แดนนิรมิตเทพ บทที่ 462
ไม่รู้ว่ามู่หรงเค่อจงใจหรือไม่ สายตาเอาแต่จับจ้องมองไปที่เฉินโม่ที่ยังนั่งอยู่กับที่เหมือนเดิม ท่าทางหยิ่งยโสเป็นใหญ่ เหมือนว่ากำลังท้าทายเฉินโม่
อานเข่อเยว่ที่อยู่ด้านหลังกลุ่มคนเองก็แอบหันไปมองเฉินโม่ที่อยู่ด้านหลัง ในใจรู้สึกเหยียดหยาม “เฉินโม่ ตอนนี้นายน่าจะได้รู้ถึงความน่ากลัวของตระกูลมู่หรงแล้วละ นายยังคิดว่ามรดกเพียงแค่เท่านั้นของนายจะยังคู่ควรกับยานเอ๋อร์ได้อีกงั้นหรอ?”
เฉินโม่รู้สึกได้ถึงสายตาที่ท้าทายของมู่หรงเค่อ จึงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จ้องมองกลับไป ในแววตานิ่งสงบ ไร้อารมณ์ ไม่ว่าคุณจะมีอำนาจล้นฟ้า ร่ำรวยมากมายยังไง แต่สำหรับผมแล้ว ก็สามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย
มู่หรงเค่อดึงสายตากลับ ความเยือกเย็นในแววตาหายไป แล้วพูดเสียงดังว่า “ผมขอประกาศ งานฉลองวันเกิดในวันนี้ เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการครับ!”
แปะๆๆ……
เสียงปรบมือดังขึ้น หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ชายวัยกลางคนผู้สวมใส่เสื้อสูทสีขาวคนหนึ่งก็เดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม “หลานสาวยานเอ๋อร์ ขอให้หนูยิ่งโตยิ่งสวย!กำไลหยกคู่นี้คือของขวัญวันเกิดที่ลุงมอบให้กับหนูนะ!”
กำไลหยกคู่นั้น มีสีเขียวมรกตทั่วทั้งวง เพียงแค่มองดูก็รู้ได้ในทันทีว่าไม่ใช่สิ่งของธรรมดา กรอบของกล่องไม้ก็มีทองคำฝังรอบ ราคาอย่างต่ำก็ประมาณหลายแสน
หยางเชี่ยนเชี่ยนที่ใกล้ชิดรู้จักกับสินค้าแบรนด์ดังเป็นอย่างดี ถึงกับปิดปากตะลึงพูดออกมาว่า “นั่นมันรุ่นลิมิเตดอีดิชั่นของหอยู่ซู่นี่นา พระเจ้า ราคาอย่างน้อยๆก็ต้องหลักล้านแล้วนะ!”
ทุกคนต่างตกตะลึง มาถึงก็มอบของขวัญหลักล้านให้กัน แม้แต่พวกลูกคนรวยที่อยู่ในงานต่างก็ถึงกับอึ้ง
มู่หรงยานเอ๋อร์ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เพียงแค่รับกล่องไม้มาแล้วยื่นให้กับพ่อบ้านที่อยู่ข้างกาย จากนั้นก็ทำความเคารพขอบคุณ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยานเอ๋อร์ขอบคุณคุณลุงฟางมากค่ะ!”
แล้วชายวัยกลางคนท้องโตอีกคนก็เดินตามเข้าไป “หลานสาวยานเอ๋อร์ ลุงรู้ว่าหนูเรียนหนังสืออยู่ที่อู่โจว น้องมู่หรงมันขี้งก ไม่ซื้อรถให้หนูสักที ผ่านวันนี้ไปหนูก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว ตอนนี้ที่ลุงมีรถสปอร์ตรุ่นใหม่คันหนึ่งอยู่พอดี มอบให้กับหนูแล้วกันนะ”
พูดจบ ชายวัยกลางคนท้องโตก็ยื่นกุญแจรถให้กับมู่หรงยานเอ๋อร์ด้วยรอยยิ้ม
ทุกคนตกตะลึงกันอีกครั้ง ดูจากกุญแจรถแล้วสามารถดูออกได้ว่านั่นน่าจะเป็นรถปอร์เช่ มูลค่าราคาแพงกว่ากำไลหยกเมื่อกี้อย่างมาก
“ยานเอ๋อร์ขอบคุณคุณลุงหลินมากค่ะ!”
ตามด้วย ผู้คนที่อยู่ด้านหน้าต่างก็มอบของขวัญมูลค่าสูงทั้งนั้น ที่แย่ที่สุดก็ราคากว่าหลักแสน และที่แพงที่สุดมีมูลค่าราคามากถึงประมาณห้าล้าน
พวกคนดังที่มาในงาน มีประมาณห้าสิบกว่าคน คิดคำนวณมูลค่าของรางวัลเฉลี่ยที่คนละหนึ่งล้าน งานวันเกิดครั้งนี้ของมู่หรงยานเอ๋อร์ ก็ได้รับของขวัญมูลค่าเกือบครึ่งร้อยล้านมาแล้ว
หยางเชี่ยนเชี่ยนตกตะลึงจนหุบปากไม่ลง แม้ว่าฐานะทางบ้านของเธอจะไม่แย่ แต่เมื่อเทียบกับมหาเศรษฐีแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ ถือว่ายังห่างไกลกันอีกเยอะมาก งานวันเกิดเพียงงานเดียวของมู่หรงยานเอ๋อร์ ของขวัญที่ได้รับมามีค่ามากเกินกว่ามูลค่าทรัพย์สินทางบ้านของเธอหลายเท่าแล้ว
แม้ว่าอานเข่อเยว่จะรู้ฐานะตัวตนของมู่หรงยานเอ๋อร์มานานแล้ว แต่ก็ยังตกตะลึงเหมือนกับหยางเชี่ยนเชี่ยน แต่เนื่องจากเตรียมใจมาแต่แรกแล้ว อานเข่อเยว่จึงยังถือว่าควบคุมตัวเองได้ดีกว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนที่ตะลึงจนลืมตัว
แม้กระทั่งเจิ้งหยวนฮ่าวที่มองตัวเองสูงส่งนักหนา แต่ในเวลานี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพ่ายแพ้ เมื่อเผชิญหน้าเทียบกับตระกูลยิ่งใหญ่อย่างตระกูลมู่หรงแล้ว ฐานะทางบ้านของเขาไม่มีค่ามากพอให้พูดถึงด้วยซ้ำ
“ยานเอ๋อร์ขอขอบคุณคุณลุงคุณอาทุกท่านอีกครั้งค่ะ ขออภัยที่ยานเอ๋อร์ขอตัวสักครู่ หนูจะไปทักทายกับเพื่อนพ้องของหนูสักหน่อยค่ะ!” มู่หรงยานเอ๋อร์ทำความเคารพ แล้วพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา
“หนูยานเอ๋อร์เชิญตามสบายเลยจ้ะ!” ผู้มีอิทธิพลทุกคนต่างก็พูดด้วยรอยยิ้ม ท่าทางการกระทำมีเมตตาใจดี
ยานเอ๋อร์ทำความเคารพอีกครั้ง จากนั้นก็เดินไปยังโซนที่กลุ่มคนหนุ่มสาวรวมตัวกัน
“ยานเอ๋อร์มาแล้ว!” พวกลูกคนรวยต่างก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา
บางคนถึงขั้นจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเอง และมีพวกผู้ชายที่ฐานะทางบ้านแย่กว่ามู่หรงยานเอ๋อร์มากถึงขั้นหน้าแดงก่ำขึ้นมา ยังไม่ทันรอให้มู่หรงยานเอ๋อร์เดินมาถึง ต่างก็ก้มหน้าลงกันหมดแล้ว