แดนนิรมิตเทพ บทที่ 485
แต่ขณะที่มือของเหรินเทียนหยู่กำลังจะสัมผัสร่างกายของมู่หรงยานเอ๋อร์ แสงสีเขียวก็พุ่งออกมาจากหยกแขวนที่อยู่บนหน้าอกของมู่หรงยานเอ๋อร์ แล้วแสงสีเขียวนั้นก็ก่อตัวเป็นเกราะป้องกันสีเขียวใส ๆ อยู่รอบตัวมู่หรงยานเอ๋อร์ มือของเหรินเทียนหยู่ถูกสกัดกั้นอยู่ภายนอกและยากที่จะเข้าไปได้!
“นี่มัน?”
สีหน้าของเหรินเทียนหยู่เต็มไปด้วยความตกใจ แล้วจ้องหยกแขวนขนาดเล็กที่อยู่บนหน้าอกขอมู่หรงยานเอ๋อร์ด้วยความอึ้ง
มู่หรงยานเอ๋อร์ที่หลับตาและรอความตาย รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้น พบว่าตนเองอยู่ในเกราะป้องกันสีเขียว และคนสารเลวคนนั้นกำลังจ้องมองตนเองอยู่
ความโลภประกายผ่านดวงตาของเหรินเทียนหยู่ “ที่แท้เป็นเครื่องราง! มิน่าเจ้าเด็กคนนั้นถึงได้ไม่กลัวอะไรเลย!”
“ฮึ่ม แต่ถ้าแกคิดที่จะใช้เครื่องรางมาขัดขวางฉัน แกประเมินฉันต่ำเกินไปแล้ว!”
เหรินเทียนหยู่รู้สึกโกรธเล็กน้อย ปล่อยหมัดออกไปอย่างแรง กระแทกไปที่เกราะป้องกันสีเขียวที่อยู่รอบตัวมู่หรงยานเอ๋อร์
มู่หรงยานเอ๋อร์ตกใจจนกรีดร้องออกมาอีกครั้ง ใช้สองมือปิดตาตนเองเอาไว้
ปัง!
เหรินเทียนหยู่กระเด็นออกไปอีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง “นี่เป็นเครื่องรางอะไร มันสามารถสกัดกั้นพลังหมัดครึ่งส่วนที่ผมปล่อยออกไปครึ่งหนึ่งได้!”
มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกว่าเหรินเทียนหยู่โจมตีไม่ถูกร่างกายของเธอ และเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง พบว่าสีหน้าของเหรินเทียนหยู่เต็มไปด้วยความอึ้ง และเกราะป้องกันสีเขียวที่อยู่รอบตัวเธอยังคงไม่บุบสลาย
“เกราะป้องกันสีเขียวนี้น่าจะออกมาจากหยกแขวนที่เฉินโม่มอบให้ฉัน มิน่าลุงสุ่ยถึงได้บอกว่าฉันได้รับของขวัญล้ำค่าที่สุด ที่แท้หยกแขวนนี้สามารถปกป้องตัวได้!”
มู่หรงยานเอ๋อร์มองหยกแขวนขนาดเล็กที่อยู่บนหน้าอกของตนเอง และเกิดความอบอุ่นในหัวใจ
“ฉันไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถทำลายอันนี้ได้!” เหรินเทียนหยู่กัดฟันและปล่อยหมัดกระแทกอีกครั้ง ซึ่งเขาใช้กำลังทั้งหมดของตนเอง
คราวนี้ มู่หรงยานเอ๋อร์ไม่ได้รู้สึกกลัว แค่เฝ้ามองเหรินเทียนหยู่ปล่อยหมัดกระแทกด้วยสีหน้าดุร้าย และมีรอยยิ้มจาง ๆ อยู่บนใบหน้าที่สวยงามของเธอ
ปัง!
เสียงดังสนั่น คราวนี้เหรินเทียนหยู่ถูกแรงสะเทือนจนกระเด็นกลับหัวออกไป และตกลงบนพื้นที่โล่ง
“เป็นไปได้ยังไง?!”
“ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องรางระดับสูง แต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีทั้งหมดของผมได้ นี่เป็นเครื่องรางอะไรกันแน่?”
ทันใดนั้นเหรินเทียนหยู่ก็นึกถึงตำนานเรื่องหนึ่ง และสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก “หรือว่าจะเป็นเครื่องรางเทพในตำนาน!”
ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับใกล้ปรมาจาย์แล้ว หยกแขวนนี้สามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้ เว้นแต่จะเป็นเครื่องรางเทพในตำนาน มิเช่นนั้นเขาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีอะไรในโลกนี้ที่สามารถสกัดกั้นการโจมตีของเขาได้
คนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงกับภาพอัศจรรย์นี้ โดยเฉพาะเหล่าลูกเศรษฐีของมณฑลเจียงหนาน
“เกราะป้องกันสีเขียวที่อยู่รอบตัวยานเอ๋อร์นั้นออกมาจากหยกแขวนบนหน้าอกของเธอใช่ไหม? นึกไม่ถึงว่าหยกแขวนนี้จะสามารถป้องกันตัวได้!”
“มันน่าขำจริง ๆ ก่อนหน้านั้นพวกเราเคยหัวเราะเยาะหยกแขวนชิ้นนี้ของเฉินโม่ ที่แท้มันเป็นสมบัติที่ล้ำค่า!”
“พวกเราล้วนมีตาแต่หามีแววไม่ มิน่าลุงสุ่ยถึงได้บอกว่าหยกแขวนที่เฉินโม่มอบให้นั้นเป็นของขวัญล้ำค่าที่สุด”
“ฉันจำได้ว่าตอนที่เฉินโม่บอกว่าของขวัญที่พวกเรามอบให้ล้วนแต่เป็นของธรรมดา พวกเรายังหัวเราะเยาะเขา ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเราถึงจะเป็นคนที่น่าขำที่สุด”
“ถูกต้อง ถึงแม้ว่าหัวใจแห่งมหาสมุทรมีมูลค่าเป็นร้อยล้าน แล้วไงล่ะ? ช่วงเวลาวิกฤติมันสามารถช่วยชีวิตคนได้ไหม? มิน่าลุงสุ่ยถึงบอกว่าหัวใจแห่งมหาสมุทรสิบเม็ด ก็ไม่สามารถเทียบหยกแขวนของเฉินโม่ได้ ตอนนี้ฉันถึงเข้าใจมูลค่าที่แท้จริงของหยกแขวนชิ้นนี้!”
กลุ่มลูกเศรษฐีอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หยูเจียหาว เพราะก่อนหน้านั้นเขาเป็นคนที่ด่าเฉินโม่แรงที่สุด ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
หยูเจียหาวหน้าแดงด้วยความอับอาย มองเฉินโม่ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยดุร้าย เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าหยกแขวนที่เฉินโม่มอบให้ จะมีผลลัพธ์ที่มหัศจรรย์เช่นนี้!
ของที่ฝีมือหยาบแบบนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นของราคาถูก แต่ความจริงกลับทำให้คนรู้สึกตกตะลึง