แดนนิรมิตเทพ บทที่ 635
“คุณเฉินโม่ เข้าไปสิ!” เมื่อเห็นเฉินโม่ไม่ขยับ ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง เร่งเขาด้วยความหงุดหงิด
เฉินโม่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วเดินตรงไปที่ประตูของอาคารหกชั้น
ประตูปิดสนิท ประตูทำมาจากแผ่นเหล็กที่หนาแน่น ซึ่งสามารถกันกระสุนได้
ประตูปิดอยู่ เฉินโม่และชายหนุ่มเดินมาถึงหน้าประตู ชายหนุ่มยื่นของชิ้นหนึ่งผ่านหน้าต่างบานเล็กของห้องยามที่อยู่ด้านข้าง และตะโกนว่า “เปิดประตู!”
คนที่อยู่ด้านในมองของสิ่งนั้น หลังจากนั้นก็ส่งคืนมาให้เขา
จากนั้นประตูเล็กที่อยู่ข้างประตูใหญ่ก็เปิดออก
“คุณเฉินโม่ เชิญ!” ชายหนุ่มมองเฉินโม่ด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ
เฉินโม่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น เอามือไพล่หลัง แล้วเดินเข้าไปด้วยท่าทางสงบ
เอี๊ยด!
ทันทีที่เฉินโม่เดินเข้าไป ประตูบานเล็กก็ปิดลงและถูกล็อกด้วยที่ล็อคขนาดใหญ่
เฉินโม่หยุดฝีเท้าเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมองประตู ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังรีบกระโดดห่างออกไปสามเมตร และมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าประหม่า
“คุณคิดจะทำอะไร” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เฉินโม่ยิ้มเบา ๆ และกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ผมแค่มองเรื่อยเปื่อยเท่านั้น”
ชายหนุ่มเก้อเขินอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวกลบเกลื่อนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เข้าไปข้างในเถอะ ห้องที่ท่านเจียงเตรียมไว้ให้คุณอยู่ข้างใน”
เฉินโม่ยิ้มบาง ๆ เดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ผลักประตูเหล็กของห้องโถงชั้นที่หนึ่ง แล้วเดินเข้าไปข้างใน
ปึง!
หลังจากเฉินโม่เดินเข้ามาแล้ว ชายหนุ่มก็ล็อกประตูจากด้านนอก
“เจ้าหนู แกจงภาวนาให้ตนสามารถรอดชีวิตเถอะ!” เสียงเยาะเย้ยของชายหนุ่มดังมาจากข้างนอก
สีหน้าของเฉินโม่ราบเรียบ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ เขาจะคอยดูว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไร หรือเจียงเหอซานคิดจะทำอะไร
ข้างหน้าเป็นห้องโถงที่กว้างขวาง มีโคมไฟระยิบระยับแขวนอยู่ตรงกลาง ซึ่งมันไม่ใช่สถานที่ที่คนจะอยู่อาศัย
ห้องโถงไม่มีคนสักคน แต่เฉินโม่รับรู้ถึงเหมือนตาเห็นพลังสิบกว่าสายที่ซ่อนอยู่ในความมืด
เฉินโม่เดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ ราวกับว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
“ลงมือ!” เสียงที่เย็นชาดังอยู่ในความมืด
คนสิบกว่าคนปรากฏตัวออกมาทันที แล้วล้อมเฉินโม่เอาไว้
เป็นนักบู๊สิบกว่าคน และในบรรดาพวกเขามีคนสองคนพลังที่แข็งแกร่งมาก เห็นได้ชัดว่าได้เข้าสู่ระดับปรมาจารย์แล้ว
“ปรมาจารย์สองคนบวกกับนักบู๊แดนในชั้นสมบูรณ์สิบกว่าคน ความแข็งแกร่งนี้เพียงพอที่จะกวาดล้างสำนักเล็ก ๆ ในโลกฝึกบู๊แล้ว!”
“บุก!” เสียงเย็นชาที่อยู่ในความมืดดังอีกครั้ง
นักบู๊สิบกว่าคนลงมือพร้อมกัน พวกเขาเคลื่อนไหวพร้อมเพรียงกัน เห็นได้ชัดได้รับการฝึกฝนโดยเฉพาะ
และตำแหน่งที่นักบู๊พวกนี้ยืน เป็นหน้ากระดานสามคนและยืนทั้งหมดสามแถว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นค่ายกลชนิดหนึ่ง
“ฝีมือระดับ จิ๊บจ๊อย!”
เฉินโม่ยกฝ่ามือขึ้น แล้วใช้ท่าที่สามของหมัดเทพเทียนเสวียน ปราบฟ้าดิน
แรงกดดันที่ทรงพลังเปรียบเหมือนมือขนาดใหญ่ที่สามารถบดขยี้สิ่งมีชีวิตทั้งหมด
บูม!
ดูเหมือนว่าอาคารทั้งหลังจะสั่นเล็กน้อย นอกจากปรมาจารย์สองคนที่สามารถยืนอยู่ได้ นักบู๊สิบกว่าคนที่เหลือคุกเข่าอยู่บนพื้น
ปรมาจารย์ทั้งสองเป็นวัยกลางคน เป็นชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคน ซึ่งเป็นคนสองคนที่ติดตามเจียงเหอซานไปหาเฉินโม่ที่เมืองฮ่านหยางก่อนหน้านั้น
ขณะนี้สีหน้าของพวกเขาสองคนตกตะลึง ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ ถึงแม้พวกเขาจะสามารถสกัดกั้นการโจมตีของเฉินโม่ได้ แต่ตอนนี้เลือดลมในร่างกายของพวกปั่นป่วน และขาทั้งคู่สั่น
เป็นหมัดที่ทรงพลังมาก!
เฉินโม่มองพวกเขาสองคน และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “บอกผมเถอะ เจ้านายของพวกคุณคิดจะทำอะไร?”
พวกเขาสองคนมองหน้ากัน แต่ไม่พูดอะไร
เฉินโม่พ่นลมออกมาอย่างเย็นชา และกล่าวเสียงดังขึ้นว่า “เจียงเหอซาน นายจะรอให้ผมฆ่าสองคนนี้ตายก่อน แล้วค่อยออกมาใช่ไหม?!”
“เฮ้อ!”
เสียงถอนหายใจอย่างแก่หง่อมดังขึ้น เจียงเหอซานสวมเสื้อแบบซุนยัดเซ็นสีเทา เดินออกมาจากความมืด