แดนนิรมิตเทพ บทที่ 478
เหรินเทียนหยู่ยืนมือไขว้หลัง จ้องมองมู่หรงเค่อที่มีสีหน้ามืดขรึม พูดเยาะว่า “นายมันซื่อจริงๆ คิดว่าอย่างนี้จะสามารถขัดขวางฉันได้? ตลกสิ้นดี!”
“ฉันจะยังไม่ฆ่านาย ฉันจะให้นายได้เห็นลูกสาวของนายกลายเป็นของเล่นของฉันด้วยตาตัวเอง!”
“แกกล้าเรอะ!”
ดวงตาของมู่หรงเค่อแทบจะพ่นไฟออกมา ฮีโร่คนหนึ่งถูกกดดันจนถึงจุดนี้ ช่างน่าสลดใจยิ่งนัก!
“ฮ่าๆๆ!ดูแล้วนายรู้สึกแย่มากเลยนะ แต่ว่าฉันมีความสุขมากเชียวละ!” เหรินเทียนหยู่สนุกสนานจนเลือดพลุ่งพล่าน มองดูมู่หรงยานเอ๋อร์ แล้วก้าวเดินเข้าไปหา
มู่หรงเค่อมองดูลุงสุ่ย ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
ลุงสุ่ยส่ายหัวอย่างจนใจ บาดแผลในร่างกายของเขาไม่สามารถเก็บกดลงไปได้แล้ว จึงไม่มีกำลังที่จะขัดขวางเหรินเทียนหยู่
มู่หรงเค่อสิ้นหวัง สายตามองไปยังปืนของพวกมือปืนที่ตกอยู่บนพื้น แล้วค่อยๆเดินไป
มู่หรงยานเอ๋อร์ถอยหลังไม่หยุด ไม่นานก็ชนเข้ากับกำแพง ด้านหลัง ไม่มีทางให้หนีอีกแล้ว
พวกอานเข่เยว่คลานอยู่บนพื้น สีหน้ากังวล แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าความน่ากลัวของเหรินเทียนหยู่ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับด้วยซ้ำ
หยางเชี่ยนเชี่ยนพูดอย่างเป็นห่วงว่า “เข่อเยว่ ทำยังไงดี? พวกเราจะมองดูยานเอ๋อร์ถูกไอ้สารเลวคนนั้นรังแกอยู่เฉยๆไม่ได้นะ!”
อานเข่อเยว่มองดูมู่หรงยานเอ๋อร์ที่ถูกกดดันอยู่มุมกำแพง ในแววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง นึกคิดหาวิธี แต่เพียงแค่พวกเธอ แค่ปกป้องตัวเองยังเป็นปัญหา แล้วจะเอาอะไรไปช่วยคนอื่น?
หมดหนทาง ใบหน้าของอานเข่อเยว่มีความเศร้าใจ พูดเสียงเบาว่า “เกิดเรื่องมาขนาดนี้แล้ว พวกเราเองก็หมดปัญญา คนคนนั้นแม้แต่ปืนยังไม่กลัว แม้ตำรวจมาก็ไม่สามารถช่วยเหลือยานเอ๋อร์ได้ บางทีนี่อาจจะเป็นชะตาชีวิตของยานเอ๋อร์ พวกเราอย่าได้เสนอหน้าดีกว่า ไม่อย่างนั้นไม่เพียงแต่ช่วยเหลือยานเอ๋อร์ไม่ได้ แล้วยังเอาชีวิตตัวเองไม่รอดด้วยอีก!”
หยางเชี่ยนเชี่ยนสีหน้าไม่พอใจ หันไปมองเฉินโม่ที่มีนิ่งเฉยอยู่ด้านหลัง พูดเสียงเบาว่า “ปกติแล้วเฉินโม่ต่อสู้เก่งไม่ใช่งั้นหรอ? ทำไมยังไม่ออกไปช่วยยานเอ๋อร์อีกละ?”
อานเข่อเยว่เองก็หันไปมองเฉินโม่ แล้วส่ายหัว “ความสามารถแค่นั้นของเขา ทำได้แค่มีหน้าในโรงเรียนเท่านั้นแหละ หากเทียบกับยอดฝีมือเช่นนี้จริงๆ ถึงแม้เขาจะออกไปช่วยก็แค่เป็นการเอาชีวิตไปทิ้งเท่านั้น แล้วเธอยังหวังให้มันช่วยยานเอ๋อร์? คนที่ชอบอวดดีอย่างเขา ถ้าหากมีความมั่นใจมากพอ คงออกไปช่วยตั้งนานแล้วละ!”
หยางเชี่ยนเชี่ยนสีหน้าเศร้าใจ ในดวงตามีน้ำตาคลอ “อย่างนั้นพวกเราจะมองดูยานเอ๋อร์ถูกไอ้สารเลวนั่นรังแก แล้วไม่ช่วยเหลืออะไรงั้นหรอ?”
จางเสี่ยนพูดเสียงเบาด้านหลังว่า “เจ้านั่นมีความแค้นใหญ่หลวงกับตระกูลมู่หรง เขาไม่มีทางปล่อยตัวยานเอ๋อร์แน่นอน ขอแค่อีกเดียวเขาไม่ทำอะไรพวกเราก็พอแล้ว เธอปกป้องตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ อย่าได้คิดจะไปช่วยคนอื่นเลย”
หยางเชี่ยนเชี่ยนก้มหน้าลงอย่างสิ้นหวัง ทำใจมองดูต่อไปไม่ได้
ที่ไม่ไกลนัก หยู่เหวินฟางเฟยที่คลานอยู่กับพื้นเช่นกันพูดเสียงเบาอย่างร้อนรนว่า “พี่คะ เจ้านั่นมันจะรังแกน้องยานเอ๋อร์ พี่มีวิธีช่วยเธอมั้ย?”
หยู่เหวินเฉิงสีหน้าโหดร้าย สองมือกำหมัดแน่น แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรวู่วาม แม้แต่ลุงสุ่ยยังสู้ได้เพียงแค่สี่กระบวนท่าเท่านั้น แม้เขาจะออกไปช่วยก็ถือเป็นแค่การเอาชีวิตไปทิ้ง
สุดท้าย หยู่เหวินเฉิง สีหน้าหยู่เหวินเฉิงค่อยๆเรียบเฉย ถอนหายใจ “ช่างเถอะ บนโลกนี้มีผู้หญิงมากมาย ฉันหยู่เหวินเฉิงไม่ใช่คนโง่ที่จะสละชีวิตเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง หากตระกูลมู่หรงล้มลง ตระกูลหยู่เหวินของฉันก็ได้มีโอกาสเติบโต ถึงตอนนั้นอยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็มี!”
หยู่เหวินเฉิงถลึงตาใส่น้องสาวตัวเอง แล้วต่อว่าเสียงเบาว่า “เธอหุบปากซะ เจ้านั่นมันโรคจิต อย่าให้มันสังเกตเห็นเธอเด็ดขาด!”
หยู่เหวินฟางเฟยตกใจกลัวจนไม่กล้าพูดจา ถ้าหากถูกเจ้านั่นรังแกต่อหน้าผู้คน เธอคงไม่มีหน้าที่จะใช้ชีวิตต่อไป
สายตาของเหรินเทียนหยู่มีความชั่วร้าย ความสวยงามของมู่หรงยานเอ๋อร์ มากพอที่จะทำให้ผู้ชายขาดการควบคุมตน ยิ่งเหรินเทียนหยู่ที่คิดแต่อยากจะแก้แค้นตระกูลมู่หรง
เหรินเทียนหยู่หันหน้าฉีกยิ้มร้ายกาจ “มู่หรงเค่อ ดูให้ดีละ ความสนุกเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”
บท