แดนนิรมิตเทพ บทที่ 384
“ดูเหมือนเจ้าเด็กคนนี้ไม่เหมือนว่ากำลังโกหก หรือว่าเขาจะเป็นเพื่อนคุณหนูจินของตระกูลจินจริง ๆ?”
บางคนเริ่มสงสัย
แม้แต่เย่เทียนหนิงก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้จะรู้จักจินเพ่ยอวิ๋นจริง ๆ?”
เพียงแต่หลังจากที่เฉินโม่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้ว เขาก็ตะลึงทันที เขาเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ ตอนนี้เขาไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของจินเพ่ยอวิ๋น
ดังนั้น เฉินโม่จึงมองเจิ้งไห่เวยด้วยความจำใจ “คุณมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือของจินเพ่ยอวิ๋นหรือเปล่า? ผมเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ จำเบอร์โทรศัพท์ของเธอไม่ได้”
คราวนี้ ฝูงชนทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ฮ่า ๆ ๆ ……”
“เจ้าเด็กคนนี้ล้อเล่นหรือเปล่า?”
“ดูท่าทางเขาสิ แสดงได้เหมือนจริงมาก ผมเกือบเชื่อว่าเขารู้จักคุณหนูจินของตระกูลจินจริง ๆ แล้ว!”
เด็กหนุ่มที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งหัวเราะเสียงดัง มองเฉินโม่ราวกับเป็นตัวตลก
ตอนนี้สีหน้าของเหล่าคนดังเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม แน่ใจจว่าเฉินโม่ไม่เพียงแต่เป็นอันธพาล แล้วยังเป็นนักต้มตุ๋นอีกด้วย
สีหน้าของเจิ้งซิ่วลี่เต็มไปด้วยความดุร้าย และมีรอยยิ้มที่มุมปาก เมื่อได้เห็นเฉินโม่เป็นตัวตลก ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมาก
สีหน้าของเจิ้งหยวนฮ่าวเต็มด้วยความเย็นชา ความเหยียดหยามที่อยู่ในดวงตารุนแรงขึ้นไปอีก
อานเข่อเยว่ส่ายศีรษะเบา ๆ คิดอยู่ในใจ “ถึงขนาดนี้แล้ว นายยังยืนหยัดอยู่อีก นายชอบทำตัวโดดเด่นมากขนาดนี้เชียวเหรอ?”
สีหน้าของจางเสี่ยนและหยางเชี่ยนเชี่ยนต่างก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย การได้เห็นเฉินโม่เป็นตัวตลก เป็นเรื่องที่พวกเขามีความสุขที่สุด
มู่หรงยานเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างหน้าแดงด้วยความอาย เธอเหลือมองเฉินโม่แวบหนึ่ง เธอรู้สึกว่าเฉินโม่กำลังโกหก
“เฉินโม่ อย่าดื้อรั้นอีกเลย ฉันจะขอให้คุณพ่อขอบัตรเชิญจากผู้รับผิดชอบของโรงแรมมาสองใบ” มู่หรงยานเอ๋อร์กระซิบ
เจิ้งไห่เวยแสดงสีหน้าเยาะเย้ยอีกครั้ง มองเฉินโม่แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไอ้หนุ่ม นายจะเสแสร้งไปถึงเมื่อไหร่? ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอก ถ้านายยังไม่ออกไปอีก ฉันจะให้คนไล่นายออกไป!”
เมื่อเฉินโม่เห็นว่าเจิ้งไห่เวยไม่ได้โทรไปหาจินเพ่ยอวิ๋น และไม่ยอมบอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือของจินเพ่ยอวิ๋นให้กับตนเอง เห็นได้ชัดว่าเขาเจตนาทำให้ตนเองลำบากใจ ทำให้สีหน้าของเฉินโม่เปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย
ขณะที่พวกเขากำลังจะลงมือ ก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น “ผู้จัดการเจิ้ง เกิดอะไรขึ้น?”
ทุกคนหันไปมอง เห็นสาวสวยคนหนึ่งสวมชุดสีแดง ผิวขาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงชั้นสูงมีชื่อเสียงเหล่านั้นกล่าวทักทายหญิงสาวคนนี้ “สวัสดีค่ะ ประธานฟาง!”
“สวัสดีค่ะ!”
หญิงสาวเดินเข้ามาอยู่ท่ากลางหญิงชั้นสูงมีชื่อเสียงเหล่านั้นด้วยท่าทางอย่างสงบและผ่อนคลาย
เมื่อเจิ้งไห่เวยเห็นเธอเดินมา เขาก้มศีรษะลงทันทีและแสดงความเคารพ “ประธานฟาง มีคนแอบอ้างเป็นเพื่อนคุณหนูจิน ผมกำลังจะไล่เขาออกไป แต่นึกไม่ถึงว่าจะทำให้คุณตื่นตระหนก เป็นเพราะผมไร้ความสามารถ!”
ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมว่านเซี่ยงชื่อ ฟางหยู่ฉิงเป็นลูกสายของฟางปู้ถงเศรษฐีแห่งชิ่งหยาง
ฟางปู้ถงมอบโรงแรมว่านเซี่ยงทั้งหมดให้เธอเป็นคนบริหารรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสติปัญญาและความสามารถของฟางหยู่ฉิงโดดเด่นเพียงใด
ฟางหยู่ฉิงมองตามสายตาของเจิ้งไห่เวยมองเห็นเฉินโม่ที่สงบเยือกเย็น
ทันใดนั้น หัวใจของฟางหยู่ฉิงสั่นสะท้าน ร่างกายสั่นเล็กน้อย และเกือบจะล้ม
“คุณเฉิน คุณมาที่นี่ได้อย่างไร?”
ฟางหยู่ฉิงโค้งคำนับเฉินโม่เก้าสิบองศาทันที “ฟางหยู่ฉิงขอคารวะคุณเฉิน!”
ทันใดนั้นผู้ชมเงียบสนิท!
คนดังเหล่านั้นมองเฉินโม่ด้วยความประหลาดใจ และใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
เจิ้งไห่เวยซึ่งกำลังจะใช้เฉินโม่เพื่อขอความดีความชอบจากฟางหยู่ฉิงทันใดนั้นสีหน้าของเขาตกตะลึง มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ประธานฟางโค้งคำนับเจ้าเด็กคนนี้ มันเกิดอะไรขึ้น?”