แดนนิรมิตเทพ บทที่ 331
ผ่านยิงอี้สง ในที่สุดเฉินโม่ก็เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างของสำนักหยินทิพย์
สำนักหยินทิพย์ไม่ใช่อย่างที่เฉินโม่คิด เป็นการสืบทอดที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งถ่ายทอดการบำเพ็ญเซียนในยุคโบราณต่อกันมา เพียงแต่ว่าเมื่อสองร้อยปีก่อนบัณฑิตที่ตกต่ำคนหนึ่งได้รับวิธีการฝึกฝนวิชามาเล่มหนึ่งโดยบังเอิญ จากนั้นจึงได้สร้างสำนักหยินทิพย์ขึ้นมา
เมื่อส่งต่อมาถึงมือของเจ้าสำนักคนปัจจุบัน ชายคนนี้เป็นเจ้าของร้านที่สั่งการอย่างเดียว ซึ่งไม่ได้สนใจในกิจการของสำนักเลย ซึ่งทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงขึ้นภายในสำนักหยินทิพย์และแยกออกเป็นสำนักหยินกับสำนักทิพย์
เจ้าสำนักคนปัจจุบันก็เป็นคนตลกมาก ไม่เพียงแต่ไม่สนใจ ทั้งยังแต่งตั้งเจ้าสำนักน้อยของสำนักหยินและสำนักทิพย์สำนักละหนึ่งคน ให้เป็นผู้ดูแลจัดการแทนเจ้าสำนักของหยินทิพย์ทั้งสองสำนัก
คราวนี้สำนักหยินทิพย์แบ่งแยกออกจากกันโดยสมบูรณ์
ตระกูลยิงถือว่าเป็นเชื้อสายสำนักหยิน ที่ฝึกฝนคือวิชากลั่นร่างด้วยชี่พิฆาต และเหลียนเฉิงอวี้ที่ถูกเฉินโม่ฆ่าตายก็เป็นเชื้อสายของสำนักทิพย์
แล้วเหตุผลที่พวกเขาหาเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนพบ เพราะว่าเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเกิดในยามหยินเดือนหยินปีหยิน ซึ่งเป็นหญิงธาตุหยินสุดที่จดบันทึกอยู่ในบันทึกที่เก่าแก่ของสำนักหยินทิพย์
สำนักหยินทิพย์มีบันทึกเก่าแก่จดไว้ว่า เพียงแค่ได้หญิงธาตุหยินสุดมา ก็สามารถบำเพ็ญเพียรได้กว้างขึ้น ดังนั้นตระกูลยิงและตระกูลเหลียนถึงต้องการที่จะมอบเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนให้กับเจ้าสำนักน้อยของตนเพื่อแลกกับรางวัล
เฉินโม่ถามถึงเมล็ดมารที่อยู่ในร่างของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน แต่หน้าตายิงอี้สงสับสนงุนงง โดยที่ไม่รู้ว่าเมล็ดมารคืออะไร
ยิงอี้สงได้บำเพ็ญแดนสู่ทิพย์ชั้นกลาง เทียบเท่ากับนักบู๊แดนในชั้นสมบูรณ์ เป็นเรื่องปกติที่สามารถสังเกตเห็นเมล็ดมารในร่างของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน บางทีเพียงแค่จับเจ้าสำนักน้อยสองคนนั้นเอาไว้ ถึงจะสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนที่ปลูกเมล็ดมารบนร่างของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนกันแน่
“พาฉันไปหาเจ้าสำนักน้อยของพวกแก” เฉินโม่มองไปที่ยิงอี้สง แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย
ยิงอี้สงยิ้มอย่างขมขื่นพร้อมส่ายหัว “ผู้อาวุโสไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการนำทางให้คุณ เพียงแต่ว่าพวกเราสามคนถูกเหลียนเฉิงอวี้ทำร้ายบาดเจ็บ และเส้นลมปราณได้ถูกสะเทือนจนขาด ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย”
เฉินโม่ขมวดคิ้ว เขารู้ว่ายิงอี้สงพูดความจริง และเส้นลมปราณของพวกเขาสามคนได้ถูกสะเทือนจนขาดจริงๆ “ฉันลืมไป”
“เอาล่ะ จะมอบผลบุญให้พวกแกสักครั้ง”
เฉินโม่คิดในใจแล้วหยิบยาเสริมจิตสามเม็ดออกมาจากวงแหวนเก็บของ แล้วยื่นฝ่ามือออกไปให้ยิงอี้สง
ยิงอี้สงก็เป็นคนที่รู้จักสินค้าเป็นอย่างดี จึงเบิกตากว้างทันทีและอุทานว่า “ยาวิเศษชั้นยอด!”
ภรรยาของเขาไป๋เจวียนและน้องชายของเขายิงอี้ผิงต่างก็ตกตะลึง โดยที่สายตานั้นปรากฏความโลภขึ้นมา
“นี่คือ ให้พวกเราหรือ?” ใบหน้าของยิงอี้สงเต็มไปด้วยความคาดหวัง แม้ว่าการกระทำของเฉินโม่จะดูชัดเจนมาก แล้วแต่เขาก็ยังไม่เชื่อว่าเฉินโม่จะมอบยาวิเศษชั้นยอดมีค่าแบบนี้ให้พวกเขาหลายคนที่เป็นเชลย!
“กินมันซะ ไม่เพียงแต่สามารถซ่อมแซมอาการบาดเจ็บของพวกแกได้ ยังทำให้พละกำลังของพวกแกเพิ่มสูงขึ้นอีกขั้นนึงด้วย” เฉินโม่กล่าว
“ขอบคุณผู้อาวุโส!” ยิงอี้สงสามคนคำนับเฉินโม่จากใจจริง พวกเขารู้ดีว่ายาวิเศษชั้นยอดนั้นมีค่าเพียงใด แม้แต่เจ้าสำนักน้อยก็ยากที่จะได้มาแม้เพียงหนึ่งเม็ด แต่ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้เพียงแค่ยื่นออกมาก็เป็นจำนวนถึงสามเม็ด และก็มอบให้แก่พวกเขาที่เป็นเชลยซึ่งไม่เกี่ยวข้องด้วยเลยแม้แต่น้อย!
นี่มันช่างสูงส่งเพียงใดและผยองถึงเพียงใดกัน!
ด้วยเหตุนี้สามารถสรุปได้ว่า สำนักที่อยู่เบื้องหลังชายหนุ่มคนนี้นั้นแข็งแกร่งเพียงใด!
เมื่อมองดูพวกเขาทั้งสามคนกินยาเสริมจิตลงไปกันอย่างปีติและเริ่มปรับลมปราณ เฉินโม่ก็ได้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ฉันสามารถให้ยาแก่พวกแกได้ ก็สามารถเอาชีวิตของพวกแก ได้ทุกเมื่อเช่นกัน ทางที่ดีพวกแกอย่าได้คิดมีใจเป็นสอง
“พวกเราไม่กล้า!” ทั้งสามคนกล่าวพร้อมกับคำนับ
ได้พบกับนายท่านที่ตบรางวัลอย่างงามแบบนี้ พวกเขารู้สึกยินดียังแทบไม่ทันเลย แล้วจะทรยศได้อย่างไร?
ประมาณครึ่งชั่วโมง ทั้งสามคนได้ปรับลมปราณกันเรียบร้อยแล้ว
ในเวลานี้ ภรรยาของเหลียนฮั่วที่ถูกเฉินโม่ตบจนบินไปก็ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว
เธอได้บีบป้ายหยกในอกชิ้นหนึ่งจนแหลก และกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า “กล้าฆ่าคนตระกูลเหลียนของฉัน ฉันได้แจ้งไปที่เจ้าสำนักน้อยแล้ว พวกแกอย่าได้คิดที่จะมีชีวิตรอดแม้แต่คนเดียว!”
หลังจากพูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากอย่างแรง นึกไม่ถึงว่าจะฆ่าตัวตาย