แดนนิรมิตเทพ บทที่ 553
“นั่นคืออะไร?” หยวนชิงซานแสดงสีหน้าตกใจ “ทำไมเมื่อกี้พวกเราถึงมองไม่เห็นมันละ?”
เฉินโม่ไม่ได้ตอบกลับ เขารู้เพียงชื่อเรียกในโลกบำเพ็ญเซียน แต่ไม่รู้ชื่อเรียกของบนโลกมนุษย์
เจี่ยงไต้ซือสีหน้างุนงง ส่ายหัวพูดว่า “ข้าเองก็โง่เขลา ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร!”
“ไต้ซือท่านนี้คือคนในพื้นที่ บางทีอาจจะเคยได้ยินประวัติเกี่ยวกับสิ่งของนั้นมาก่อน!”
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนหันรวมไปมองที่พระภิกษุสำนักลับทั้งสามรูป
พระภิกษุคนแรกคนนั้นท่องบทสวดเสียงเบา “ตำราโบราณของสำนักมีการบันทึกไว้อยู่จริง สิ่งนั้นเรียกว่าบุกศพหอม สามารถทำให้คนเกิดภาพลวงตา ถึงขั้นสามารถควบคุมความคิดจิตใจคนได้ เป็นสิ่งของที่ชั่วร้ายอย่างมาก!”
“เมื่อกี้ที่พวกเราเกิดภาพลวงตา คงจะเป็นเพราะมันทำให้เกิดขึ้น!”
เฉินโม่คิดในใจ “ที่แท้เจ้าสิ่งนี้เรียกว่าบุกศพหอมนี่เอง แต่ในโลกบำเพ็ญเซียน มันคือดอกลวงจิตตายที่มีชื่อเสียงโด่งดัง! สามารถทำให้คนเกิดภาพลวงตาจนทำให้ตายได้ แม้แต่ผู้บำเพ็ญเซียนที่มีพลังไม่สูงยังสามารถถูกมันล่อลวงได้”
“แต่ขณะเดียวกันดอกลวงจิตตายก็เป็นยาวิเศษที่มีน้อยมากเช่นกัน เป็นยาตัวหลักที่ใช้กลั่นยาชั้นสูงอย่างยาเสริมเทพ!”
“แต่ดอกลวงจิตตายมันเติบโตอยู่เพียงแค่บนไม้ทิพย์พรสวรรค์เท่านั้น แล้วทำไมดอกลวงจิตตายดอกนี้ถึงมาปรากฏอยู่บนก้อนหินได้ละ?”
ไช่เหวินหย่าตะโกนว่า “รีบกำจัดมันทิ้งสิ ไม่อย่างนั้นหากพวกเราถูกมันล่อลวงอีกจะทำยังไง?”
ทุกคนต่างพยักหน้า “เธอพูดถูก ฉันกำจัดมันเอง!”
หยวนชิงซานเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง แล้วแอบเคลื่อนไหวพลังชี้แท้
“รอเดี๋ยว ฉันทำเอง!” เฉินโม่เรียกเขาไว้ จากนั้นก็เดินเข้าไป
โบกสะบัดมือ พลังทิพย์ก็ห่อดอกลวงจิตตายไว้ แล้วโยนมันเข้าในแหวนเก็บของ
ทุกคนต่างแอบตกตะลึง ไม่รู้รู้ว่าเฉินโม่ใช้วิธีการอะไร แต่ในขณะเดียวกันก็โล่งใจขึ้น เมื่อไม่มีบุกศพหอม พวกเขาก็จะไม่เกิดภาพลวงตา
“ที่จริงแล้วตั้งแต่ที่พวกเราก้าวเดินขึ้นแท่นหิน ก็ได้ถูกมันล่อลวงไว้แล้ว มันสร้างภาพลวงตาที่พระราชวังใต้ดินกำลังจะถล่ม คิดอยากจะบีบให้พวกเราเข้าถ้ำนั้น จากนั้นก็ใช้สิ่งของที่พวกเราต้องการมากที่สุดมากหลอกล่อให้พวกเราตกหน้าผา”
“หากไม่ได้เห็นเองกับตา ฉันคงไม่กล้าเชื่อจริงๆว่าบนโลกนี้จะยังมีสิ่งของที่น่ามหัศจรรย์เช่นนี้อยู่!”
เจี่ยงไต้ซือพูด รู้ถึงเหตุผลที่เกิดแล้ว
หยวนชิงซานเองก็กระจ่างแจ้ง “ก็ว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่าโลงศพเบามากเหมือนไม่มีอะไร ที่แท้ก็เป็นเพราะเจ้าสิ่งนั้นมันทำนี่เอง!”
ไช่เหวินหย่าพูดอย่างตื่นเต้นว่า “อย่างนั้นตอนนี้พวกเราสามารถเปิดโลงศพของราชินีจิงเจวี๋ยได้แล้วสินะ!”
ทุกคนตาเป็นประกาย ใช่แล้ว นี่คือสิ่งสำคัญ
หยวนชิงซานอาสาสมัคร “ให้ฉันจัดการเอง!”
“ได้!”ทุกคนพยักหน้า
เฉินโม่เองก็ไม่พูดอะไร มองดูหยวนชิงซานออกแรงดึงโลงศพหยกขาวนั้นขึ้นมา
หยวนชิงซานกวาดมองคนอื่น แล้วจับฝาโลงไว้ ตะโกนว่า “เปิด!”
พลังของแดนในชั้นสูงสุดไม่ธรรมดา สิ่งของหนักพันตันแต่เมื่ออยู่ในมือของหยวนชิงซานแล้วกลายเป็นเบามาก
เมื่อฝาโลงเปิดออกแล้ว ทุกคนชะโงกหน้ามองอย่างหวาดผวา
“ทำไมถึงว่างเปล่าละ?” ไช่เหวินหย่าอุทานออกมาอย่างตกตะลึง
ใช่แล้ว ภายในโลงศพว่างเปล่า มีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น แล้วยังเน่าเสียแล้วด้วย เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้น ไม่ใช่เครื่องราง
“ดอกฮิกันบานะ ดอกฮิกันบานะของฉันละ?” ไช่เหวินหย่าเศร้าใจอย่างมาก โลงศพของราชินีจิงเจวี๋ยว่างเปล่า แล้วดอกฮิกันบานะอยู่ที่ใด?
หรือว่าดอกฮิกันบานะเป็นเพียงแค่ตำนานที่ไม่มีอยู่จริงเท่านั้น?
“ดูผ้าชิ้นนั้นสิ เสื้อผ้าชิ้นอื่นเน่าเสียไปหมดแล้ว แต่มันกลับปกติดี ต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน!” หยวนชิงซานชี้ผ้าสีเหลืองเก่าแก่ที่โผล่ออกมาจากกองเสื้อผ้าเน่าเสีย
เฉินโม่โบกมือ ผ้าสีเหลืองเก่าแก่นั้นก็ลอยมาอยู่ในมือทันที
เมื่ออยู่ในมือทุกคนถึงได้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันคือตำราโบราณหนังแพะ