แดนนิรมิตเทพ บทที่ 546
หยวนชิงซานและพระภิกษุสำนักลับทั้งสามรูปเองก็รีบถอยกลับเส้นทางเดินด้วยสีหน้าหวาดระแวง มีเพียงเฉินโม่ที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ มองดูงูเกล็ดแดงทิพย์มากมายพวกนั้น สองมือไขว้หลัง สีหน้าเรียบเฉย
“งูเกล็ดแดงทิพย์ตั้งงูตัวเมียเป็นปกครอง เพียงแค่ฆ่างูตัวเมียทิ้งพวกมันก็จะถอยกลับไปเอง พวกนายปกป้องดูแลตัวเองให้ดี ฉันไปหาเจ้างูตัวเมียออกมาเอง!”
เฉินโม่หยิบกระจกโบราณออกมาจากแหวนเก็บของ แล้วเปิดใช้งานการป้องกันของกระจกโบราณ ทำให้รอบตัวเหมือนมีเสื้อเกราะสวมใส่อยู่ แล้วค่อยๆเดินไปยังแท่นหิน
งูเกล็ดแดงทิพย์พวกนั้นส่งเสียงร้องใส่เฉินโม่ และแฉกลิ้นใส่ เห็นได้ชัดว่าโมโหเป็นอย่างมาก เหมือนว่ากำลังข่มขู่เฉินโม่ว่าห้ามเหยียบขึ้นไปบนแท่นหิน
“หากว่าพบเจ้างูตัวเมีย ฉันอาจจะยังกลัวอยู่บ้าง แต่แค่สัตว์เดรัจฉานอย่างพวกแก ยังกล้าที่จะข่มขู่ฉัน?”
เฉินโม่โบกสะบัดมือ พลังทิพย์โจมตีออกมา งูเกล็ดแดงทิพย์นับไม่ถ้วนที่ขวางอยู่ตรงหน้าถูกพัดสะบัดทิ้ง ตายไปมากมาย
แต่งูเกล็ดแดงทิพย์มีมากมายเหลือเกิน จึงมีงูทิพย์มากมายคลานเข้ามาอีกเยอะแยะแล้วไปรวมตัวแทนที่อยู่ตำแหน่งที่ถูกเฉินโม่กำจัดทิ้งเมื่อกี้
เฉินโม่ยิ้มเยาะ แล้วก็สะบัดมืออีกครั้ง ค่อยก้าวเดินไปข้างหน้า ขึ้นไปยังชั้นหินด้านบน
งูเกล็ดแดงทิพย์พวกนี้หลักแหลมอย่างมาก เห็นว่าทำร้ายเฉินโม่ไม่ได้ จึงแบ่งแยกออกไปโจมตีพวกคนที่ถอยกลับไปยังเส้นทางเดิน
เจี่ยงไต้ซือถือแผ่นหยกปากว้าไว้ ชั้นปกคลุมแสงสีเขียวครอบคลุมปากทางเดินไว้ ส่วนหยวนชิงซานและพระภิกษุทั้งสามก็ทำการโจมตีกำจัดงูที่แทรกเข้ามา
งูเกล็ดแดงทิพย์พวกนั้นเหมือนว่าไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ ต่างก็พยายามกระแทกชั้นปกคลุมที่เจี่ยงไต้ซือสร้างไว้ มีเสียงดังเหมือนดั่งกระสุนที่ยิงเข้าในกระแสน้ำ
ไช่เหวินหย่าตกใจจนกรีดร้องไม่หยุด ถูกพวกบอดี้การ์ดปกป้องไว้อย่างดี
“เจ้าหนุ่ม นายรีบคิดหาวิธีหาตัวงูตัวเมียออกมาเร็วๆ พวกเรายื้อไว้ได้ไม่นาน!” เจี่ยงไต้ซือตะโกนใส่เฉินโม่
เฉินโม่พยักหน้า แล้วค่อยๆเดินขึ้นไปบนแท่นหิน พลังเทพแผ่ซ่าน สัมผัสรอบด้าน แต่ไม่พบเจอร่องรอยของงูตัวเมียเลย
แต่เฉินโม่รู้ดีว่างูเกล็ดแดงทิพย์พวกนี้ไม่มีทางโผล่มาที่นี่โดยไร้เหตุผล ที่สุสานของราชินีจิงเจวี๋ยไม่มีกับดัก เป็นเพราะว่างูเกล็ดแดงทิพย์พวกนี้น่ากลัวมากยิ่งกว่ากับดักใดๆ งูเกล็ดแดงทิพย์พวกนี้อาจจะเป็นผู้ดูแลสุสานของราชินีจิงเจวี๋ย
เพียงแค่เปิดโลงศพของราชินีจิงเจวี๋ย เชื่อว่าเจ้างูตัวเมียนั้นต้องออกมาขัดขวางแน่นอน
เจี่ยงไต้ซือกัดฟันพยายามยื้อไว้ สีหน้าซีดเซียว งูทิพย์พวกนี้มีมากมายเกินไป ทุกครั้งที่โจมตีมาเหมือนดั่งธนูนับหมื่นยิงเข้ามา บนชั้นปกคลุมทุกกระเบียดนิ้วมีงูทิพย์กำลังพุ่งกระแทกอยู่
พลังชี่ทิพย์ในร่างกายของเจี่ยงไต้ซือกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว หากไม่ใช่ว่าหยวนชิงซานและพระภิกษุสำนักลับทั้งสามช่วยเขาแบ่งเบาภาระ แล้วงูทิพย์ยังคอยโจมตีเช่นนี้ เขาคงยื้อไว้ได้ไม่นาน
ช่วงระยะเวลาสำคัญ ทุกคนต่างมองข้ามเรื่องหนึ่งไป นั่นก็คือศพของงูเกล็ดแดงทิพย์พวกนั้นที่ถูกพวกเขาฆ่าทิ้ง กำลังค่อยๆเคลื่อนไหว เหมือนดั่งเลือดกำลังไหลเวียนอยู่บนพื้นดินสีดำ
สุดท้ายแล้วก็ค่อยๆรวบรวมตัวกัน
เฉินโม่ขึ้นไปกว่าครึ่งทางแล้ว ในตอนนี้ระยะทางที่ห่างจากโลงศพหยกขาวของราชินีจิงเจวี๋ย เหลือเพียงประมาณร้อยเมตรเท่านั้น
ในเวลานี้ งูทิพย์ที่กำลังโจมตีพวกเจี่ยงไต้ซืออย่างบ้าคลั่งได้หยุดนิ่งลงทันที เหมือนดั่งว่าถูกเรียกรวมตัว แล้วต่างก็คลานไปยังกลุ่มศพของงูเกล็ดแดงทิพย์อย่างบ้าคลั่ง
“เกิดอะไรขึ้น? พวกมันยอมแพ้แล้วงั้นหรอ?”
หยวนชิงซานพูดอย่างงุนงง
“อ๊าก สัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาด!”
ทันใดนั้น ไช่เหวินหย่าชี้ไปด้านหน้าและกรีดร้องเสียงดัง สีหน้าซีดเซียว
ทุกคนถึงกับหยุดหายใจ ตำแหน่งที่งูเกล็ดแดงทิพย์พวกนั้นรวมตัวกัน ได้มีหัวงูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น และในชั่วพริบตาก็ได้มีลำตัวงูปรากฏออกมา
“นี่มันคืออะไร?”
ทุกคนต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัว
เพียงชั่วพริบตา งูตัวใหญ่ขนาดสิบฟุตก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าทุกคนอย่างสมบูรณ์ แฉกลิ้นสีแดงเลือดมีความยาวขนาดแขน และกำลังแฉกลิ้นใส่ทุกคน
ส่วนงูเกล็ดแดงทิพย์มากมายพวกนั้น ก็หายไปในพริบตา แม้แต่ศพของงูทิพย์ก็ไม่เหลือทิ้งไว้