แดนนิรมิตเทพ บทที่ 640
ใบหน้าของเฉินโม่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขายื่นนิ้วชี้และนิ้วกลางซ้ายออกไป แล้วหนีบกระสุนไว้ระหว่างทั้งสองนิ้ว และตอนนี้เขาปลอดภัยดี
“เป็นไปได้ยังไง!”
สีหน้าของหน่วยรบพิเศษเต็มไปด้วยความตกใจ
พวกเขาคิดว่าเฉินโม่จะหลบเลี่ยง หรืออาศัยชี่แท้ของร่างกายต้าน แต่พวกเขานึกไม่ถึงว่าเฉินโม่เพียงแค่ใช้สองนิ้วก็สามารถหนีบกระสุนได้!
ถ้าระยะทางไกล พวกเขาก็ยังสามารถยอมรับได้ เพราะสมาชิกของหน่วยรบพิเศษไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป และพวกเขารู้ถึงความสามารถของนักบู๊อีกด้วย
แต่ระยะห่างระหว่างหลี่หู่กับเฉินโม่ไม่เกินห้าเมตร ด้วยระยะห่างเพียงห้าเมตร แต่เขาสามารถใช้สองนิ้วหนีบกระสุนได้ นี่ไม่สมเหตุเลย
กระสุนที่ยิงออกมานั้นเร็วมาก ระยะทางที่ใกล้ขนาดนี้ แต่เฉินโม่สามารถใช้สองนิ้วหนีบกระสุนไว้ได้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าความเร็วของเฉินโม่ เร็วกว่ากระสุนอย่างน้อยสิบเท่า!
ไม่กล่าวถึงความแข็งแกร่ง เพียงแค่ความเร็วก็เพียงพอที่จะทำให้คนรู้สึกตกใจแล้ว!
คนที่มีความเร็วขนาดนี้ เขาจะไม่แข็งแกร่งได้อย่างไร?
สมาชิกสามสิบหกคนของหน่วยรบพิเศษ รวมทั้งรองหัวหน้าเซี่ยไห่หลง ตอนนี้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
ในที่สุดสายตาที่พวกเขามองเฉินโม่ก็มีร่องรอยความเคารพ!
“ตอนนี้พวกคุณคิดว่าผมสามารถเป็นหัวหน้าของพวกคุณได้หรือยัง?” เฉินโม่ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่สะทกสะท้านเหมือนตอนที่เขาเพิ่งมาถึง
สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีสามสิบหกคนไม่พูดอะไร แต่ตอนนี้ไม่มีใครต่อต้านแล้ว
เซี่ยไห่หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ได้ยินว่านายเป็นคนที่นำข่าวของหัวหน้าฮั่วตงหมิงกลับมา? แล้วเขายังมอบตราเทพอินทรีให้นายด้วยใช่ไหม?”
สมาชิกของหน่วยรบพิเศษที่เหลือต่างตกตะลึง ทุกคนต่างมองไปที่เซี่ยไห่หลง ทำไมพวกเขาไม่เคยได้ยินข่าวนี้มาก่อน
เห็นได้ชัดว่ามีคนเจตนาปกปิด
เฉินโม่พยักหน้า ดูเหมือนว่าทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาลจะปรากฏขึ้นอยู่ต่อหน้าเขาอีกครั้ง แผ่นหลังที่เย่อหยิ่งเดินตรงไปยังทิศทางที่ดวงอาทิตย์ตกดินด้วยความดื้อรั้น
“ถูกต้อง น่าเสียดายที่ตอนนั้นเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะเดิมทีเขาสามารถมีชีวิตรอดได้”
ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นบนใบหน้าสมาชิกทุกคนของหน่วยรบพิเศษ เห็นได้ชัดว่าสำหรับพวกเขาแล้ว ฮั่วตงหมิงมีความสำคัญเพียงใด และเกรงว่าจะไม่มีใครสามารถแทนที่เขาได้ด้วยระยะเวลาเพียงชั่วครู่ชั่วยาม
แต่เฉินโม่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวล ถ้าเขาไม่สามารถสยบแม้แต่สมาชิกของหน่วยรบพิเศษพวกนี้ได้ ถ้าเช่นนั้นการที่เขาเป็นผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพก็เปล่าประโยชน์แล้ว
“หัวหน้า!” สีหน้าของหลี่หู่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง และตะโกนใส่เฉินโม่ “เมื่อสักครู่ผมเข้าใจหัวหน้าผิด ผมขอโทษ!”
“หัวหน้า ผมขอถอนคำพูดเมื่อสักครู่!”
“หัวหน้า ผมขอโทษ!”
เฉินโม่ยิ้ม ดูเหมือนคนกลุ่มนี้จะคบหาไม่ยาก
หลังจากแสดงความสามารถพิเศษในการจับกระสุนด้วยมือเปล่าแล้ว ในที่สุดเฉินโม่ก็ได้รับการยอมรับจากสมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีชั่วคราว
เพียงแต่เฉินโม่รู้ดีว่าพวกเขายอมรับเพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าเขาต้องการไปให้ถึงระดับของอดีตหัวหน้าฮั่วตงหมิง หนทางที่เฉินโม่ต้องเดินยังอีกยาวไกล
อย่างไรก็ตาม ที่เดิมเฉินโม่ไม่คิดจะอยู่ที่นี่นาน เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีข้อเรียกร้องมากมายกับสมาชิกพวกนี้
“เพื่อเห็นแก่อดีตหัวหน้า ผมจะช่วยพวกคุณสักครั้ง”
เฉินโม่คิดอยู่ในใจ
ในสำนักงานของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี เซี่ยไห่หลงนำเอกสารมาให้เฉินโม่หลายปึก จากนั้นเฉินโม่ก็ขมวดคิ้ว
“นี่คือแผนการฝึก นี่คือใบสั่งซื้อการสนับสนุนด้านอื่น ๆ นี่คือรายชื่อระดับหัวกะทิที่ได้รับการคัดเลือกจากหน่วยต่าง ๆ สามารถใช้เป็นทีมสำรองของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีได้………”
เซี่ยไห่หลงยังคงอธิบายให้เฉินโม่ฟังต่อ…..
เฉินโม่กังวลว่าถ้าเขาปล่อยให้เซี่ยไห่หลงพูดแบบนี้ต่อไป คืนนี้เขาคงไม่ได้หลับนอน
“เอาล่ะ นับจากนี้เป็นต้นไป นายเป็นคนรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ นายคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่ผมมาที่นี่บ้างแล้ว ดังนั้นนายอย่าตั้งความหวังกับผมมาก”
เฉินโม่มองเซี่ยไห่หลงด้วยสีหน้าสบาย ๆ
เซี่ยไห่หลงขมวดคิ้ว และหน้าที่ของทหารคือเชื่อฟังคำสั่ง ในเมื่อพวกเขายอมรับเฉินโม่แล้ว พวกเขาก็จะเชื่อฟังคำสั่งของเฉินโม่
“นับจากนี้เป็นต้นไป ผมจะรับผิดชอบสอนบู๊ให้พวกคุณเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เหลือนายเป็นคนจัดการเอง!”
นี่เป็นแผนกลยุทธ์ที่เฉินโม่คิดไว้นานแล้ว ไม่ถึงกับจะมากินฟรีอยู่ฟรีอยู่ที่นี่หรอก ถือว่าเป็นการตอบแทนเจียงเหอซาน