แดนนิรมิตเทพ บทที่ 432
“แกส่งคนไปเอาข้อความปิดดำของหอเซียงหม่านออกก่อน อีกเดี๋ยวจะมีคนรายงานแก”
ทันทีที่คำพูดของท่านถังจบลง โทรศัพท์มือถือของซุนเฟยเยว่ก็ดังขึ้น
เมื่อเห็นหมายเลขที่โทรมา ซุนเฟยเยว่ก็รีบแสดงรอยยิ้มที่ประจบทันที “คุณ คุณถัง……ไม่ใช่ ท่านอย่าได้เข้าใจผมผิด ผมไม่รู้ว่าคุณท่านถังเป็นพ่อของคุณ! ครับ ครับ ได้ ได้ ผมจะไปจัดการทันที……”
พูดถึงท้ายสุด ซุนเฟยเยว่เกือบจะร้องไห้เสียแล้ว
วางสายแล้ว ซุนเฟยเยว่มองไปยังท่านถังด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว และแสดงรอยยิ้มที่ต่ำต้อยที่สุด “ท่านถัง ทำไมท่านไม่บอกว่าตั้งแต่แรกว่าท่านผู้อำนวยการเป็นลูกชายของท่าน……ท่านวางใจได้ ผมจะรีบไปนำข้อวามปิดดำของหอเซียงหม่านออกทันที ทันที!”
“เสี่ยวหาน มานี่ เร็วเข้า! ส่งคนไปเอาข้อความปิดของหอเซียงหม่านออกในทันที ผลการตรวจสอบ? ไม่ต้องรอผลการตรวจสอบแล้ว เอาข้อความปิดออกก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
ซุนเฟยเยว่วิ่งไปวิ่งมา และออกคำสั่งไม่หยุดหย่อนรีบร้อนจนเกิดหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก
เขาฝันก็ไม่ได้คาดคิดว่าคุณท่านถังคนนี้จะเป็นพ่อแท้ๆของหัวหน้าใหญ่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งยานจิง!
หากรู้ตั้งแต่แรก ให้ความกล้าขนาดไหนแก่เขา เขาก็ไม่กล้าที่จะขัดแย้งกับท่านถัง
เมื่อมองดูฉากดังกล่าว หลี่ซู่เฟินกับเวินฉิงก็ประหลาดใจอย่างมาก ท่านถังยังคงมีไพ่ใบสุดท้ายจริงๆ ไม่สิ ไม่ใช่ไพ่ใบสุดท้าย แต่เป็นไพ่ราชา
สีหน้าของว่านฉางหรูกับหนานกงหลงสองคนหมองลง ดูเหมือนว่าแผนเดิมจะเปลี่ยนไป และซุนเฟยเยว่ก็หักหลังซะแล้ว
ท่านถังไม่ได้สนใจซุนเฟยเยว่ แต่ค่อยๆเดินไปที่ด้านข้างหลี่ซู่เฟิน แล้วผายมือยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ประธานหลี่ ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม?”
หลี่ซู่เฟินรีบคำนับกลับ “ท่านถังมีธุระก็สั่งมาได้เลย! หากว่าท่านถังไม่รังเกียจ ก็ไปคุยกันอย่างละเอียดที่ห้องทำงานของฉันเถอะ!”
ท่านถังพยักหน้า “ผมกำลังมีความตั้งใจนี้ รบกวนประธานหลี่นำทาง! ”
“ท่านถังเชิญ! ” หลี่ซู่เฟินทำท่ายื่นมือออกไปเรียนเชิญอย่างเคารพนบน้อม
“เชิญ!”
ท่านถังภายใต้การประคองของถังซืออวี่เดินอยู่ที่ด้านหน้า หลี่ซู่เฟินนำพาเวินฉิงกับฟางหนานอยู่ที่ด้านหลัง เตรียมที่จะจากไป
เฉินโม่ค่อยๆลุกขึ้น แล้วเหลือบมองว่านฉางหรูกับหนานกงหลงและยังมีมู่เจิ้งเฟิงสามคนเบาๆ แววตาเย็นชาราวกับว่าเป็นการเตือน
เมื่อเห็นว่าวิกฤตของเหม่ยหัว กรุ๊ปคลี่คลายลงอีกครั้ง และศัตรูกำลังจะจากไปต่อหน้าเขา ในที่สุดหนานกงหลงก็นั่งนิ่งไม่อยู่แล้ว
หนานกงหลงยืนขึ้นทันทีและตะโกนอย่างโกรธเคือง “เจ้าหนูเฉินโม่ แกหยุดลงซะ!”
ท่านถังกับหลี่ซู่เฟินและคนอื่นๆหยุดก้าว มองไปที่หนานกงหลงด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่รู้หนานกงหลงก็คือพ่อของหนานกงหลินเทียน
เฉินโม่หันกลับมา มองหนานกงหลงด้วยสีหน้าเฉยเมย “ในที่สุดแกก็ทนไม่ไหวแล้ว”
หนานกงหลงไม่ระงับความเกลียดชังในใจอีกต่อไป ดวงตาเปลี่ยนเป็นแดงก่ำในทันใด และก็ตะโกนร้องย่างดุดันว่า “กูอดทนมานานพอแล้ว วันนี้กูจะล้างแค้นให้เทียนเอ๋อร์ของกู! จะฉีกแกให้เป็นหมื่นๆชิ้น จากนั้นก็ฆ่าล้างสามชั่วโคตรของแก!
ใบหน้าของเฉินโม่เย็นชา เจตนาฆ่าที่ควบคุมไม่อยู่ได้ทะลุออกมาจากร่างกาย อุณหภูมิของทั้งห้องทำงานก็ลดลงอย่างกะทันหัน
“คำพูดหนึ่งประโยคของแก ก็เพียงพอแล้วที่กูจะลบล้างชื่อเสียงเรียงนามของตระกูลหนานกงของแกออก!”
หนานกงหลงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า น่าขันสิ้นดี แกคิดว่าวันนี้พวกแกชนะเหรอ? ผิด วันนี้พวกแกอย่าได้คิดที่จะจากไปเลยสักคน!”
“คุณกู่ เชิญออกมาเถอะ!” จู่ๆหนานกงหลงก็ตะโกนต่อความว่างเปล่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความได้ใจ
ชายชราในชุดคลุมสีเทาคนหนึ่ง แขวนอยู่นอกหน้าต่างอย่างประหลาด มือทั้งสองเกาเบาๆ หน้าต่างนิรภัยด้านนอกหน้าต่างก็ฉีกขาดราวกับเศษกระดาษ แล้วเขาก็เหยียบความว่างเปล่าเดินเข้ามาแบบนั้น