แดนนิรมิตเทพ บทที่ 480
“ช่างเถอะ วันนี้ตระกูลมู่หรงของฉันมีจุดจบที่ต้องตาย แล้วจะเอาชีวิตนายมารวมด้วยทำไมกันละ?”
คนใกล้ตายมักจะมีเมตตา มู่หรงเค่อไม่อยากให้เฉินโม่มาทิ้งชีวิตตายเสียเปล่า จึงพูดว่า “ไอ้หนุ่ม เรื่องของตระกูลมู่หรง ไม่ต้องการนายมายุ่งวุ่นวายอย่างนายคิดอยากจะจีบยานเอ๋อร์ ถึงแม้ฉันจะตายก็ไม่มีทางตกลง!”
“ไปให้พ้นซะ!”
ลุงสุ่ยมองเฉินโม่นิ่งๆ ในแววตามีความสงสัย เขาเคยสงสัยว่าเฉินโม่เป็นนักบู๊ แต่กลับสัมผัสถึงพลังชี่แท้ในตัวเฉินโม่ไม่ได้เลยสักนิด
สุดท้ายลุงสุ่ยจึงทำได้แค่ส่ายหัวอย่างผิดหวัง หัวเราะเยาะตัวเอง “แม้เขาจะฝึกฝนบู๊มาตั้งแต่เกิด แต่อายุเท่านี้ก็ไม่มีทางเก่งเกินกว่าฉันได้ แม้แต่ฉันเองยังพ่ายแพ้ในสี่กระบวนท่า ถึงแม้เขาจะเป็นนักบู๊จริงๆ ก็ทำได้แค่เอาชีวิตไปทิ้งเท่านั้นแหละ”
เหรินเทียนหยู่มองเฉินโม่ สีหน้าชั่วร้าย ในแววตามีเจตนาฆ่า “ไอ้หนุ่ม แกเป็นใคร? มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลมู่หรง?”
เฉินโม่สีหน้าเรียบเฉย จ้องมองเหรินเทียนหยู่เงียบๆ พูดนิ่งๆว่า “ฉันชื่อเฉินโม่ เป็นเพื่อนของยานเอ๋อร์ นายรังแกเพื่อนของฉันต่อหน้าฉัน มันทำให้ฉันเสียศักดิ์ศรีอย่างมาก!”
เหรินเทียนหยู่ยังไม่พูดอะไร ลูกน้องผู้อาวุโสและชายหนุ่มสองคนนั้นของเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความดูถูกเยาะเย้ย
“เฉินโม่? ไม่เคยได้ยินมาก่อน!” ชายหนุ่มสองคนพูดเย้ยหยัน
“ไอ้หนุ่ม ศักดิ์ศรีของนายมีค่า หรือว่าชีวิตของนายมีค่า? ฉันดูแล้วนายอายุยังน้อย รีบไปให้พ้นซะ จะได้ไม่ต้องตาย” ผู้อาวุโสคนนั้นพูดดูถูก
เหรินเทียนหยู่สีหน้าแปลกประหลาด รู้สึกว่าเฉินโม่น่าขำ คิดแล้วก็จริง ผู้มีอิทธิพลมากมายขนาดนี้คลานอยู่กับพื้น เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วไม่กล้าส่งเสียงใดๆสักนิด เฉินโม่เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่ง แต่กล้ามาพูดถึงศักดิ์ศรีกับเหรินเทียนหยู่?
เรื่องนี้มันช่างน่าตลกจริงๆ
“ไอ้หนุ่ม วันนี้ฉันกำลังจะได้แก้แค้น ถือว่าอารมณ์ดี จะไม่คิดแค้นกับนายแล้วกัน คุกเข่าคำนับขอโทษฉันซะ จากนั้นก็รีบไปให้พ้น!” เหรินเทียนหยู่สีหน้าดูถูก ไม่หันมองเฉินโม่โดยตรง
เฉินโม่เองก็ไม่โกรธ มุมปากฉีกยิ้มขึ้น พูดอย่างมีลับลมคมในว่า “ใช่สิ ลืมไปหนะ ฉันยังมีอีกชื่อหนึ่ง พวกคนด้านนอก ต่างก็เรียกฉันว่า เฉินไต้ซือ!”
“เฉินไต้ซือ!”
พวกผู้มีอำนาจชื่อเสียงสีหน้างุนงง เหมือนว่าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
แต่พวกอานเข่อเยว่และเจิ้งหยวนฮ่าวรวมทั้งนักเรียนของโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจว ต่างก็ตัวสั่นสะดุ้ง ตะลึงไปเล็กน้อย!
“เฉินไต้ซือ!เป็นไปได้ยังไงกัน?”
พวกหยูเจียหาวและคนอื่นๆมองเฉินโม่ แววตาเต็มไปด้วยความน่าเหลือเชื่อ คนทั่วไปที่ถูกเรียกว่าไต้ซือ ใครบ้างที่ไม่ได้มีอายุมากถึงเจ็ดแปดสิบ อย่างน้อยก็ต้องมากกว่าห้าสิบปีขึ้นไป เฉินโม่ที่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย จะเป็นเฉินไต้ซือที่มีชื่อเสียงสะท้านไปทั่วเมืองฮ่านหยางได้ยังไงกัน?
พวกเขาไม่มีใครเชื่อ ต่างก็คิดว่าเฉินโม่เพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของเฉินไต้ซือ เพื่อข่มขู่เหรินเทียนหยู่
หยูเจียหาวและเจิ้งหยวนฮ่าวสีหน้าดูถูก “ไอ้ขยะเฉินโม่ ความตายมาเยือนตรงหน้าแล้วยังขี้โกหกอยู่อีก มันคิดว่าที่นี่คือโรงเรียนงั้นหรอ? วิธีนี้หากเขาใช้กับนักเรียนโง่พวกนั้นยังพอได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเพชฌฆาตผู้ฆ่าคนอย่างเหรินเทียนหยู่ ถือเป็นการหาเรื่องตายจริงๆ!”
อานเข่อเยว่เองก็ส่ายหัว สีหน้าเอือมระอา “เฉินโม่ ความตายมาเยือนขนาดนี้แล้วนายยังอวดดีอีก ฉันจะรอดูสิว่าเดี๋ยวนายถูกแฉคำโกหกแล้วนายจะทำยังไง!”
แต่ลุงสุ่ยถึงกับสะดุ้งตัวสั่น เหมือนคิดอะไรขึ้นได้ แววตาที่เดิมทีมีแต่ความสิ้นหวัง ได้มีประกายขึ้นมา