แดนนิรมิตเทพ บทที่ 436
“จิตกระบี่ฟ้าคราม!”
กู่ฉางเฟิงยกมือขึ้นเหนือศีรษะ และคว้ากระบี่ชี่สีเขียว กระบี่ชี่สีเขียวนั้นเป็นเหมือนกระแสน้ำวนในทะเลลึกดูดซับชี่ฟ้าดินรอบข้างอย่างบ้าคลั่ง
ชั่วพริบตา แสงสีฟ้าก็พุ่งสูงขึ้น กระบี่ชี่สีเขียวก็ราวกับจะทะลุผ่านหลังคาและปักขึ้นไปบนท้องฟ้า!
ในขณะที่รัศมีของกระบี่ขนาดใหญ่สีฟ้าถึงขีดจำกัด กู่ฉางเฟิงก็ตะโกนร้อง แล้วฟาดลงไปที่หัวของเฉินโม่อย่างดุดัน!
ราวกับสายฟ้าฟาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดมิด กระบี่เล่มนี้ ดูเหมือนว่าจะสามารถฉีกทั้งท้องฟ้าออกจากกัน
หลี่ซู่เฟินและเวินฉิงต่างหวาดกลัวเหลือคณาในใจ กระทั่งอดหลับตาลงไม่ได้ ราวกับว่าทนเห็นเฉินโม่ตายอยู่ภายใต้กระบี่ไม่ได้
ท่านถังถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วแอบส่ายหัว “เฮ้อ ท้ายที่สุดก็เป็นเด็กหนุ่มที่บ้าบิ่น ไม่ฟังการห้ามปราม และนำพาปัญหามาถึงตัว!”
ในดวงตาที่โตของถังซืออวี่ก็เผยการทนไม่ไหวออกมา ราวกับว่ากำลังโศกเศร้าอยู่เงียบๆกับชายหนุ่มที่ทำให้เขาสนใจคนนี้
ซุนเฟยเยว่กับว่านฉางหรูและยังมีหนานกงหลงหน้าตาตื่นเต้นดีใจกัน แทบทนที่จะอยากให้เฉินโม่ถูกกระบี่นี้ฟันเป็นสองส่วน
มู่เจิ้งเฟิงกลับส่ายศีรษะ และรู้สึกเสียใจเล็กน้อยอยู่ในใจ “ถ้าไอ้หนูนี้ตายไป ความเป็นมาของยาวิเศษชั้นเลิศบนตัวของเขา เกรงว่าก็จะไม่มีวิธีค้นหาให้ชัดเจนได้ซะแล้ว น่าเสียดาย ในโลกนี้อาจจะมีนักกลั่นยาอัจฉริยะน้อยลงไปหนึ่งคนเสียแล้ว!”
เมื่อมองดูกระบี่ที่น่าตกใจนี้ ใบหน้าของเฉินโม่เรียบเฉย ไม่ถอยกลับเดินเข้าหา แล้วซัดหนึ่งหมัดออกไป
“ท่าที่หนึ่งหมัดเทพเทียนเสวียน สยบภูเขา!”
ไม่มีการถดถอย ไม่มีการหลบเลี่ยง ทั้งหมดล้วนเป็นการปะทะกันของกำลัง
ปัง!
เสียงดังสนั่น หมัดของเฉินโม่ที่ราวกับมีดหั่นเต้าหู้เช่นนั้น ทันใดนั้นได้ทำลายกระบี่ยักษ์สีเขียวไป จากนั้นก็ซัดหมัดหนึ่งไปที่หน้าอกของกู่ฉางเฟิง
โครม!
กู่ฉางเฟิงทั้งคนถูกกระแทกบินไปบนกำแพง แล้วกระแทกจนกำแพงทะลุเป็นรูขนาดใหญ่รูปมนุษย์พร้อมกับก้อนอิฐและดินทรายที่แหลก แล้วตกลงมาจากชั้นบนลงไปที่ลานบ้าน ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย
หมัดเทพเทียนเสวียนเป็นเคล็ดวิชาไม้ตายระยะประชิดของศิษย์สำนักเสวียนเต๋า ซึ่งถูกปรับปรุงให้ล้ำเลิศยิ่งขึ้นโดยอัจฉริยะของสำนักเสวียนเต๋ารุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ละหมัดล้วนสะท้อนให้เห็นถึงวิถีต้าเต๋า ส่วนกระบี่นี้ของกู่ฉางเฟิง เพียงแค่เพิ่งสัมผัสขอบของวิถีต้าเต๋า แล้วจะเป็นตัวแทนหมัดเทพเทียนเสวียนของวิถีต้าเต๋าได้อย่างไร?
ในครั้งนี้เฉินโม่ไม่ได้ยั้งมือ ใช้พลังบำเพ็ญเต็มๆเลยโดยตรง หากว่าเป็นปรมาจารย์ทั่วๆไป ก็จะถูกหนึ่งหมัดจู่โจมฆ่าโดยตรง แม้ว่ากู่ฉางเฟิงจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เฉินโม่ก็ยังรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาว่ายังไม่ตาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งไม่ธรรมดาเลย!
ในห้องทำงาน เงียบสงัดลง ทุกคนมองไปยังผนังที่ทะลุ ก็อดที่จะสูดลมหายใจเย็นเข้าไปไม่ได้
พลังหนึ่งหมัด ช่างน่ากลัวมากขนาดนี้!
หนานกงหลงมองดูอย่างเหม่อลอยไปที่ทั้งหมดนี้ และพูดกับตัวเองอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อว่า “เป็นไปได้อย่างไร? กระบี่ที่ทรงพลังขนาดนี้ เขาขวางเอาไว้ได้อย่างไรกันแน่!”
มู่เจิ้งเฟิงมองดูเฉินโม่ด้วยความรู้สึกครึ่งยินดีครึ่งกังวล เฉินโม่ยังไม่ตาย ความลับของยาวิเศษชั้นเลิศในตัวเขายังสามารถสอบถามต่อไปได้ กู่ฉางเฟิงพ่ายแพ้แล้ว ถัดไปควรจะเป็นตาของพวกเขาแล้วหรือ?
ท่านถังมองดูเฉินโม่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นไม่นาน ก็เผยรอยยิ้มเยาะเย้นตนอันขมขื่นขึ้น “คิดไม่ถึงเลยจริงๆ แก่แล้วๆ ถึงกับทำความผิดพลาดที่ตัดสินคนด้วยรูปร่างภายนอก ล้มเหลวซะแล้ว!”
ถังซืออวี่ปิดปากน้อยๆด้วยความประหลาดใจ แล้วมองไปในดวงตาโตของเฉินโม่ซึ่งเต็มไปด้วยดวงดาวเล็กๆ “นี่เป็นพลังที่มนุษย์สามารถมีอยู่จริงหรือ? เขา เขายังเป็นคนอยู่ไหม?
ในที่สุดหลี่ซู่เฟินและเวินฉิง คลายจิตใจดวงหนึ่งที่กังวลอยู่ ทว่ากับพลังที่เฉินโม่แสดงออกมาให้เห็น พวกเธอก็ตระหนกตกใจกันมากมายนัก กระทั่งว่าได้ตัดสินใจแน่วแน่ว่า รอให้กลับไปแล้วจะต้องสอบสวนเฉินโม่ให้ละเอียดอย่างแน่นอน
เฉินโม่หันมามองหนานกงหลง โดยที่เจตนาฆ่าไม่ได้ลดลง “ถึงตาแกแล้ว”