แดนนิรมิตเทพ บทที่ 380
ตอนนี้มู่หรงยานเอ๋อร์นึกขึ้นได้ ถึงแม้ว่าพลังของเฉินโม่จะน่าทึ่ง แต่เขาอาจไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามาที่นี่
ดังนั้น มู่หรงยานเอ๋อร์มองเฉินโม่ด้วยความกังวล แต่ไม่ได้ถามคำถามที่สงสัย ถึงแม้ว่าเฉินโม่จะไม่มีบัตรเชิญ แต่เธอก็สามารถไปหาพ่อเพื่อขอบัตรเชิญให้เฉินโม่หนึ่งใบได้
ขณะนี้ รถฮัมเมอร์สีเขียววิ่งเข้ามาและหยุดที่ทางเข้าโรงแรม
เมื่อประตูรถเปิดออก ชายหนุ่มสวมรองเท้าบูตทหารสีดำ ใบหน้าแน่วแน่และหยิ่งผยอง ตากแดนจนสีผิวกลายเป็นสีแทน ยืนอยู่หน้าโรงแรม มองไปยังป้ายของ โรงแรมว่านเซี่ยง
“ที่นี่แหละ ได้ยินว่าวันนี้ยานเอ๋อร์มาที่นี่ด้วย ผมจะรอเธอที่นี่ และเซอร์ไพรส์เธอ!”
ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้น แล้วเดินเข้าไป
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนยื่นมือขวางเขาและกล่าวอย่างสุภาพว่า “คุณครับ โปรดแสดงบัตรเชิญด้วย!”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย มีร่องรอยความเย็นชาอยู่บนใบหน้า และกล่าวเยาะเย้ย “ไปถามฟางหยู่ฉิงเพื่อดูว่าเธอกล้าขอบัตรเชิญกับผมไหม?!”
หลังจากกล่าวจบ เขาปัดแขนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองด้วยมือข้างเดียว พ่นลมออกมาอย่างเย็นชา และเดินเข้าไปด้วยความเย่อหยิ่ง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “เรียกชื่อคุณฟางโดยตรง ต้องเป็นเพื่อนของประธานฟางแน่นอน ช่างมันเถอะ ปล่อยให้เขาเข้าไปเถอะ คนที่มาที่นี่ เป็นคนที่พวกเราไม่สามารถล่วงเกินได้”!”
เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องโถง หยางเชี่ยนเชี่ยนผู้มีสายตาเฉียบแหลมเห็นเขาทันที และอุทานว่า “พวกเธอดูสิ นั่นเย่เทียนหนิงใช่ไหม?”
อานเข่อเยว่แปลกใจเล็กน้อย “เย่เทียนหนิงเรียนอยู่ที่โรงเรียนเตรียมทหารไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงกลับมาอย่างกะทันหันล่ะ?”
หยางเชี่ยนเชี่ยนกล่าวหยอกล้อว่า “เข่อเยว่เธอไม่รู้เหรอ? คุณชายเย่ได้เข้าสู่หน่วยรบพิเศษแล้ว และตอนนี้เขากำลังกลับบ้านอย่างประสบความสำเร็จ”
หลังจากกล่าวจบ หยางเชี่ยนเชี่ยนเบ้ปากไปทางมู่หรงยานเอ๋อร์ ความหมายชัดเจน
เรื่องที่เย่เทียนหนิงตามจีบมู่หรงยานเอ๋อร์นั้นรู้กันทั่วโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจว จุดประสงค์ที่เย่เทียนหนิงกลับมานั้นชัดเจนมาก
เจิ้งซิ่วลี่ลี่ยิ้มด้วยความหยอกล้อ ” คุณชายเย่กลับมาแล้ว มีคนโชคร้ายแล้ว!”
หลังจากกล่าวจบ เจิ้งซิ่วลี่ทักทายเย่เทียนหนิง “คุณชายเย่ คุณมาหามู่หรงยานเอ๋อร์ใช่ไหม? เธออยู่ที่นั่น”
มู่หรงยานเอ๋อร์จ้องเจิ้งซิ่วลี่ด้วยความโมโห เธอเกลียดเย่เทียนหนิงมาก แต่ความแข็งแกร่งของเย่เทียนหนิงนั้นไม่ธรรมดา เธอจึงไม่อยากจะล่วงเกิน ไม่ง่ายเลยที่เย่เทียนหนิงจะไปเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร ทำให้เธออยู่อย่างสงบมาพักหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้กลับมาอีกแล้ว
สีหน้าของเย่เทียนหนิงมีความสุขทันที เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“หยวนฮ่าว เข่อเยว่ พวกเธอก็อยู่ที่นี่ด้วย ไม่ได้เจอกันนาน!”
“ไม่ได้เจอกันนาน คุณชายเย่ตากแดดจนผิวกลายเป็นสีแทนแล้ว” เจิ้งหยวนฮ่าวทักทายเย่เทียนหนิงด้วยรอยยิ้ม
เย่เทียนหนิงทักทายพวกเขา ดวงตาของเขาจ้องมู่หรงยานเอ๋อร์ซึ่งนั่งอยู่กับเฉินโม่ เผยให้เห็นความร้อนรุ่มในดวงตา
เพียงแต่เมื่อเขาเห็นเฉินโม่ที่นั่งอยู่ข้างมู่หรงยานเอ๋อร์แล้ว ดวงตาของเย่เทียนหนิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “ไอ้แก แกเป็นใคร?”
มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกว่าสายตาของเย่เทียนหนิงมีเจตนาร้าย เธอลุกขึ้นทันที จากนั้นจ้องมองเย่เทียนหนิงและกล่าวอย่างเย็นชา “เฉินโม่เป็นเพื่อนของฉัน เย่เทียนหนิงฉันขอเตือนคุณว่าอย่าทำอะไรไปเรื่อย!”
คนทั่วโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจวต่างรู้นิสัยของเย่เทียนหนิงถ้าใครพูดจาไม่เข้าหูเขาก็จะทำมือทำร้ายบุคคลนั้นทันที และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่หรงยานเอ๋อร์เกลียดเขามาก
มู่หรงยานเอ๋อร์กังวลว่า เย่เทียนหนิงจะคิดร้ายกับเฉินโม่ ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นแล้วเตือนเย่เทียนหนิง
เธอไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเฉินโม่ แต่กลัวว่าเฉินโม่โกรธแล้วทำร้ายเย่เทียนหนิงและมันจะทำให้ตระกูลเย่แห่งมณฑลซีไห่โกรธ แล้วจะทำให้เฉินโม่มีศัตรูที่ทรงพลัง
เย่เทียนหนิงจ้องมู่หรงยานเอ๋อร์ด้วยความไม่พอใจและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เดี๋ยวฉันค่อยมาคิดบัญชีกับเธอ”
จากนั้นเขาหันไปมองเฉินโม่อีกครั้ง “นี่แก ฉันกำลังถามแกอยู่ แกหูหนวกหรือ?”