บทที่ 233
พนักงานต้อนรับหญิงสองคนที่อยู่บนล็อบบี้กังวลใจมากๆว่าเฉินโม่จะไปฟ้องประธานกรรมการหลี่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของฉือรุ่ยปิง ทำให้พวกเธอวางใจทันที เขาเป็นเด็กเกเรนี่เอง ถึงแม้เขาจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องประธานกรรมการหลี่ ประธานกรรมการหลี่ก็คงไม่เชื่ออยู่แล้ว
พนักงานต้อนรับหญิงมองเฉินโม่ด้วยสายตาที่ดูถูกทันที
“เสี่ยวโม่พวกเราไปกันเถอะ ฉันจะพานายและเพื่อนของนายไปพักผ่อนเอง”เวินฉิงมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากฉือรุ่ยปิง เธอก็เลยไม่อยากจะผิดใจกับอีกฝ่าย เธอก็เลยพาเฉินโม่จากไปทันที
อย่างไรก็ตาม ฉือรุ่ยปิงอยากจะทำให้เฉินโม่อับอายขายขี้หน้า และอยากจะแสดงความสามารถของตัวเองต่อหน้าสาวงามอย่างเวินฉิงกับเอียนชิงเฉิง เขาจะยอมให้เฉินโม่จากไปอย่างง่ายๆเหรอ?
ฉือรุ่ยปิงเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว และยืนบังอยู่ด้านหน้าเวินฉิง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกและเจ้าเล่ห์:”เลขาเวิน ถ้าคุณจากไปแบบนี้ ถ้างั้นงานประชุมช่วงบ่ายฉันจะไม่ไปพร้อมกับคุณแล้ว ถ้าถึงเวลาหาคนมาร่วมลงทุนไม่ได้……”
เขายังไม่ทันพูดจบ สีหน้าของเวินฉิงก็เปลี่ยนไปทันที เธอพูดขัดจังหวะทันที:”ฉือรุ่ยปิง คุณกล้าเปิดเผยความลับของบริษัทเหรอ ถ้าประธานกรรมการหลี่ตำหนิลงมา แม้แต่กรรมการฉือก็คงมีปัญหาอย่างแน่นอน!”
สีหน้าของฉือรุ่ยปิงรู้สึกผิดหวังมากๆ:”ไม่พูดก็ได้ ยังไงซะฉันก็พูดไว้แล้ว ถ้าคุณอยากไปก็ไปได้เลย!”
เมื่อพูดจบ สองมือของฉือรุ่ยปิงใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง แสดงสีหน้าเย่อหยิ่งออกมา
“คุณ……”เวินฉิงโกรธจนหน้าแดง เมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินโม่ เธอก็ไม่กล้าพูดทั้งหมดออกมา เพราะกลัวว่าเฉินโม่จะเป็นห่วง ทำให้ฉือรุ่ยปิงเย่อหยิ่งอวดดีมากๆ
ในเวลานี้ เวินฉิงเดินจากไปก็ไม่ได้ อยู่ต่อก็ไม่ได้
เฉินโม่มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น จากคำพูดล่อกแล่กของเวินฉิง และการยอมทำตามที่ฉือรุ่ยปิงพูด ทำให้เฉินโม่รู้ทันที น่าจะเกิดปัญหากับเหม่ยหวากรุ๊ปแล้ว
“เมื่อชาติที่แล้ว เขาจำได้ว่าเหม่ยหวากรุ๊ปเกิดเรื่องวิกฤตหลังตรุษจีน จากท่าทางของพี่เวินฉิงที่แสดงออกมา วิกฤตของเหม่ยหวากรุ๊ปได้เกิดขึ้นก่อนแล้ว มิฉะนั้น ฉือรุ่ยปิงเพียงแค่คนเดียว ไม่กล้าอวดดีต่อหน้าพี่เวินฉิงอยู่แล้ว!”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เวินฉิงไม่ยอมพูด เฉินโม่ก็ไม่อยากถามเรื่องนี้ เขาจำได้ว่าชาติที่แล้ว วิกฤตครั้งนี้ถูกคุณแม่จัดการได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเหอฮุ่ยกรุ๊ปจากมณฑลยู่หนานร่วมลงทุนด้วย ทำให้เหม่ยหวากรุ๊ปผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้
ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีเหอฮุ่ยกรุ๊ปมาช่วยเหลือ ด้วยฐานะของเฉินโม่ในวันนี้ วิกฤตการเงินของเหม่ยหวากรุ๊ป ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว
“พี่เวินฉิง คนนอกกล้ามาเย่อหยิ่งอวดดีต่อหน้าเหม่ยหวากรุ๊ปตั้งแต่เมื่อไหร่?”เฉินโม่สองมือไขว้หลัง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมองหน้าเวินฉิงทันที
เวินฉิงตกใจมากๆ และพูดพึมพำในใจ:”แย่แล้ว!”
เวินฉิงรู้จักนิสัยของเฉินโม่เป็นอย่างดี พูดว่าเขาเป็นเด็กเกเรก็ไม่เกินไปเลย แต่เวินฉิงถือว่าเฉินโม่เป็นน้องชายของตัวเองมาโดยตลอด ไม่ว่าคนอื่นๆจะพูดยังไง ในจิตใจของเธอนอกจากหลี่ซู่เฟินแล้ว เฉินโม่คือคนที่สนิทที่สุด
เวินฉิงรู้ดี ด้วยนิสัยเกเรของเฉินโม่ เมื่อเจอหน้าก็โดนฉือรุ่ยปิงพูดจาดูถูก เขาต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน เขาอดทนถึงตอนนี้แล้วพูดเรื่องนี้ออกมา มันถือว่าดีที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม เฉินโม่ยังเด็กเกินไป ถ้าอย่างต่อสู้กับฉือรุ่ยปิง เขายังอ่อนหัดอยู่ สุดท้ายเขาคงโดนฉือรุ่ยปิงดูถูกเหยียบหยามมากกว่าเดิม
เวินฉิงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องงานประชุมแล้ว เธอดึงเฉินโม่และพูดด้วยความร้อนใจ:”เสี่ยวโม่อย่าไปถือสาเขาเลย ฉันจะพาพวกนายไปพักผ่อน อย่าให้เพื่อนของนายต้องรออีกเลย”
เดิมทีเฉินโม่อยากจะสั่งสอนฉือรุ่ยปิงสักครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเวินฉิงไม่อยากจะหักหน้ากับฉือรุ่ยปิง เฉินโม่ก็เลยเคารพการตัดสินใจของเวินฉิง
“โอเค ฉันฟังคำพูดของพี่เวินฉิงก็ได้”เฉินโม่พูดด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มแบบนี้ เขายิ้มให้เวินฉิงเพียงคนเดียวเท่านั้น
เฉินโม่อยากจะจากไป แต่ฉือรุ่ยปิงกลับไม่ยอม เขามองออกแล้วว่าเวินฉิงตัดสินใจจะจากไป นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ การที่เขาพาเวินฉิงไปงานประชุมนั้น อันที่จริงเขามีจุดประสงค์อื่นด้วย
ฉือรุ่ยปิงเดินมาอยู่ด้านหน้าของเวินฉิง:”อยากจะจากไปเหรอ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นอยู่แล้ว!”