
“คุณชายว่าน คุณชายว่านมาแล้ว !”
ฉือรุ่ยปิงสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข จนตอนนี้เขายิ่งได้ใจมากขึ้นไปอีก “ฮา ฮา คุณชายว่านมาแล้ว เฉินโม่ ขยะอย่างแกต้องตายแน่ ๆ !”
เฉินโม่ที่กำลังจะตอบโต้คุณชายหลิวกลับไปก็หยุดฝีเท้าลง เขาหยุดยืนอยู่กับที่ หันไปมองยังผู้มาเยือน ด้วยสีหน้าตกตะลึง