แดนนิรมิตเทพ บทที่ 367
บาสเกตบอลกระดอนอยู่บนพื้นคอนกรีตอย่างเงียบ ๆ และดูเหมือนทุกช็อตจะกระแทกใจของทุกคน
ทุกคนต่างตกตะลึง!
เจิ้งหยวนฮ่าวขมวดคิ้วจนแน่น ดวงตาซับซ้อน
อานเข่อเยว่เม้มริมฝีปากแน่น แววตาประกายความตกใจ
สีหน้าของเจิ้งซิ่วลี่เต็มไปด้วยความโกรธ และในใจเต็มไปด้วยความแค้น “บังเอิญ บังเอิญเท่านั้น เขาจะชู้ตเข้าไปได้อย่างไร!”
กลุ่มผู้ชมบนอัฒจันทร์ ร้องเชียร์เป็นระยะ “แม่งฉิบหาย ยังมีเหตุผลอยู่อีกหรือไม่? แบบนี้ก็สามารถชู้ตเข้าได้ด้วย?!”
“ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องจริงอย่างแน่นอน!”
สีหน้าของสมาชิกทีมของห้องห้าที่อยู่ในสนามเต็มไปด้วยความอึ้ง
“คุณชายฮัว ผมไม่ได้มองผิดใช่ไหม? แบบนี้ก็สามารถชู้ตเข้าได้เหรอ?!” สมาชิกในทีมคนหนึ่งยิ้มด้วยความขมขื่น
แต่คุณชายฮัวสงบมาก และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น อย่าท้อแท้ เตรียมโจมตี!”
สีหน้าของจ้าวกางและคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ยกนิ้วโป้งให้เฉินโม่ “เฉินโม่ นายสุดยอดมาก! ฮ่า ๆ ๆ……”
“เตรียมป้องกัน!”
จ้าวกางออกคำสั่ง แล้วทั้งสี่คนก็รีบกลับไปที่ตำแหน่งของตนเอง
ตอนนี้ผู้ตัดสินถึงได้สติขึ้นมา รีบเป่านกหวีดอย่างรวดเร็ว และทำสัญญาลักษณ์ไปทางผู้บันทึกคะแนนว่าเป็นคะแนนสามแต้ม
ห้องห้าเป็นฝ่ายได้บอลและเริ่มโจมตี แต่นักบาสตำแหน่งพอยต์การ์ดรู้สึกว่ามีเงาดำแวบอยู่ข้างหน้าเขา แล้วบาสเกตบอลที่อยู่ในมือก็หายไป
คนหนึ่งแย่งบอล ส่วนอีกคนหนึ่งชู้ตสามแต้ม
ซู่!
ชู้ตเข้าอีกแล้ว
ใบหน้าของสมาชิกทีมห้องหาและคุณชายฮัวทรุดลง
คุณชายฮัวมองสมาชิกของทีมคนที่บอกว่าฝีมือของเฉินโม่ธรรมดา และกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “นายบอกว่าเคยแข่งกับเจ้าหมอนั้นหลายครั้งแล้ว ฝีมือธรรมดาไม่ใช่เหรอ? แม่งฉิบหาย นี่เรียกว่าฝีมือธรรมดาเหรอ? เกือบจะเป็นระดับลีกอาชีพแล้ว!”
สีหน้าของสมาชิกคนนั้นแดงก่ำ และพูดอะไรไม่ออก
เวลาต่อมา มันเกือบจะกลายเป็นผลงานของเฉินโม่ทั้งหมด ทั้งการแย่งชิง การทำคะแนน การชู้ตสามแต้ม ตอนแรกคะแนนตามหลังสิบแต้ม ตอนนี้คะแนนตามไปอย่างรวดเร็ว และสุดท้ายคะแนนนำสิบสองแต้ม
จ้าวกางและคนอื่น ๆ ยืนมองเฉินโม่แสดงฝืมือคนเดียว
สมาชิกทีมของห้องหห้าถูกกดขี่จนเกือบจะร้องไห้ และสุดท้ายพวกเขาก็ยอมแพ้โดยตรง
สมาชิกทีมบ่นด้วยสีหน้าขมขื่น “แบบนี้ไม่เรียกว่าการเล่นบาสหรอก? เป็นแค่การโชว์ฝีมือคนเดียวเท่านั้น!”
พวกกองเชียร์ของห้องห้ารีบเดินจากไปทันที พวกเธอไม่มีหน้าจะอยู่ต่อไปอีกแล้ว!
ใบหน้าของเจิ้งหยวนฮ่าวขาวซีด เมื่อสักครู่เขาเยาะเย้ยเฉินโม่ว่าต้องการใช้พลังของตนเองเพื่อพลิกกระแส และเป็นคนที่ไม่เจียมตัว แต่ชั่วพริบตาเดียวก็ถูกเฉินโม่ทำให้อับอายขายหน้า
เมื่อเพื่อนร่วมชั้นเห็นสีหน้าของพี่ฮ่าวไม่สู้ดี ก็รีบยิ้มด้วยความเก้อเขินและปลอบเขาว่า “โกง เขาต้องโกงอย่างแน่นอน!”
โกง? โกงต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร?
สีหน้าของเจิ้งหยวนฮ่าวยิ่งแย่ขึ้นไปอีก เขายืนขึ้นและเดินจากไป ลูกน้องหลายคนรีบวิ่งตามหลังไป
สีหน้าของอานเข่อเยว่เต็มไปด้วยความตกใจ มองเฉินโม่ด้วยสายตาซับซ้อน “เป็นผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดจริง ๆ เฉินโม่ นายยังมีความลับซ่อนอยู่มากแค่ไหน?”
“ถ้านี่คือท่าไม้ตายที่ทำให้นายจองหอง นายสามารถรุ่งโรจน์อยู่ในโรงเรียนเพียงชั่วครู่เท่านั้น เมื่อนายก้าวเข้าสู่สังคมแล้ว สิ่งเหล่านี้สามารถกินแทนข้าวได้หรือ?”
อานเข่อเยว่ดูถูกเฉินโม่อีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนว่ามีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ที่จะสามารถฟื้นความรู้สึกการมีตัวตนของดาวโรงเรียนซึ่งเป็นที่รักของคนมากมาย
สีหน้าของเจิ้งซิ่วลี่ขาวซีด ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรง “มันไร้เหตุผล ไร้เหตุผลสิ้นดี! ทำไมเขาถึงโชคดีแบบนี้ทุกครั้ง!”
“ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอม เฉินโม่ สักวันหนึ่งฉันจะคอยดูตอนนที่นายถูกคนอื่นเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า และถูกถล่มอย่างยับเยิน!”
เดิมสนามบาสเกตบอลที่คึกคัก แค่พริบตาเดียวคนก็หายไปหมดแล้ว สมาชิกของห้องห้าพวกนั้นต้องการที่จะจากไป แต่จ้าวกางหยุดพวกเขาไว้
“เดี๋ยวก่อน แพ้แล้วก็จะไปแบบนี้เหรอ? อย่าลืมเดิมพันของพวกเราล่ะ!”
สีหน้าของคุณชายฮัวและสมาชิกทีมเต็มไปด้วยความอับอาย
มองเฉินโม่ด้วยความไม่เต็มใจ คุณชายฮัวกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “วางใจเถอะ ต่อไปขอเพียงแค่สถานที่ที่พวกนายอยู่ เราก็จะเดินอ้อม!”
หลังจากกล่าวจบ พวกเขาก็เดินจากไปด้วยความโมโห