แดนนิรมิตเทพ บทที่ 476
มู่หรงเค่อสีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งแย่ เหรินเทียนหยู่ ไม่ได้ลงมือในทันที เห็นได้ชัดว่าคิดอยากจะทรมานคนตระกูลมู่หรง ยังไม่รอให้เขามาฆ่าทิ้ง ความหวาดกลัวก็ได้ทรมานกลืนกินคนของตระกูลมู่หรงแล้ว
ลุงสุ่ยแอบถอนหายใจ การกระทำเช่นนี้ของเหรินเทียนหยู่ ไม่เพียงแต่กำลังทรมานคนตระกูลมู่หรง แต่ก็เป็นการทรมานเขาด้วยเช่นกัน
“ช่างเถอะๆ วันนี้ให้ข้าต่อสู้เพื่อคุณท่านมู่หรงครั้งสุดท้ายแล้วกัน ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณในการช่วยชีวิตในตอนนั้น!”
ร่างกายของลุงสุ่ยมีพลังที่แข็งแกร่งระเบิดแผ่ออกมา ร่างกายที่โค้งงอยืดตัวตรงขึ้นในทันที รอยเหี่ยวย่นใบหน้าก็หายไปจนหมด เหมือนดั่งว่าอายุน้อยลงถึงสิบปี
“นี่มันอะไรกัน?”
พวกลูกคนรวยในเขตเจียงหนานที่อยู่ด้านหลังถึงกับอึ้งตะลึง
“นี่คือการเปลี่ยนแปลงอายุที่ในตำนานพูดถึงอย่างนั้นหรอ?”
มู่หรงเค่อกลับพูดเสียงเบาออกมาอย่างเศร้าเสียใจว่า “ลุงสุ่ย!”
คนอื่นคิดว่าลุงสุ่ยอ่อนวัยลงแล้ว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น เขารู้ว่าลุงสุ่ยปลดพลังที่กดทับบาดแผลในร่างกายทิ้ง เพื่อเตรียมจะสู้เต็มที่
แต่ว่า หากเป็นเช่นนี้ ถึงแม้สุดท้ายจะเอาชนะเหรินเทียนหยู่ได้ ชีวิตของลุงสุ่ยก็ต้องจบสิ้นด้วยเช่นกัน
ลุงสุ่ยที่อ่อนวัยลง มีความกระฉับกระเฉง พอดูออกได้ถึงอดีต เขาชี้หน้าเหรินเทียนหยู่ พูดเสียงเย็นชาว่า “เศษซากสมาคมซานเหอ ตายซะ!”
ลุงสุ่ยจับเข้าในอากาศ นวมสีดำคู่หนึ่งก็ปรากฏออกมา สวมใส่เข้าที่มือทั้งสองข้างของเขา ดูวัสดุแล้วผลิตมาจากเหล็กท่อของจริง
ตามด้วย ร่างกายลุงสุ่ยเคลื่อนไหว ปล่อยหมัดเข้าใส่เหรินเทียนหยู่
การกระทำของเขาพลิ้วไหว เหมือนดั่งก้อนเมฆและสายน้ำ สำเร็จกระบวนท่า เพียงหนึ่งลมหายใจ ทำให้ผู้คนอดที่จะชื่นชมไม่ได้!
เหรินเทียนหยู่ยิ้มชั่วร้าย “พลังความสามารถเช่นนี้สิถึงจะมีค่าพอให้ฉันเล่นด้วยอย่างจริงจัง!”
ตามด้วยเหรินเทียนหยู่กระทืบเท้าเบาๆ ร่างกายทิ้งเงาไว้อยู่กับที่ แล้วปล่อยหมัดออกไป
ปัก!
ทั้งสองคนกระแทกกันแล้วต่างก็เซถอยหลังไปหลายก้าว มีความเท่าเทียมกัน
“อีกครั้ง!” ลุงสุ่ยกระฉับกระเฉง เหมือนดั่งว่าไม่ได้ต่อสู้อย่างพอใจเช่นนี้มานานแล้ว บนใบหน้ามีเจตนาการต่อสู้อย่างหนักแน่น
เหรินเทียนหยู่สีหน้าเรียบเฉย แล้วปล่อยหมัดสองข้างพุ่งเข้าใส่ลุงสุ่ย ทั้งคู่สูสีกัน เพียงชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสองก็ได้ประลองกันไปถึงสามหมัดแล้ว!
ลุงสุ่ยดูแล้วมีความสามารถเทียบเคียงกับเหรินเทียนหยู่ แต่ภายในใจเขารู้ดี ว่าบาดแผลเก่าในร่างกายของตัวเองเริ่มออกฤทธิ์แล้ว เขาอดทนได้อีกไม่นาน
“มังกรคู่สังหาร!”
ลุงสุ่ยใช้วิชาที่แกร่งที่สุด เตรียมที่จะทุ่มสุดตัว หากยิ่งยื้อต่อไป ก็ยิ่งไม่เป็นดีต่อตัวเขา
นวมสีดำแปรเปลี่ยนเป็นมังกรดำขนาดใหญ่ แววตาดุเดือด พลังสามารถกลืนกินทั้งหมดทิ้งได้ ซ้ายหนึ่งขวาหนึ่ง เหมือนดั่งว่าอยากจะกลืนกินเหยื่อตรงหน้าทิ้งซะให้สิ้นซาก
เหรินเทียนหยู่เองก็ไม่กล้ารอช้า ดวงตาแดงก่ำ ผิวหนังของร่างกายเองก็มีสีแดงเลือดปรากฏขึ้นอ่อนๆ
“หัตถ์เหล็กโลหิต!”
เหรินเทียนหยู่พนมมือ มือสีเลือดขนาดใหญ่จับมังกรดำตัวใหญ่สองตัวนั้นไว้ในฝ่ามือ แล้วก็ทาบเข้าด้วยกัน
ภายในห้องโถงมีเสียงเหล็กกระแทกกันดังสนั่น เหมือนดั่งมีระฆังขนาดใหญ่กระแทกลงสู่พื้น
รอบตัวเหรินเทียนหยู่มีสีเลือดสว่างขึ้น มังกรดำขนาดใหญ่สองตัวมลายหายไป ร่างกายขอลุงสุ่ยกระเด็นลอยออกไป เซถอยหลังไปกว่าเจ็ดแปดก้าวถึงจะสามารถหยุดยืนนิ่งได้
พรูด!
ในที่สุดก็เก็บกดไว้ไม่ไหวแล้ว ลุงสุ่ยกระอักเลือดออกมา
เพียงสี่กระบวนท่า เอาชนะลุงสุ่ยผู้อยู่ระดับแดนในชั้นสูงสุด!
รอบตัวเหรินเทียนหยู่มีแสงสีเลือดล้อมตัว กวาดมองทุกคน เหมือนดั่งสัตว์ร้ายที่ปีนป่ายขึ้นมาจากนรก ทำเอาตกตะลึงไปทั่วงาน!
ทุกคนต่างก็ถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว ไม่มีใครกล้าสบตากับเหรินเทียนหยู่ ต่างก็กลัวว่าจะหลบเลี่ยงไม่ทันกันทั้งนั้น
“มู่หรงเค่อ เอาชีวิตมาซะ!” เหรินเทียนหยู่ระเบิดพลังร้ายกาจ เหมือนดั่งว่าควบคุมความต้องฆ่าในใจไว้ไม่อยู่แล้ว ฝ่ามือมุ่งตรงไปที่มู่หรงเค่อ
มู่หรงเค่อรู้สึกเศร้าใจ ระยะห่างใกล้ขนาดนี้ เขาหลบไม่ทันด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าฮีโร่ของตระกูลมู่หรงจะต้องสิ้นชีพแล้ว มู่หรงยานเอ๋อร์ที่เดิมทียืนอยู่ด้านหลังมู่หรงเค่อ กลับตะโกนออกมาว่า “อย่าทำร้ายพ่อของฉันนะ!”
ตามด้วย ร่างกายของมู่หรงยานเอ๋อร์เคลื่อนไหวมาบังอยู่ตรงหน้ามู่หรงเค่อ เตรียมใจที่จะตายแทนพ่อ!
มู่หรงเค่อที่กำลังหลับตารอความตาย เบิกตาโตทันที แล้วตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศกว่า “ยานเอ๋อร์ อย่า!”
มู่หรงเค่อพยายามใช้แรงทั้งหมดคิดอยากจะผลักมู่หรงยานเอ๋อร์ออก แต่ก็ไม่ทันเวลา
ช่วงวินาทีอันตราย ในมุมห้อง เฉินโม่ที่เดิมทีหลับตาบำรุงจิตอยู่ เบิกตาโตขึ้นทันที