แดนนิรมิตเทพ – บทที่ 279

บทที่ 279

บทที่ 279
“เข้ามาหนึ่งคนก็ฆ่าหนึ่งคน มาสองก็ฆ่าสอง ฆ่าจนกว่าตระกูลหลี่ของมึงจะไม่เหลือนักบู๊เลยสักคน!”

……

เสียงที่เย็นชาราวกับเป็นเสียงของเทพเจ้าที่ส่งออกมา เหมือนว่ามันจะดังลึกเข้าไปถึงวิญญาณ วนเวียนอยู่ในใจของทุกคน

ในน้ำเสียงนิ่งๆ แต่กลับแฝงไปด้วยความอาฆาตที่ทำให้คนตัวสั่น ห้องโถงที่มีนับร้อย ไม่มีใครกล้าเกิดความสงสัยขึ้นในใจเลยสักคน

พวกคนมีชื่อเสียงทั้งหลายในฮ่านหยาง มหาเศรษฐีฮ่านหยาง ตระกูลมหาอำนาจ พอมาอยู่ต่อหน้าหนุ่มน้อยคนนี้ ก็เป็นเหมือนมดตัวน้อยนิดไม่มีค่าให้เอ่ยปากพูดด้วยซ้ำ

เวลานี้ เฉินโม่ ก็คือเทพ!

เฉินซงจื่อได้ยินแล้วก็เลือดลมพลุ่งพล่าน ตะโกนออกมาว่า “ไปตายซะ!”

ต่อยออกไปตรงๆ กระแทกไปยังหลี่หลงจีที่นอนอยู่บนพื้น

“คิดจะฆ่ากู มึงก็ต้องแลกมาด้วยข้อแลกเปลี่ยนที่สาสม!อ้า!”

หลี่หลงจีตะโกนเสียงดังลั่น แล้วพลังบำเพ็ญก็ระเบิดออกมา รับหมัดของเฉินซงจื่อไว้

ตูม!

เหมือนกับแสงดาวแข่งกับแสงจันทร์ พลังของหลี่หลงจีนั้น พอมาอยู่ต่อหน้าเฉินซงจื่อ ก็เหมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่ไร้แรง แล้วก็ถูกเฉินซงจื่อต่อยกระเด็นออกไปกระแทกกับขอบเวที

เฮือก!

หลี่หลงจีกระเลือดกองใหญ่ออกมาอีก เลือดย้อยลงมาใส่พื้นกระเบื้องสีขาวของห้องโถง เห็นแล้วน่ากลัวมาก

ด้านบนเวที หลี่ฉงซานเห็นหลี่หลงจีถูกต่อยจนหน้าอกยุบลงไป ก็ตะโกนด้วยความกลัวว่า “ไม่!”

หลี่หลงจีก็ชี้กำปั้นที่เต็มไปด้วยเลือดไปทางหลี่ฉงซาน “แก้แค้นให้……….”

คำสุดท้ายไม่ได้พูดออกมา หลี่หลงจีก็ตาย!

ทุกคนก็มีสีหน้าตื่นตกใจ แม้แต่จะหายใจยังระแวง เพราะกลัวจะทำให้เทพนักฆ่าตรงหน้าโมโหได้!

สองหมัดฆ่าปรมาจารย์!

ผลการสู้แบบนี้ ในโลกฝึกบู๊ถือว่าหาได้ยากมาก

คุณท่านจินและนักบู๊อีกจำนวนหนึ่งก็มองไปยังด้านหลังของเฉินซงจื่อ ใบหน้าก็นับถือ ใจเต้นเกินจะบรรยาย “พลังของเขาเกรงว่าน่าจะใกล้ๆ กับหยางติ่งเทียนแห่งยานจิง!”

ลูกๆ ของคุณท่านจินก็ไม่มีใครกล้าดูแคลนเฉินโม่อีก ในทที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อตนเองถึงได้เคารพเด็กม.6มากขนาดนี้ ถึงขั้นในใจก็แอบยอมรับเลยว่าพ่อตนเองนั้นมีสายตาแหลมคมจริงๆ ที่คบค้าสมาคมกับเฉินโม่ไว้ก่อนแล้ว

ถึงแม้หลี่ซู่เฟินกับเวินฉิงจะไม่รู้การแบ่งแยกระดับพลังของนักบู๊ แต่พวกเธอก็มองออกมา ว่าเฉินซงจื่อแข็งแกร่งเกินใคร!

“คิดไม่ถึงเสี่ยวโม่จะโชคดีแบบนี้ ได้อาจารย์ที่ดีแบบนี้!” หลี่ซู่เฟินกับเวินฉิงก็มองไปยังเฉินโม่ แล้วก็ชื่นชมในใจ

เฉินโม่ยังคงสีหน้านิ่งๆ เหมือนเดิม เหมือนกับว่ารู้แต่แรกแล้วว่าบทสรุปมันจะเป็นแบบนี้

หลี่หลงจีเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์แดนชี่แท้ ต่อให้เข้าแดนแปรภาพก่อนเฉินซงจื่อหลายปี วิชาและทักษะยุทธ์ที่เขาฝึก ก็ยังด้อยกว่าหมัดเทพเทียนเสวียนที่ถูกแก้ไขแล้วกับวิชาที่ฝึกเป็นร้อยเท่า ถ้าเฉินซงจื่อเอาชนะไม่ได้แม้แต่เขาคนเดียว อย่างนั้นเฉินโม่ก็จะพิจารณาหาลูกศิษย์ใหม่

เฉินซงจื่อมองพวกหลี่ฉงซานกับว่านฉางหรูที่นั่งฟุบอยู่บนเวที สายตาก็เผยรังสีอาฆาตออกมาอย่างไม่ปกปิด แต่เขาจำคำที่เฉินโม่บอกได้ ว่าถ้าไม่ใช่คนของโลกฝึกยุทธ์ ก็ให้ใช้วิธีของทางโลกจัดการจะดีกว่า

พวกของหลี่ฉงซานกับว่านฉางหรูไม่รู้ว่าเฉินซงจื่อคิดอะไร พอเห็นสายตาของเฉินซงจื่อมองมา ก็คิดว่าเฉินซงจื่อจะลงมือฆ่าพวกเขา ใจก็เต้นแรง ถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าหวาดกลัว

“พวกกูไม่ใช่คนของโลกฝึกยุทธ มึงจะมาลงมือฆ่ากูไม่ได้!” หลี่ฉงซานหน้าซีดขาว พูดออกมาเสียงสั่นๆ

เฉินซงจื่อก็หัวเราะออกมา แล้วก็หันตัวเดินกลับไปข้างเฉินโม่ แล้วยืนอย่างนอบน้อม

พวกของหลี่ฉงซานกับว่านฉางหรู ก็โล่งใจ เหมือนได้ผ่านเข้าประตูผีไปแล้วหนึ่งรอบ

เฉินโม่มองหลี่ฉงซาน แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “วันนี้จะปล่อยมึงกลับไป แล้วเอาคำของกูไปบอกหลี่ตงหยางด้วย ว่าอย่าลืมสัญญา3ปีที่นัดกันไว้!”

“บางทีไม่อาจจะไม่ถึง3ปี กูก็จะไปหาเองที่ตระกูลหลี่ พอถึงตอนนั้นกูจะทำตามที่สัญญาไว้ จะให้ตระกูลหลี่ของพวกมึงมาคุกเข่าสำนึกผิดต่อหน้ากูในเรื่องที่เคยทำกับพวกกูสองแม่ลูกไว้!”

แดนนิรมิตเทพ

แดนนิรมิตเทพ

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท