แดนนิรมิตเทพ – บทที่ 265

บทที่ 265

บทที่ 265
หลี่ซู่เฟินกำลังจะปฏิเสธ แต่อยู่ดีๆ ก็คิดว่าตนเองควรจะเชื่อใจเฉินโม่ มองดูหลิวหงปิน แล้วก็พยักหน้าไปอย่างควบคุมตัวไม่ได้ “ฉันรับปาก!ถ้าคุณชนะ ก็จะยกเหม่ยหวา กรุ๊ปให้เลย!”

“ท่านประธานคะ” เวินฉิงมองไปยังหลี่ซู่เฟินอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าหลี่ซู่เฟินที่เคยฉลาดมาโดยตลอดถึงได้บ้าไปกับเฉินโม่ด้วย

หลิวหงปินก็ตื่นเต้นใจจนใบหน้าอ้วนๆ กระดิกได้ หัวเราะพูดว่า “ดีมาก ทุกคนในงานเป็นพยานให้ด้วย เผื่อพวกเธอจะขี้โกงไม่ยอมทำตามข้อตกลง!”

หลิวหงปินมองไปยังเฉินโม่ แล้วพูดด้วยสีหน้าดูถูก “เริ่มเลย กูรอมึงหน้าแหกอยู่!”

ทันใดนั้นเอง สายตาของทุกคน ก็มองไปยังตัวของเฉินโม่ แม้แต่เหอฉางหมิงและเหอฉางหมิงที่อยู่บนเวทีก็เหมือนกัน

เพียงแต่ว่า สายตาที่ทุกคนมองไปยังเฉินโม่นั้น มีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม ไม่มีใครเชื่อเขาเลย

เฉินโม่มองหลิวหงปิน แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “ใครยอมช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ปจากวิกฤติครั้งนี้บ้าง?”

พูดครบถ้วนไม่ขาดไปแม้แต่คำเดียว เป็นคำพูดที่เฉินโม่ตกลงกับหลิวหงปินไว้เมื่อครู่นี้

ไม่มีคนตอบรับ

“ฮ่าๆๆ มึงก็คิดว่าทำได้จริงหรือไงวะ? มึงคิดว่ามึงเป็นใคร คนฉุดช่วยโลกนี้อย่างนั้นหรือไง?” คุณชายหลิวหัวเราะเยาะ สายตาที่มองเฉินโม่ เต็มไปด้วยความเอือมระอา

พวกลูกคนรวยที่เหลือก็หัวเราะเยาะกันไม่หยุด

พวกคนดังในฮ่านหยาง ก็มีสีหน้าเยาะเย้ยเหมือนกัน มองเฉินโม่ว่าเป็นตัวตลก

ว่านฉางหรูกับเหอฉางหมิงก็ส่ายหัวเบาๆ สายตาที่มองเฉินโม่เต็มไปด้วยความสงสาร เหมือนกับเทพเจ้าก้มมองดูมดตัวน้อย

หลิวหงปินหัวเราะลั่นอย่างได้ใจ “เป็นไงล่ะ? จะตะโกนเรียกอีกครั้งไหม?”

ตอนที่สิ้นเสียงของหลิวหงปินนั้นเอง เสียงตะโกนก็ดังเข้ามาท่ามกลางคนในงาน

“ฉินเยว่ซานแห่งอานหลิน ยินดีเอาทรัพย์สินทั้งหมดช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ป!”

จากนั้น ฉินเยว่ซานที่ใส่สูทสีดำ ก็ก้าวเดินออกมาตรงหน้าของเฉินโม่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ โค้งคำนับพูดว่า “สวัสดีครับคุณเอ่อ คุณเฉิน!”

เฉินโม่พยักหน้าตอบ ถือว่าทักทายกันแล้ว

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิวหงปินนิ่งค้างไป

ว่านฉางหรูก็หน้าบึ้ง สายตาที่มองฉินเยว่ซาน เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่กระหายเลือด

คนดังทั้งหลายในห้องโถง ต่างก็อึ้งกันไปหมด!

คุณชายหลิวและพวกลูกคนรวยทั้งหลาย ก็มีใบหน้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเห็น

แม้แต่เวินฉิง ก็มีใบหน้าไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน

จากนั้น ทุกคนก็ได้สติขึ้นมา

ฉินเยว่ซานเป็นเจ้าอิทธิพลใหญ่ในอานหลิน มีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน ทำไมถึงได้เคารพนบนอบต่อเด็กมัธยมคนหนึ่งได้ถึงขนาดนี้? และถึงขั้นกล้าเสี่ยงอันตรายกับตระกูลว่านเพื่อยื่นมือมาช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ป!”

“คุณสังเกตเห็นไหม ไอ้หนุ่มน้อยคนนั้นแค่พยักหน้าตอบฉินเยว่ซานเท่านั้น ตมหลักแล้วฉินเยว่ซานออกมาช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ปในตอนนี้ เป็นเหมือนการมอบเตาผิงไฟให้คนกำลังเหน็บหนาว เขาควรจะซาบซึ้งถึงจะถูกสิ!”

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

ทุกคนต่างก็ฉงนใจ!

หลิวหงปินเคยได้ยินชื่อฉินเยว่ซาน แต่เมื่อเทียบกับว่านหยวนกรุ๊ปของเขาแล้ว ซานเยว่กรุ๊ปของฉินเยว่ซานด้อยกว่าเยอะ

หลิวหงปินดุออกมาด้วยความโกรธ “ฉินเยว่ซาน คุณอยากจะเป็นศัตรูกับผม หรือว่าอยากจะเป็นศัตรูกับมหาเศรษฐีว่าน!”

ฉินเยว่ซานไม่ได้สนใจเขา แล้วก็หันหลังไปหาหลี่ซู่เฟิน แล้วยกมือคำนับเบาๆ “สวัสดีครับท่านประธานหลี่!”

ถึงแม้เหม่ยหวา กรุ๊ปของหลี่ซู่เฟินจะแข็งแกร่งกว่าของเขา แต่การปฏิบัติต่อหลี่ซู่เฟินนั้น ฉินเยว่ซานก็ไม่ได้เกรงใจเสียขนาดนั้นแล้ว

หลี่ซู่เฟินยังคงกำลังหัวเสียว่าทำไมเมื่อครู่นี้ตนเองถึงได้รับปากเฉินโม่ไปแบบนั้นได้ คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์มันจะพลิกผันแบบนี้ มีคนกล้าออกมาช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ปจริงๆ !

อึ้งๆ ไปเล็กน้อย หลี่ซู่เฟินก็รีบตั้งสติกลับมา แล้วก็รีบยกมือทำความเคารพกลับ “หลี่ซู่เฟินแห่งเหม่ยหวา กรุ๊ป ขอขอบพระคุณที่คุณฉินยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ!”

พูดจบ หลี่ซู่เฟินก็แปลกใจ แล้วมองไปยังเฉินโม่ที่นั่งอยู่เก้าอี้นิ่งๆ

แดนนิรมิตเทพ

แดนนิรมิตเทพ

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท